“ดร.นิเวศน์” เปิดใจ ลงทุนตลาดหุ้นไทย “ก๊อกสุดท้าย”

“ดร.นิเวศน์” เปิดใจ ลงทุนตลาดหุ้นไทย “ก๊อกสุดท้าย”

“ดร.นิเวศน์” เปิดใจลงทุนตลาดหุ้นไทยก๊อกสุดท้ายเพื่อรับการฟื้นตัวหลังโควิด-19 ชี้ความเสี่ยงในอนาคต “สังคมสูงวัย-คนทำงานน้อย-เศรษฐกิจไม่ก้าวหน้า” ฯลฯ

ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร นักลงทุนคุณค่า (Value Investor) เปิดเผยในงานสัมมนา “BETTER TRADE SYMPOSIUM 2021: WARP TO THE FUTURE” วันที่ 6 พ.ย.64 ว่า ปัจจุบันตนมีสัดส่วนการลงทุนในตลาดหุ้นไทยกว่า 70% แต่อาจเป็นก๊อกสุดท้าย โดยคิดว่า 2-3 ปีนี้ตลาดหุ้นไทยยังพอเล่นได้ เพราะเล่นการฟื้นตัวและการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ หลังจากที่เผชิญเรื่องแย่ๆ มาโดยตลอด ซึ่งจะมางผลให้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นไปได้อีกรอบ

แต่หลังจากที่ปรับตัวดีขึ้นมาแล้ว คาดว่าตลาดหุ้นไทยจะทนภาวะเลวร้ายต่อไปไม่ไหว เช่น คนแก่ตัวขึ้นมาก คนทำงานน้อยลง เศรษฐกิจไม่ก้าวหน้า ไม่มีความคิดสร้างสรรค์ ในที่สุดตลาดหุ้นก็ไปต่อยาก

โดยมองว่า นาทีนี้การลงทุนแต่ในประเทศไทยอย่างเดียวไม่น่าจะเพียงพอ โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่

“จากการลงทุนในตลาดหุ้นไทยมากว่า 20 ปี ไม่เคยมีครั้งไหนรู้สึกสิ้นหวังกับตลาดหุ้นไทยเท่าครั้งนี้ เพราะตลาดหุ้นไทยไม่ไปไหน แถมยังไม่มีหุ้นเด็ดๆ ถูกๆ น่าลงทุน”

อย่างไรก็ดี เมื่อสอบถามถึงคำแนะนำการลงทุนในตลาดหุ้นไทย ดร.นิเวศน์ กล่าวว่า การลงทุนในตลาดหุ้นไทยต้องเลือกซื้อรายตัว เพราะแต่ละเซกเตอร์ปรับขึ้นเต็มมูลค่าแล้ว อีกทั้งยังมีแต่ธุรกิจที่อยู่ในเศรษฐกิจแบบเก่า (Old Economy) โดยต้องเลือกหุ้นที่ธุรกิจมีความแน่นอน ราคายังถูกกว่าตลาด และมีเงินปันผลที่ดี ที่สำคัญคือธุรกิจต้องไม่สามารถถูกทำลายด้วยเทคโนโลยี

แต่หากคาดหวังการลงทุนที่ราคามีโอกาสปรับขึ้นสูง คาดหวังจะร่ำรวยมากขึ้น หรือคาดหวังกำไรมากขึ้น ต้องออกไปลงทุนในประเทศที่มีการเติบโตสูง ซึ่งปัจจุบันนักลงทุนรุ่นใหม่มีโอกาสเยอะ ไม่เหมือนกับในอดีตที่การลงทุนถูกจำกัดอยู่แต่ในประเทศ

ขณะที่ภาพรวมของตลาดหุ้นไทยในช่วงที่ผ่านมา พบว่า ดัชนีปรับตัวขึ้นได้แต่ไม่โดดเด่น เพราะในช่วงโควิด-19 ปรับตัวลงมาหลายเปอร์เซ็นต์ แต่บวกกลับมาประมาณ 10% เท่านั้น ขณะที่ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาทั้งตลาดหุ้นและเศรษฐกิจไทยก็ไม่ได้ขยับไปไหนไกล ส่วนในอีก 5-10 ปีข้างหน้ายิ่งลำบาก เพราะประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยและเศรษฐกิจเติบโตช้า