MAKRO ขึ้น XB 22 พ.ย. รับสิทธิซื้อหุ้นตอบรับแผนรวม "เทสโก้โลตัส"

MAKRO  ขึ้น XB 22 พ.ย. รับสิทธิซื้อหุ้นตอบรับแผนรวม  "เทสโก้โลตัส"

MAKRO พร้อมขายหุ้นสามัญแก่ประชาชนทั่วไป หลังก.ล.ต.นับหนึ่งไฟลิ่ง เตรียมขึ้นเครื่องหมาย XB 22พ.ย. ให้สิทธิผู้ถือหุ้นเดิมจองซื้อหุ้นแบบ Small Lot Firstเปิดจองซื้อผ่านทางออนไลน์และ สาขาของตัวแทนจำหน่ายหุ้นและตัวแทนรับจองซื้อ

นางสุชาดา อิทธิจารุกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจสยามแม็คโคร(ธุรกิจค้าส่ง)เปิดเผยว่า หลังจากที่ MAKRO รับโอนกิจการทั้งหมดของกลุ่มโลตัสส์แล้วเสร็จเมื่อวันที่ 25 ต.ค. 2564 ส่งผลMAKRO มีธุรกิจแบบครบวงจร ครอบคลุมธุรกิจค้าส่งแบบ B2B (Business to Business หรือการค้ากับผู้ประกอบการ) ธุรกิจค้าปลีกแบบB2C (Business to Consumer หรือ การค้ากับผู้บริโภค) และธุรกิจบริหารพื้นที่เช่าในศูนย์การค้าในประเทศไทยและประเทศมาเลเซีย

ทั้งนี้ ณ วันที่30 กันยายน2564MAKROมีศูนย์จำหน่ายสินค้ารวม145 สาขา ประกอบด้วย สาขาในไทย 138 สาขา และต่างประเทศ 7สาขา ได้แก่ กัมพูชา อินเดีย (ภายใต้แบรนด์ “LOTS Wholesale Solutions”) จีนและเมียนมา และมีการจำหน่ายสินค้าผ่านแพลตฟอร์ออนไลน์ ได้แก่ เว็บไซต์ Makroclick.comMakro Application และ Makro Line Official Account

ส่วนกลุ่มโลตัสส์ ณ วันที่ 30 กันยายน2564 มีร้านค้ารวม2,164 แห่งทั่วประเทศไทย ประกอบด้วยร้านไฮเปอร์มาร์เก็ต 222 แห่ง ซูเปอร์มาร์เก็ต 192 แห่ง และมินิซูเปอร์มาร์เก็ต 1,750 แห่งอีกทั้งกลุ่มโลตัสส์ยังเป็นผู้นำธุรกิจบริหารพื้นที่เช่าภายในศูนย์การค้าในไทยเมื่อพิจารณาจากศูนย์การค้าที่มีการบริหารพื้นที่เช่า199 แห่งมีพื้นที่รวมประมาณ 720,000 ตารางเมตร (ไม่รวมศูนย์การค้าที่ลงทุนโดยกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าโลตัสส์ รีเทล โกรท(LPF)รวม 23 แห่ง) 


นอกจากนี้กลุ่มโลตัสส์ยังเป็นผู้ประกอบการชั้นนำในธุรกิจค้าปลีกและธุรกิจบริหารพื้นที่เช่าภายในศูนย์การค้าในประเทศมาเลเซียที่ดำเนินธุรกิจผ่าน Lotus’s Malaysia ซึ่งเป็นบริษัทย่อย โดย ณ วันที่ 30 กันยายน2564 มีร้านไฮเปอร์มาร์เก็ต 46 แห่ง ซูเปอร์มาร์เก็ต 16 แห่งและบริหารพื้นที่เช่าในศูนย์การค้า 57 แห่ง คิดเป็นพื้นที่ให้เช่าสุทธิรวมประมาณ296,000 ตร.ม. มีอัตราเช่าพื้นที่ร้อยละ 92

