3 ปี รัฐอุดหนุน "ประกันรายได้" สินค้าเกษตร 5 ชนิด แล้ว 276,193 ล้านบาท

3 ปี รัฐอุดหนุน "ประกันรายได้" สินค้าเกษตร 5 ชนิด แล้ว 276,193 ล้านบาท

โฆษกรัฐบาลเผย นายกฯ ให้ความมั่นใจพี่น้องเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ยืนยันรัฐบาลช่วยเหลือเต็มที่ มอบ ก.คลัง-เกษตร-พาณิชย์ แก้ไขราคาสินค้าการเกษตร-ยกระดับผลิตผล-ส่งเสริมการตลาด ในรอบ 3 ปี อุดหนุน "ประกันรายได้" สินค้าเกษตร 5 ชนิด แล้ว 276,193 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 11 พ.ย.64 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยืนยันดูแลพี่น้องเกษตรกรทั่วประเทศ โดยเร่งให้กระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ หารือวิเคราะห์แนวโน้มราคาพืชผลทางการเกษตร หามาตรการช่วยเหลือเกษตรกรให้เหมาะสม ต้องดูเรื่องความเป็นไปได้ของงบประมาณ ไม่บิดเบือนกลไกตลาด

เพื่อให้เป็นไปตามวินัยการเงินการคลัง โดยคำนึงถึงความจำเป็นเร่งด่วน และกรอบวงเงินงบประมาณอย่างรอบคอบ และรัดกุม ขณะเดียวกันก็ต้องเร่งส่งเสริมการวิจัย และพัฒนาพันธุ์ข้าวอย่างเป็นระบบ ให้ไทยมีพันธุ์ข้าวใหม่ๆ เป้าหมายสำคัญคือ เกษตรกรได้ประโยชน์ รัฐบาลสามารถลดภาระด้านงบประมาณ และงบประมาณประเทศถูกใช้อย่างคุ้มค่า

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการดำเนินงานของรัฐบาลที่ผ่านมาว่า ได้มีมาตรการประกันราคาสินค้าเกษตร 5 ชนิด ทั้ง ข้าว ปาล์ม มันสำปะหลัง ยางพารา ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์

โดยในรอบ 3 ปี (พ.ศ.2562 – 2564) ที่วาระการขออนุมัติผ่านคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบงบประมาณ อุดหนุน "ประกันรายได้" จ่ายส่วนต่างราคาสินค้าเกษตร 5 ชนิด รวมยอด 276,193 ล้านบาท ดังนี้

  • ข้าว 190,311 ล้านบาท
  • ยางพารา 37,821 ล้านบาท
  • ปาล์ม 22,186 ล้านบาท
  • มันสำปะหลัง 20,372 ล้านบาท
  • ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 5,503 ล้านบาท

นายกรัฐมนตรียังเร่งรัดให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทำการลงพื้นที่เข้าสำรวจ และดูแลเกษตรกรผู้เพาะปลูก เพื่อวางแผนตลอดห่วงโซ่การผลิต ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ครอบคลุมทั้งการผลิต-การจัดจำหน่าย และการตลาดในประเทศและการตลาดต่างประเทศ

“นายกรัฐมนตรีเห็นใจพี่น้องเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ได้มีการจัดสรรงบประมาณเพื่อสนับสนุนการดำเนินโครงการประกันราคาข้าว รวมทั้งยังมีมาตรการคู่ขนาน เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวของไทยอย่างต่อเนื่อง

ทั้งกำชับทุกฝ่ายให้ช่วยกันดำเนินการอย่างโปร่งใส สุจริต และสามารถตรวจสอบได้ โดยเดินหน้าควบคู่ไปกับการส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาพันธุ์ข้าว ผลิตข้าวทางเลือกที่มีมูลค่าสูง อาทิ ข้าวอินทรีย์ ยกระดับแปลงใหญ่ด้วยเกษตรสมัยใหม่ และเชื่อมโยงตลาด เพื่อให้พี่น้องชาวนาได้รับผลตอบแทนที่ดีขึ้น

รวมทั้งส่งเสริมการจัดตั้งศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวอินทรีย์ชุมชน และโรงสีข้าวอินทรีย์ของเครือข่าย เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม ลดต้นทุนราคาให้ข้าวไทยสามารถแข่งขันกับตลาดต่างประเทศ

ขณะเดียวกันก็เร่งสร้างความเข้มแข็งของเกษตรกร ที่สำคัญให้การเกษตรไทยสามารถสร้างรายได้เป็นอาชีพอย่างยั่งยืน” นายธนกร กล่าว 

พิสูจน์อักษร โดย....สุรีย์  ศิลาวงษ์