AOT งวดปี64 ขาดทุนอ่วม 1.6หมื่นล้าน เหตุโควิดระบาดซ้ำหลายระลอก

AOT งวดปี64 ขาดทุนอ่วม 1.6หมื่นล้าน เหตุโควิดระบาดซ้ำหลายระลอก

ทอท. เผยผลการดำเนินงานงวดปี64 ขาดทุน 16,322.01 ล้าน จากช่วงเดียวกันปีก่อน กำไรสุทธิจำนวน 4,320.68 ล้านบาท รายได้รวม  7,838.44 ล้านบาท ลดลง76.34% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน เหตุโควิดระบาดซ้ำหลายระลอกและช่วยเหลือคู่ค้าสนามบิน

บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด(มหาชน) (ทอท.) หรือ AOT แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)ว่า สำหรับปี2564 สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย. 2564 บริษัทมีผลการดำเนินงานขาดทุนสุทธิจำนวน 16,322.01 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิจำนวน 4,320.68 ล้านบาท

โดยมีรายได้รวม 7,838.44 ล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อนมีรายได้รวม 33,133.92ล้านบาท หรือลดลง76.34% 
 

 

เนื่องจากรายได้จากการขายหรือการให้บริการลดลง
24,093.50 ล้านบท หรือ 77.27 % จากการลดลงทั้งรายได้เกี่ยวกับกิจการการบิน 14,297.00 ล้านบาท หรือ
 85.99 % และรายได้ที่ไม่เกี่ยวกับกิจการการบิน 9,796.50 ล้านบาท หรือ67.31%เนื่องจากการลดลงของจำนวนเที่ยวบินและจำนวนผู้โดยสาร รายได้อื่นลดลง 1,201.98 ล้านบาท หรือ 61.49 %

แต่ค่าใช้จ่ายรวมลดลง 1,740.76 ล้านบาท หรือ 6.41 % ส่วนใหญ่เกิดจากการลดลงของค่าตอบแทนการใช้ประโยชน์ในที่ราชพัสดุ ค่าจ้างภายนอก รวมทั้งค่าซ่อมแซมและบำรุงรักษา ในขณะที่ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายเพิ่มขึ้น รวมทั้งต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้น 2.326.80 ล้านบาท หรือ 360.07 %เนื่องจากดอกเบี้ยจ่ายของหนี้สินตามสัญญาเช่าเพิ่มขึ้น สำหรับรายได้ภาษีเงินได้เพิ่มขึ้น 5.21 1.21 ล้านบาท หรือ 502.02% สอดคล้องกับผลการดำเนินงานที่ลดลง

ภาพรวมของผลการดำเนินงานด้านปริมาณการจราจทางอากาศของ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด
(มหาชน) (ทอท.) ระหว่างเดือนตุลาคม 2563 -กันยายน 2564 ลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา

เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ตั้งแต่ต้นปี 2563 ส่งผลต่อการเดินทางเข้า-ออกประเทศไทย และทั่วทุกภูมิภาคของโลก นอกจากนั้นแล้วการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19ยังทวีความรุนแรงและขยายวงกว้างขึ้น ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่ออุตสาหกรรมการเดินอากาศและการท่องเที่ยวจากมาตรการจำกัดการเดินทางทางอากาศระหว่างประเทศ ในขณะที่การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ภายในประเทศที่เกิดขึ้นซ้ำหลายระลอก

ประกอบกับภาครัฐได้ออกข้อกำหนดในการจำกัดและควบคุมการเดินทางอย่างเคร่งครัดเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดดังกล่าว ส่งผลให้จำนวนเที่ยวบินและผู้โดยสารลดลงอย่างมาก ต่อมาสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยได้ออกประกาศเกี่ยวกับแนวปฏิบัติสำหรับผู้ดำเนินการสนามบินและผู้ดำเนินการเดินอากาศในเส้นทางการบินภายในประเทศในระหว่างสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ฉบับที่ 5 เพื่อให้หน่วยงานที่ให้บริการขนส่งทางอากาศดำเนินการได้ตั้งแต่ 1 กันยายน 2564 เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์ดังกล่าวจะสิ้นสุดไปหรือมีประกาศอื่นใดเพิ่มเติม ซึ่งประกาศข้างต้นส่งผลดีต่อภาคอุตสาหกรรมด้านการบิน การท่องเที่ยว และเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ

ทอท.ได้ตระหนักถึงผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจ
และสภาพคล่องในการดำเนินงานของผู้ประกอบการและสายการบินที่เป็นคู่ค้าของ ทอท. ณ ท่าอากาศยานที่อยู่ในความรับผิดชอบดำเนินงานของ ทอท.ทั้ง 6 แห่ง โดย ทอท.ได้มีมาตรการให้ความช่วยเหลือมาอย่างต่อเนื่อง และล่าสุดในการประชุมคณะกรรมการ ทอท.เมื่อ 25 สิงหาคม 2564 ที่ประชุมได้มีมติอนุมัติมาตรการช่วยเหลือสายการบินโดยเลื่อนการชำระค่าบริการสนามบิน (Landing and Parking Charges) และเครื่องอำนวยความสะดวก (AircraftService Charges) สำหรับงวดที่ครบกำหนดชำระตั้งแต่เดือนเมษายน - ธันวาคม 2564 ออกไปงวดละ 9 เดือน และให้สามารถแบ่งชำระเงินในแต่ละงวดดังกล่าวสูงสุดได้ไม่เกิน 12 เดือน ให้กับสายการบินที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติดังกล่าวที่มีหนังสือร้องขอมายัง ทอท.

อย่างไรก็ตาม มาตรการให้ความช่วยเหลือข้างต้นจะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่ ทอท.กำหนด
ปริมาณการจราจรทางอากาศของท่าอากาสยานทั้ง 6 แห่ง ของ ทอท. สำหรับปีสิ้นสุดวันที่30 กันยายน 2564 มีจำนวนเที่ยวบินรวม 245,458 เที่ยวบิน ลดลงร้อยละ 52.35 เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน แบ่งเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศ 67,018 เที่ยวบิน และเที่ยวบินภายในประเทศ 178,440 เที่ยวบิน ส่วนจำนวนผู้โดยสารรวม
มีทั้งหมด 20.01 ล้านคน ลดลงร้อยละ 72.45 เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน แบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศ 0.95ล้านคน และผู้โดยสารภายในประเทศ 19.06 ล้านคน

ในปี 2564 ทอท.มีผลการดำเนินงานลดลง 20,642.69 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีก่อนซึ่งมีกำไรสุทธิ 4,320.68
ล้านบาท โดยมีรายได้รวมลดลง 25,295.48 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายรวมลดลง 1,740.76 ล้านบาท และรายได้ภาษีเงินได้เพิ่มขึ้น 5.21 1.21 ล้านบาท สอดคล้องกับผลการดำเนินงานที่ลดลง