บริษัทมั่นใจว่าจากการรับโอนกิจการทั้งหมดของกลุ่มโลตัสส์จะเกิดการสร้างมูลค่าจากการเสริมศักยภาพซึ่งกันและกัน (synergy)  ช่วยลดการลงทุนที่ซ้ำซ้อนในระบบหน่วยงานสนับสนุน (Back Office) โดยจะร่วมมือกันพัฒนาร้านค้าและช่องทางจำหน่ายสินค้าที่ครบครัน(omni-channel)ให้ครอบคลุมหลากหลายประเทศในภูมิภาคเอเชียใต้และอาเซียนที่ยังมีอัตราการเข้าถึงร้านค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภคสมัยใหม่ในระดับต่ำ เช่น กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม (CLMV) อินเดีย เป็นต้น

โดยผ่านการพัฒนาแพลตฟอร์ม O2O ที่เป็นการผสมผสานระหว่างช่องทางออฟไลน์และออนไลน์ (offline and online)ในกลุ่มสินค้าอาหารสดและสินค้าอุปโภคบริโภค และความสามารถที่ส่งเสริมซึ่งกันและกันในการจัดหาสินค้าเพื่อตอบสนองผู้บริโภคและสร้างประสบการณ์ที่ดีในการเลือกซื้อสินค้า โดยจะใช้แพลตฟอร์มทางธุรกิจที่แข็งแกร่งในไทยต่อยอดสร้างแพลตฟอร์มค้าส่งและค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภคหลากหลายรูปแบบในทวีปเอเชีย โดยเน้นภูมิภาคเอเชียใต้และอาเซียน

MAKRO  ขึ้น XB 22 พ.ย. รับสิทธิซื้อหุ้นตอบรับแผนรวม  "เทสโก้โลตัส"

ส่วนผลการดำเนินงานตามข้อมูลทางการเงินรวมเสมือนงวด 9 เดือนแรกปี 2564 ซึ่งรวมงบการเงินในอดีตของกลุ่มโลตัสส์หลังปรับปรุงรายการเกี่ยวกับการซื้อขายธุรกิจเทสโก้และธุรกรรมการจัดหาเงิน รวมถึงปรับปรุงรายการที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมการรับโอนกิจการทั้งหมด การจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนให้กับบุคคลในวงจำกัดและธุรกรรมการรีไฟแนนซ์บริษัทฯ มีรายได้รวม319,563ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 5,344ล้านบาท


ขณะที่ผลการดำเนินงานในปี 2563 MAKRO มีรายได้รวม 218,760 ล้านบาท และกำไรอยู่ที่ 6,524ล้านบาท ขณะที่ บจ. ซี.พี. รีเทล ดีเวลลอปเม้นท์ ซึ่งเป็นบริษัทโฮลดิ้งที่ถือหุ้นในกิจการโลตัสส์ในไทยและมาเลเซีย มีรายได้รวมเสมือน 211,107 ล้านบาท และกำไรรวมเสมือน 1,514ล้านบาทซึ่งกล่าวได้ว่า หลังจากการรับโอนกิจการ MAKROจะกลายเป็นบริษัท ที่มีรายได้รวมถึง 429,867 ล้านบาท 

การที่MAKRO รับโอนกิจการทั้งหมดของกลุ่มโลตัสส์เป็นการปรับโฉมทางธุรกิจ โดยมีตำแหน่งทางการตลาด (market positioning) และกลยุทธ์ที่โดดเด่น ซึ่งจะเพิ่มศักยภาพและโอกาสการขยายธุรกิจในระดับภูมิภาค รวมถึงยกระดับเป็นผู้ประกอบการค้าปลีกและค้าส่งรายใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เมื่อพิจารณาจากยอดขายค้าปลีกในปี 2563 อยู่ที่1.29 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยMAKROถือเป็นผู้ประกอบการค้าส่งรายใหญ่อันดับ 2 ในทวีปเอเชียเมื่อพิจารณาจากยอดขายปี2563ขณะที่กลุ่มโลตัสส์เป็นผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภคชั้นนำ ที่มีร้านค้าหลากหลายรูปแบบอยู่ทั่วประเทศ และเป็นผู้ประกอบการชั้นนำที่ดำเนินธุรกิจร้านไฮเปอร์มาร์เก็ตในศูนย์การค้าของบริษัทฯ ในประเทศไทยและมาเลเซีย

