ร้านข้าวแกงโอด ‘น้ำมันแพง-น้ำท่วม’ ดันต้นทุนพุ่ง

ราคาน้ำมันที่ปรับสูงขึ้นต่อเนื่องโดยเฉพาะราคาดีเซลที่ส่งผลกระทบเป็นห่วงโซ่ ทำให้ต้นทุนราคาสินค้าเพิ่มขึ้น รวมถึงสถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ทำให้ผลผลิตเสียหาย ทีมข่าวลงพื้นที่สำรวจร้านอาหารบอกว่าราคาวัตถุดิบต่างๆ ส่วนใหญ่ปรับตัวสูงขึ้น

ประชาชนกำลังประสบปัญหาค่าครองชีพสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยนอกจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงปรับตัวเพิ่มขึ้นมากตามราคาตลาดโลกแล้ว ล่าสุดราคาน้ำมันปาล์มบรรจุขวดเพื่อการบริโภคยังปรับตัวเพิ่มขึ้นมาก อยู่ที่ขวดลิตรละ 51-60 บาท จากปกติขวดละ 44-47 บาท โดยสาเหตุเป็นไปตามกลไกตลาดโลก ที่ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้นทุกชนิด ส่งผลให้ราคาน้ำมันปาล์มแพงตามไปด้วย


นอกจากนี้ราคา หมู ผัก ก็ปรับขึ้น โดยในช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาผักดีดตัวสูงขึ้นหลายชนิดโดยเฉพาะผักชีที่สูงถึงราคากิโลกรัมละ 300-400 บาท เนื่องจากสถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ทำให้ผลผลิตเสียหาย ขณะที่ราคาเนื้อหมูที่ปรับขึ้นสาเหตุหลักมาจากต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ขยับขึ้นตามราคาในตลาดโลก ทำให้ผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทยที่ต้องนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศได้รับผลกระทบ และกระทบต่อเนื่องถึงผู้เลี้ยงสุกร

ทีมข่าวลงพื้นที่สำรวจร้านข้าวแกงพบว่า ขณะนี้ได้รับผลกระทบจากราคาวัตถุดิบปรับตัวขึ้นเกือบทุกอย่างจากราคาน้ำมันแพงและน้ำท่วม แต่ทางร้านจะไม่ลดปริมาณอาหาร หรือขึ้นราคาในช่วงนี้ เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นลูกค้าประจำ เป็นการแบ่งเบาภาระผู้บริโภค ด้านลูกค้าบอกว่าราคาอาหารยังไม่ปรับขึ้นมากนัก แต่อยากขอให้ภาครัฐลงมาดูแลราคาสินค้าไม่ให้แพงเพื่อช่วยเหลือประชาชนในภาวะเศรษฐกิจช่วงนี้ที่ต่างได้รับผลกระทบจากโควิด

อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ราคาผักสูงอยู่ขณะนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้เปิดคาราวานผักราคาถูก ที่จะใช้รถโมบายตระเวนในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อน โดยจะมีผัก 17 ชนิด จำหน่ายในราคาขายส่ง รวมทั้งมีสินค้าจำเป็นต่อการอุปโภคบริโภคอีก 4 ชนิด คือ ผัก ไข่ไก่ เบอร์สอง ข้าวสารถุง ถุงละ 5 กิโลกรัม น้ำตาลทรายขาว และ น้ำมันปาล์มขวด

ทีมข่าวเนชั่นทีวี รายงาน