‘อยู่เจริญ’ดึงแลนด์ลอร์ดร่วมทุนลุย‘ซีเนียร์ลิฟวิ่ง-คอมมูนิตี้มอลล์’

‘อยู่เจริญ’ดึงแลนด์ลอร์ดร่วมทุนลุย‘ซีเนียร์ลิฟวิ่ง-คอมมูนิตี้มอลล์’

“ชนฐนพค์ รุ่งโรจน์ธนกุล” เจนเนอเรชั่น 2 แห่งตระกูล “รุ่งโรจน์ธนกุล” ประกาศรีแบรนด์ “อยู่เจริญ” อัพเกรดสู่ตลาดไฮเอนด์สวมแทนแบรนด์ “ตรรกะ” สร้างแบรนด์สตอรี่ เพิ่มมูลค่าขยายฐานจับคนรุ่นใหม่!พร้อมเดินหน้าร่วมทุนลุยซีเนียร์ลิฟวิ่ง-คอมมูนิตี้มอลล์

หากย้อนกว่า 40 ปีที่ผ่านมาแบรนด์ “อยู่เจริญ” เป็นที่รู้จักและคุ้นหู จากการเป็นผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์เก่าแก่รายหนึ่งของเมืองไทยที่มีโครงการทั้งในกรุงเทพฯ และชานเมือง นับเป็นรายแรกที่ออกแบบ “บ้านตึกแถว” ให้มีที่จอดรถในรั้วบ้าน หรือที่เรียกว่า “ทาวน์เฮาส์”  รวมถึงเป็นผู้บุกเบิกแนวคิดในการสร้าง “ตึกแถวสองชั้น” รวมถึงการทำสัญญาแบบเช่า (เซ้ง) ตึกแถวแบบระยะยาว 30 ปีแต่หลังจากที่ “อุดม รุ่งโรจน์ธนกุล”  ผู้ก่อตั้งเสียชีวิต จึงไม่ได้ทำการตลาดให้เกิดความต่อเนื่อง

‘อยู่เจริญ’ดึงแลนด์ลอร์ดร่วมทุนลุย‘ซีเนียร์ลิฟวิ่ง-คอมมูนิตี้มอลล์’

กระทั่ง “ชนฐนพค์ รุ่งโรจน์ธนกุล” ในฐานะทายาท ได้นำแนวทางดั้งเดิมมาเป็นแกนหลักในดำเนินธุรกิจแบบฉบับของตนเอง แจ้งเกิด บริษัท พันนาลิฟวิ่ง จำกัด เมื่อปี 2554 ภายใต้แบรนด์ พันนา และ ตรรกะ  จนถึงปัจจุบันเป็นระยะเวลา 10 ปี  ได้เล็งเห็นว่า  บริษัทมีฐานลูกค้าจากแบรนด์พันนา ซึ่งมีจำนวน 3-5 โครงการที่จับกลุ่มลูกค้าระดับไฮเอนด์ที่มีกำลังซื้อ บางโครงการ ราคายูนิตละ 60 ล้านบาท!!

“ลูกค้ากลุ่มหนึ่งรู้จักแบรนด์อยู่เจริญเป็นอย่างดี จึงตัดสินใจที่จะโละแบรนด์ ‘ตรรกะ’ ที่เป็นแบรนด์สำหรับโครงการคอนโดมิเนียมออกไปแล้วเปลี่ยนใช้แบรนด์ ‘อยู่เจริญ’ แทน แม้ว่าก่อนหน้านี้  ‘อยู่เจริญ’ จะเป็นแบรนด์จับกลุ่มลูกค้าระดับกลาง-ล่าง ราคาต่ำสุดประมาณ1.2 ล้านบาท”

ทั้งนี้  “อยู่เจริญ”ป็นแบรนด์ที่มีเรื่องราว (Brand story) ที่มีคุณค่า ในการสื่อสารกับกลุ่มคนรุ่นใหม่และผสมผสานกับโลเคชั่น ดีไซน์ทันสมัย ฟังก์ชั่นที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตทำให้สามารถ รีโพสิชันนิ่ง และอัพเกรดแบรนด์แวลูให้ “อยู่เจริญ” ก้าวสู่แบรนด์ระดับพรีเมี่ยมได้!!