นางสาววีณา เลิศนิมิตร ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน Investment Banking ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายกล่าวว่าหลังจากบริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) หรือ MAKROได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (แบบไฟลิ่ง) ต่อสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนและหุ้นสามัญเดิมแก่ประชาชนทั่วไป (Public Offering หรือ PO) จำนวนไม่เกิน2,270 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาทปัจจุบันสำนักงาน ก.ล.ต.  นับหนึ่งแบบไฟลิ่งเป็นที่เรียบร้อย

การเสนอขายหุ้นสามัญครั้งนี้จะทำให้สามารถเพิ่มสัดส่วนการกระจายการถือหุ้นโดยผู้ถือหุ้นรายย่อย (Free Float)เป็นไม่ต่ำกว่าร้อยละ15 ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว ตามเกณฑ์ขั้นต่ำของตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งจะส่งผลดีต่อการเพิ่มสภาพคล่องในการซื้อขายหุ้นของบริษัทฯอีกทั้งส่งผลให้หุ้นของบริษัทฯ เป็นที่สนใจของนักลงทุนสถาบันทั้งในไทยและต่างประเทศ รวมถึงมีโอกาสได้รับเลือกเข้าสู่การคำนวณในดัชนีที่สำคัญต่างๆ โดย MAKROจะนำเงินจากการระดมทุนไปใช้ขยายธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งทั้งในไทยและต่างประเทศ รวมถึงนำไปชำระเงินกู้ยืมสถาบันการเงินบางส่วน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินกิจการต่อไป

ทั้งนี้ การเสนอขายหุ้นสามัญดังกล่าวแก่ผู้จองซื้อรายย่อย จะจัดสรรหุ้นด้วยวิธี Small Lot First ผ่านตัวแทนจำหน่ายหุ้น(Selling Agents)3 ราย ได้แก่ (1) แอปพลิเคชัน SCB Easy(2) แอปพลิเคชัน Bangkok Bank Mobile Bankingและ (3) แอปพลิเคชัน TrueMoney Wallet โดยบริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที โดย MAKRO จะแจ้งช่วงราคาเสนอขายเบื้องต้นให้ทราบหลังจากได้รับอนุมัติแบบคำขอเสนอขายหลักทรัพย์และแบบไฟลิ่งมีผลใช้บังคับแล้ว

นายพิเชษฐ สิทธิอำนวย กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายกล่าวว่า สำหรับผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) หรือ MAKRO บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL และบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPFที่จะได้รับการจัดสรรหุ้นบางส่วนจากหุ้นสามัญของบริษัทฯ ทั้งหมดที่จะเสนอขายให้แก่ประชาชนทั่วไป (Public Offering หรือ PO) ได้กำหนดให้วันที่ 22พฤศจิกายน 2564 เป็นวันที่ขึ้นเครื่องหมาย XBวันแรก

