ผลตอบแทนพันธบัตรและค่าเงินสหรัฐฯ ลง หนุนบรรยากาศลงทุนเอเชีย

ผลตอบแทนพันธบัตรและค่าเงินสหรัฐฯ ลง หนุนบรรยากาศลงทุนเอเชีย

ผลตอบแทนพันธบัตรและค่าเงินสหรัฐฯ ลดลง เป็นบวกกับเอเชียวันนี้ แม้ตลาดจะยังระมัดระวังและจับตาเกี่ยวกับตัวเลขเงินเฟ้อของภูมิภาคต่างๆที่อาจกระทบต่อการดำเนินนโยบายของธนาคารกลางขนาดใหญ่

อย่างไรก็ตามผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ปรับลดลงเหลือ 1.57% (จาก 1.65%) ขณะที่ดัชนีค่าเงินสหรัฐฯ อ่อนลงเหลือ 95.54 (จาก 96.24) ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อทิศทางเงินทุนในฝั่งเอเชีย และน่าจะเป็นปัจจัยให้ภาพรวมของตลาดผ่อนคลายมากขึ้นในวันนี้ ปัจจัยสำคัญช่วงสุดสัปดาห์คือการติดตามการเสนอชื่อประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ คนใหม่ ว่าจะยังเป็นเจอโรม พาวเวล (ซึ่งตลาดน่าจะตอบรับเป็นบวก) หรือเปลี่ยนเป็น เลอัล แบร์นาร์ด (ตลาดอาจผันผวนระยะสั้น)

 

ยังหาจังหวะสะสมหุ้นเปิดเมือง โดยระยะสั้น สื่อสาร IPO ใหม่ และการเงิน มีโอกาสถูกหมุนมาเก็งกำไร

เรายังคงมองบวกต่อธีมเปิดเมือง ซึ่งบวกต่อหุ้นธนาคาร, อสังหาริมทรัพย์, ค้าปลีก, สื่อสาร และท่องเที่ยว (เก็งกำไรเป็นรอบ) อย่างไรก็ตาม การเก็งกำไรระยะสั้นตลาดพยายามมองหาหุ้นที่นักลงทุนยังมีการถือครองน้อย (under-owned) ในช่วงที่ผ่านมา อาทิ สื่อสาร, IPO เข้าใหม่, การเงิน, บันเทิง เป็นต้น ทำให้หุ้นกลุ่มนี้อาจเคลื่อนไหวได้ดี หุ้นในกลุ่มนี้ ได้แก่ ADVANC, DTAC, TRUE, PIN, ONEE, UBCE, CV, TIDLOW, SAWAD, RS, WORK, TKN
 

 

 

ธีมการลงทุนระยะสั้น 1) พลังงานทดแทนและรถไฟฟ้ารับ COP26 ดีกับ EA, NEX, SUPER 2) กลุ่มโภคภัณฑ์ป้องกันเงินเฟ้อ PTTEP, PTTGC, IVL, TOP 3) ผลตอบแทนพันธบัตรขยับขึ้น ซึ่งบวกกับกลุ่มธนาคารและประกัน อาทิ BBL, KBANK, SCB, TIPH 4) หุ้นธีมเปิดเมือง CPN, CRC, MINT, CENTEL, ERW, BA 5) เรามองทยอยสะสม สื่อสาร สาธารณูปโภค ADVANC, DTAC, FTREIT, WHART, GULF, GPSC, EGCO, RATCH, EASTW, WHAUP, TTW 6) ผ่อนคลายเกณฑ์ LTV ได้แก่ SPALI, QH, PSH, ORI, LPN, LH, AP (ตามลำดับ) 7) ความขัดแย้งสหรัฐฯ-จีน หนุนการย้ายฐานผลิตมาไทย บวกกับ AMATA, WHA, ROJNA, CCET, SMT 8) กลุ่มการเงินหรือ IPO ที่ยังขึ้นน้อย IFS, PIN, ONEE, CV, UBE

ภาพรวมกลยุทธ์: แกว่งตัว 1,635-1,660 จุด กลยุทธ์เก็งกำไรรายตัว ในกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการบริโภคในประเทศ ระยะสั้นมีโอกาสเห็นการหมุนมายังสื่อสาร และหุ้นที่เพิ่ง IPO เข้ามาไม่นาน //หุ้นแนะนำ: ADVANC*, ONEE*, IFS*, FSMART*

แนวรับ: 1,635 / แนวต้าน : 1,660 จุด สัดส่วน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%

 

 

ประเด็นการลงทุน
 

BAM – เร่งแผนร่วมทุนสถาบันการเงิน ตั้ง AMC บริหารจัดการหนี้ ถือรายละไม่เกิน 40% คาดปิดดีลภายในปลายปีนี้ ยันไม่หวั่นดีล JMT กับกสิกร ล่าสุดมีพอร์ตหนี้เสียกว่า 8.4 หมื่นล้านบาท มั่นใจปีนี้เรียกเก็บหนี้ 1.74 หมื่นล้านบาท พร้อมดีลซื้อหนี้เพิ่มอีก 1.1 หมื่นล้านบาท

ANAN – เตรียมเปิดจองซื้อหุ้นเพิ่มทุน 833.25 ล้านหุ้น ในอัตรา 4:1 ในราคาขายหุ้นละ 1.55 บาท คนจองหุ้นเพิ่มทุนได้รับแจกฟรีวอร์แรนต์ ANAN-W1 จำนวน 833.25 ล้านหน่วย ในอัตรา 1:1 อายุ 2 ปี 

WHA – ชี้ยอดขายที่ดินนิคมพุ่งแตะ 1,044 ไร่ สูงกว่าเป้าที่วางไว้ 820 ไร่ รับตั้งแต่ต้นปีเจรจาได้สูงถึง 3 พันไร่ ชี้หากไม่มีล็อกดาวน์ยอดขายมีแนวโน้มพุ่งขึ้นอีก

ตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานสหรัฐต่ำสุดนับตั้งแต่เกิดโควิด – กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 1,000 ราย สู่ระดับ 268,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2563 ซึ่งเป็นช่วงเริ่มต้นการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ

Opportunity day –19 พ.ย. – TFM, TCMC, JUBILE, ALLY, NVD, VCOM, TU, HANA, UAC, HUMAN / 22 พ.ย. – VL, EA, CPANEL, SELIC, EPG, BA, NCAP / 23 พ.ย. – PTTGC, ITEL, KTC, ILINK, KISS, SEAFCO, AGE, L&E, SICT, PYLON, BCP /

MAKRO/CPALL/CPF – วันจันทร์ที่ 22 พ.ย.64 ขึ้นเครื่องหมาย XB สิทธิ์ในการซื้อหุ้นเพิ่มทุน MAKRO ที่จะจำหน่ายผ่านการทำ Public Offering 

 

ประเด็นติดตาม: -   19-21 พ.ย. – US: การเสนอชื่อประธานเฟดคนใหม่, / 23 พ.ย.: US manufacturing PMI เดือน พ.ย.

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)