“บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” เดือนพฤศจิกายน 2564 ได้สิทธิอะไรบ้าง? เช็คที่นี่

“บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” เดือนพฤศจิกายน 2564 ได้สิทธิอะไรบ้าง? เช็คที่นี่

เช็คสิทธิ "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" เดือนพฤศจิกายน 2564 ได้รับเงินเยียวยาอะไรบ้าง? กรมบัญชีกลาง โอน เงินโอนเข้า "บัตรคนจน" วันที่เท่าไร? เช็กไทม์ไลน์ที่นี่

ติดตาม กรณี "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" หรือบัตรคนจน ในเดือนพฤศจิกายน 2564 ได้รับสิทธิอะไรบ้าง หลังจากก่อนหน้านี้ ครม. อนุมัติวงเงินกู้ให้กระทรวงการคลั จำนวน 54,506 ล้านบาท เพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 ในคราวประชุมครั้งที่ 11/2564 เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2564

สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ แบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่

1. โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 3 เพิ่มวงเงินค่าซื้อสินค้าเพิ่มเติมอีกจำนวน 300 บาท/คน/เดือน เป็นระยะเวลา 2 เดือน ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 2564 รวมเป็น 500 บาท และรวมเป็น 1,800 บาท 

2. โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษหรือ "กลุ่มเปราะบาง" จำนวน 300 บาท/คน/เดือน เป็นระยะเวลา 2 เดือน ตั้งแต่เดือน พฤศจิกายน-ธันวาคม 2564 รวมเป็น 500 บาทต่อคน ในเดือน และรวมเป็น 1,800 บาท

 

(ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ครม. อนุมัติงบเพิ่ม บัตรคนจน-กลุ่มเปราะบาง-คนละครึ่ง-ยิ่งใช้ยิ่งได้ )

วันนี้ "กรุงเทพธุรกิจออนไลน์" ได้รวบรวมสิทธิที่ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจน จะได้รับในเดือนพฤศจิกายน 2564 มีสิทธิอะไรบ้าง? และจะได้วันที่เท่าไร?

 

  • วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564  (ไม่สามารถกดเป็นเงินสดได้ และไม่สะสมในเดือนถัดไป)

1. เงินสำหรับซื่อสินค้าในร้านค้าประชารัฐ คนละ 200 บาท และ 300 บาทต่อเดือน ตามเกณฑ์รายได้

  • ผู้ที่มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาทต่อปี ได้รับเงินช่วยเหลือ 300 บาทต่อเดือน
  • ผู้ที่มีรายได้สูงกว่า 30,000 บาทต่อปี แต่ไม่เกิน 100,000 บาท จะได้รับเงิน 200 บาทต่อเดือน

2. วงเงินซื้อสินค้า 700/800 บาทต่อเดือน  (เป็นวงเงินเดิม 200/300 บาท และวงเงินจากโครงการเพิ่มกำลังซื้อ 500 บาท) ระยะเวลา 2 เดือน เริ่มตั้งแต่พฤศจิกายน-ธันวาคม กดเป็นเงินสดไม่ได้ นอกจากรูดซื้อสินค้าที่ร้านธงฟ้าแล้วสามารถรูดซื้อสินค้าที่ร้านค้าคนละครึ่ง

- ส่วนลดค่าก๊าซหุงต้ม 45 บาทต่อ 3 เดือน 

- ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ประกอบด้วย 

  • ค่าโดยสารรถ บขส. 500 บาทต่อเดือน 
  • ค่าโดยสารรถไฟ 500 บาทต่อเดือน 
  • ค่าโดยสารรถไฟฟ้า ขสมก./ MRT/ BTS และ ARL 500 บาทต่อเดือน (สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่อาศัยอยู่ในเขต กทม. และปริมณฑล)  

3. กลุ่มเปราะบาง จะได้รับเงิน 500 บาท 

 

 

  • 18 พฤศจิกายน 2564  (สามารถกดเป็นเงินสดได้ และสะสมในเดือนถัดไปได้)

เดือนพฤศจิกายน 2564 วงเงินค่าน้ำ และ ค่าไฟฟ้า ดังนี้

  • ค่าไฟฟ้า ประมาณ 1.9 ล้านครัวเรือน (1 ครัวเรือนใช้ได้เพียง 1 สิทธิ เท่านั้น)

- กรณีค่าไฟฟ้า ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 50 หน่วยต่อเดือนติดต่อกันเป็นระยะเวลา 3 เดือน ให้ใช้สิทธิ์ค่าไฟฟ้าฟรีตามมาตรการที่มีอยู่ในปัจจุบัน

- กรณีใช้ไฟฟ้าเกิน 50 หน่วยต่อเดือน ให้ใช้สิทธิตามมาตรการนี้ในวงเงิน 315 บาทต่อครัวเรื่อนต่อเดือน

- กรณีที่ใช้เกินวงเงินที่กำหนด ผู้มีบัตรฯ เป็นผู้รับภาระค่าไฟฟ้าทั้งหมด

 

  • ค่าน้ำประปา ประมาณ 186,625 ครัวเรือน (1 ครัวเรือนใช้ได้เพียง 1 สิทธิเท่านั้น)

สนับสนุนค่าน้ำประปาวงเงิน 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน

- กรณีที่ใช้น้ำประปาเกิน 100 บาท แต่ไม่เกิน 315 บาท ผู้มีบัตรฯ ยังคงได้รับการสนับสนุนในวงเงิน 100 บาท และจะต้องชำระส่วนที่เกิน 100 บาท ด้วยตนเอง

- กรณีที่ใช้น้ำประปาเกิน 315 บาท จะไม่ได้รับการสนับสนุนวงเงินค่าน้ำประปาจำนวน 100 บาท โดยที่ผู้มีบัตรฯ จะเป็นผู้รับภาระในการชำระค่าน้ำประปาทั้งหมด

 

  • วันที่ 22 พฤศจิกายน 2564  (สามารถกดเป็นเงินสดได้ และสะสมในเดือนถัดไปได้)

ผู้ถือ "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" จะได้รับเงิน 200 บาท ถึงเดือนกันยายน 2565 เมื่อรวมกับเบี้ยความพิการที่ได้รับจำนวน 800 บาท/คน/เดือน รวมเป็นจำนวน 1,000 บาท/คน/เดือน

เงินจำนวนนี้สามารถกดออกมาเป็นเงินสดได้ โดยกรมบัญชีกลางได้กำหนดวันจ่ายเบี้ยความพิการเข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในเดือนต่อ ๆ ไป ประมาณวันที่ 22 ของเดือน 

นอกจากนี้ยังเพิ่มเงินให้อีก 300 บาท สำหรับกลุ่มที่ไม่มีสมาร์ทโฟน ผู้ที่ไม่สามารถ เข้าถึงระบบอินเตอร์เน็ต ผู้ที่ไม่มีสมาร์ทโฟน ผู้ที่อยู่ในภาวะพึ่งพิง (ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ทุพพลภาพ ผู้ป่วยติดเตียง)