กลุ่มเปิดเมืองผันผวน หุ้นปลอดภัย การแพทย์พลังงานทดแทนน่าสนใจ

กลุ่มเปิดเมืองผันผวน หุ้นปลอดภัย การแพทย์พลังงานทดแทนน่าสนใจ

หุ้นเปิดเมืองแม้ได้จิตวิทยาบวกแต่คาดผันผวน หุ้นปลอดภัยและกลุ่มการแพทย์มีโอกาสฟื้น ประเทศไทยเริ่มเปิดเมือง ตั้งแต่ 1 พ.ย.

โดยอนุญาตให้ 1) ต่างชาติที่ได้รับวัคซีนแล้ว และเดินทางมาจาก 63 ประเทศที่กำหนด สามารถเข้าไทยได้โดยไม่ต้องกักตัว 2) สำหรับบุคคลที่มาจากประเทศอื่น สามารถพักในพื้นที่ sandbox 7 วันเพื่อรอผลตรวจ RT-PCR และ 3) หากไม่เข้า sandbox สามารถเลือกกักตัว 7-14 วัน และตรวจ RT-PCR 2 ครั้ง  // กลุ่มเปิดเมือง - แม้การเปิดประเทศคาดส่งผลดีต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ แต่คาดหุ้นผันผวนจากการรายงานผลประกอบการที่ยังขาดทุนอีกหลายไตรมาส และความกังวลสถานการณ์ระบาดที่อาจจะกลับมาเร่งตัวขึ้นหลังเปิดเมือง // หุ้นปลอดภัยและกลุ่มการแพทย์ – คาดมีโอกาสฟื้นตัวขึ้นได้ดีจากบรรยากาศที่นักลงทุนเพิ่มความระมัดระวังต่อความผันผวนระยะสั้น ขณะที่กลุ่มการแพทย์ แม้ทางกลยุทธมองไม่น่าสนใจในระยะกลางจากกำไรที่จะทยอยลดลงสู่ระดับปกติ แต่ในเชิงเก็งกำไรระยะสั้นอาจได้อานิสงค์จากการรายงานกำไรในระดับสูง, รายได้จากการฉีดวัคซีนทางเลือก และตัวเลขการระบาดที่อาจกลับมาดีตัวขึ้นในช่วงพ.ย.-ธ.ค.

 

ประเด็นติดตามสำคัญในสัปดาห์นี้ได้แก่ 1) ตัวเลข PMI จีนสัปดาห์ก่อนแย่กว่าคาด ส่งผลลบต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์และจิตวิทยาการเก็งกำไรกลุ่มที่เกี่ยวข้อง 2) การประชุมธนาคารกลางหลายประเทศในสัปดาห์นี้ มีทิศทางส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยปีหน้า ซึ่งอาจกระทบจิตวิทยาลงทุน 3) การประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ 2-3 พ.ย. คาดมีการส่งสัญญาณชัดเจนมากขึ้นถึงรายละเอียดของการลดการซื้อพันธบัตร แต่คาดประธานเฟดจะพยายามส่งสัญญาณให้นักลงทุนไม่กังวลต่อแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยที่จะเกิดในช่วงรึ่งหลังปี 2565 4) การประชุมด้านสิ่งแวดล้อม (COP26) 31 ต.ค.-12 พ.ย. ยังคาดเป็นปัจจัยบวกต่อจิตวิทยาการเก็งกำไรกลุ่มพลังงานทดแทน พลังงานสะอาด และรถไฟฟ้า

 

ธีมการลงทุนระยะสั้น 1) พลังงานทดแทนและรถไฟฟ้ารับ COP26 ดีกับ EA, NEX, SUPER 2) กลุ่มโภคภัณฑ์ป้องกันเงินเฟ้อ PTTEP, PTTGC, IVL, TOP 3) ผลตอบแทนพันธบัตรขยับขึ้น ซึ่งบวกกับกลุ่มธนาคารและประกัน อาทิ BBL, KBANK, SCB, BLA, TIPH, THRE (แต่อาจต้องระวังการเคลมประกันโควิด) 4) หุ้นธีมเปิดเมือง CPN, CRC, MINT, CENTEL, ERW, BA 5) เรามองทยอยสะสม สื่อสาร สาธารณูปโภค ADVANC, DTAC, FTREIT, WHART, GULF, GPSC, EGCO, RATCH, EASTW, WHAUP, TTW 6) ผ่อนคลายเกณฑ์ LTV ได้แก่ SPALI, QH, PSH, ORI, LPN, LH, AP (ตามลำดับ) 7) เก็งกำไรทางเทคนิค EGCO, GPSC, GULF, BGRIM, CBG, PM, SGF, SIS, SYNEX, IT, SVOA, MFEC, SECURE, IRCP, BCH, CHG, BDMS

 

 

ภาพรวมกลยุทธ์: การอ่อนตัวหลุด 1,627-1,630 ทำให้มีโอกาสลดกรอบการเล่นลงมาอยู่ในโซน 1,600-1,630 จุด ก่อนขึ้นทดสอบ 1,660-1,680 จุด ช่วงปลายปี แต่ด้วยภาพทางเทคนิคที่เป็นลบระยะสั้นจะทำให้กลุ่มโภคภัณฑ์และเปิดเมืองมีโอกาสโดนขายทำกำไร ขณะที่กลุ่มปลอดภัยและ Laggard มีโอกาสเป็นที่พักเงิน //หุ้นแนะนำ: NEX*, FSMART*, SUPER*, ETC*

แนวรับ: 1,605-1,620/ แนวต้าน : 1,635-1,650 จุด สัดส่วน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%

 

ประเด็นการลงทุน

พพ.เดินหน้าประกาศรับรองโครงการตามแผน AEDP 2018 – พพ. ประกาศเดินหน้ารับรองโครงการด้านพลังงานทดแทนที่เข้าเกณฑ์ได้รับการยกเว้นกฎหมายผังเมืองรวม พร้อมออกประกาศพิจารณารับรองโครงการภายใต้ AEDP 2018

จ่อปรับแบบไฮสปีดไทยจีนสัญญา3 - เตรียมถกปรับแบบรถไฟไทยจีน สัญญา 3-3 หลังก่อสร้างช้ากว่าแผน 4% โอดติดปัญหาส่งมอบพื้นที่ รื้อย้ายสาธารณูปโภค พ่วงโควิด-19 กระทบ ฉุดงานก่อสร้างยกระดับอ่างลำตะคองยาว

AOT – ยอมรับปี 65 ยังคงท้าทายแม้ไทยเปิดประเทศ แต่นักท่องเที่ยวต่างชาติจะทอยฟื้นตัว เผยช่วง 6 แรกยังต้องพึ่งพานักท่องเที่ยวในประเทศ เผยเล็งกู้เงิน 2.5 หมื่นล้าน บริหารสภาพคล่อง

 

ประเด็นติดตาม: -  1 พ.ย. – US Manufacturing PMI เดือน ต.ค. /   3 พ.ย. – Crude oil inventories / 4 พ.ย. – US: FOMC meeting / 5 พ.ย. – TH CPI เดือน ต.ค.

 

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)