กล่าวคือผู้ที่ซื้อหุ้นสามัญของ MAKRO และ CPALL และ CPF ในวันดังกล่าวข้างต้นเป็นต้นไป จะไม่ได้รับสิทธิจองซื้อหุ้นสามัญMAKRO ที่เสนอขายในครั้งนี้และวันที่ 23 พฤศจิกายนนี้ จะเป็นวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นเดิม(Record Date) ของ MAKRO CPALL และ CPFที่จะได้รับการจัดสรรหุ้น ซึ่งมีอัตราส่วนการใช้สิทธิ (Ratio) จองซื้อหุ้นสามัญMAKRO ที่มีการกำหนดไว้ดังนี้(1) ผู้ถือหุ้นเดิมของ MAKROในอัตราส่วน 10 หุ้นสามัญของ MAKRO ต่อ 1 หุ้นสามัญของ MAKRO ที่เสนอขาย(2) ผู้ถือหุ้นเดิมของ CPALLในอัตราส่วน 15 หุ้นสามัญของ CPALL ต่อ 1 หุ้นสามัญของ MAKRO ที่เสนอขาย และ (3) ผู้ถือหุ้นเดิมของ CPF ในอัตราส่วน 70 หุ้นสามัญของ CPF ต่อ 1 หุ้นสามัญของ MAKRO ที่เสนอขาย

ส่วนผู้ถือหุ้นเดิมที่ได้รับสิทธิจองซื้อหุ้นสามัญ MAKRO สามารถจองซื้อผ่านตัวแทนรับจองซื้อหุ้น (Subscription Agents )2 ราย ได้แก่ การจองซื้อผ่านแอปพลิเคชัน SCB Easyและแอปพลิเคชัน Bangkok Bank Mobile Banking หรือในกรณีที่ไม่สะดวกจองซื้อผ่านช่องแอปพลิเคชันดังกล่าวข้างต้น ผู้ถือหุ้นเดิมสามารถจองซื้อได้ที่สาขาของธนาคารไทยพาณิชย์และธนาคารกรุงเทพ ทุกสาขาทั่วประเทศไทยโดยสามารถจองซื้อตามสิทธิที่ได้รับจัดสรร หรือเกินกว่าสิทธิที่ได้รับจัดสรร โดยไม่กำหนดจำนวนจองซื้อสูงสุดของการจองซื้อหุ้นเกินกว่าสิทธิที่ได้รับการจัดสรร) หรือน้อยกว่าสิทธิที่ได้รับจัดสรรก็ได้การจัดสรรหุ้นจะจัดสรรโดยระบบของ SETTRADE จะจัดสรรหุ้นตามสิทธิที่ได้รับแก่ผู้ถือหุ้นเดิมทุกรายที่จองซื้อในรอบแรก

โดยสิทธิในการได้รับจัดสรรหุ้นสามัญเกินกว่าสิทธิของผู้ถือหุ้นเดิมทั้ง 3 บริษัทแต่ละรายจะคำนวณจากการนำสิทธิของผู้ถือหุ้นเดิมของทั้ง 3 บริษัทที่แสดงความจำนงจองซื้อเกินกว่าสิทธิที่ยังได้รับการจัดสรรไม่ครบในแต่ละรอบมารวมกัน และจะจัดสรรเพิ่มแก่ผู้จองซื้อเกินกว่าสิทธิของผู้ถือหุ้นเดิมใน MAKROCPALL และ CPF จนกว่าหุ้นจะหมดหรือครบตามจำนวนที่มีผู้ถือหุ้นเดิมใช้สิทธิจองซื้อ ทั้งนี้จะเป็นไปตามรายละเอียดตามที่เปิดเผยในไฟลิ่งส่วนกรณีที่ผู้จองซื้อหุ้นรายเดียวกันยื่นใบจองซื้อมากกว่า 1 ใบ ระบบการจัดสรรของ SETTRADE จะรวมจำนวนหุ้นที่จองซื้อจากทุกใบจองเป็นยอดเดียว ทั้งนี้ สำหรับผู้ถือหุ้นเดิมที่มีสิทธิจองซื้อหุ้นสามัญสามารถตรวจสอบสิทธิที่ได้รับจัดสรรทางwww.settrade.comได้ตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน 2564เป็นต้นไป รวมถึงสามารถติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย www.set.or.th