โดยปีนี้นำร่อง 3 โครงการ มูลค่าการลงทุน 3,000 ล้านบาทภายใต้แบรนด์ “อยู่เจริญ เอสเตทส” ให้เป็นที่รู้จักอีกครั้ง เป็นการดึงแบรนด์เก่ามาเล่าใหม่!

‘อยู่เจริญ’ดึงแลนด์ลอร์ดร่วมทุนลุย‘ซีเนียร์ลิฟวิ่ง-คอมมูนิตี้มอลล์’

สำหรับ 2 โครงการแรกจับกลุ่มลูกค้าระดับกลาง-บน เริ่มจาก โครงการบ้านอยู่เจริญ ทาวน์ อิน ทาวน์ เป็นโฮมออฟฟิศ 4.5 ชั้น จำนวน 14 ยูนิต สไตล์โมเดิร์น เจเปนนิส ขนาด 40 ตร.ว.ราคาเริ่มต้น 38 ล้านบาท โครงการอยู่เจริญ เรสซิเด้นท์ ทาวน์ อิน ทาวน์ เป็นคอนโดโลว์ไรส์ 7 ชั้น จำนวน 208 ยูนิต ขนาด 34.75ตร.ม. ราคา 3.4 ล้านบาท ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ ด้วยสมาร์ทโฮม

‘อยู่เจริญ’ดึงแลนด์ลอร์ดร่วมทุนลุย‘ซีเนียร์ลิฟวิ่ง-คอมมูนิตี้มอลล์’

และ โครงการบ้านอยู่เจริญ อีสต์วิลล์  มีทั้งโฮมออฟฟิศหรู บ้านแฝดและทาวน์โฮม ในซอยนาคนิวาส 6 ย่านทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ จับกลุ่มไฮเอนด์ เตรียมเปิดตัวปีหน้า คาดว่ายอดขายปีนี้จะเติบโตกว่า 20%  ยอดขายพรีเซลไม่ต่ำกว่า 820 ล้านบาท จาก 2 โครงการแรกที่จะเปิดตัวในเดือนพ.ย.นี้

‘อยู่เจริญ’ดึงแลนด์ลอร์ดร่วมทุนลุย‘ซีเนียร์ลิฟวิ่ง-คอมมูนิตี้มอลล์’

ชนฐนพค์ ในฐานะผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ขนาดกลาง มองว่า การปรับตัวของบริษัทขนาดกลางและเล็กในการต่อกรกับรายใหญ่ คือ การหาโลเคชั่นที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ซื้อ จึงเป็นเหตุผลในการเปิดกว้างในการร่วมทุนเจ้าของที่ดิน (แลนด์ลอร์ด) ต่าง ๆ

ขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจาร่วมทุน 3-4 รายทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ในภาคเหนือ อีสาน ใต้ รองรับการพัฒนาโครงการ ซีเนียร์ลิฟวิ่ง และคอมมูนิตี้มอลล์ เพื่อสร้างรายได้ประจำในอนาคต รวมถึงการพิจารณาซื้อที่ดินเพิ่มเติม

ปัจจุบัน บริษัทถือครองอยู่ที่ดินมากกว่า 1,000 ไร่ ทั่วกรุงเทพฯ อาทิ ทำเลรัชดา รามอินทรา ดินแดง ห้วยขวาง พุทธมนฑล ลาดพร้าว ประเวศ สายไหม สุขุมวิท บางนา สมุทรปราการ ปทุมธานี และ ดอนเมือง  เบื้องต้นมีแผนพัฒนาโครงการในทำเลย่านรามอินทรา จำนวน 200 ไร่ รวมถึง ย่านพุทธมณฑล สาย 2 จำนวน 100ไร่ และ สุขุทวิท 49 อีก8 ไร่ มาพัฒนาโครงการก่อน พร้อมวางแผนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยภายใน 3-5 ปีข้างหน้า