ผันผวนออกข้าง (ประจำวันที่ 26 ตุลาคม 2564)

ผันผวนออกข้าง (ประจำวันที่ 26 ตุลาคม 2564)

วันจันทร์ที่ผ่านมาดัชนีปรับตัวลงประมาณ 10 จุด จากแรงขายทำกำไรในหุ้นกลุ่มพลังงาน และขนส่ง เช่นหุ้น PTT, PTTEP, AOT แต่มีแรงซื้อในหุ้นกลุ่มอสังหาฯ ทั้ง SPALI, LH, AP

แม้ว่าตลาดมีปัจจัยบวกจากการเปิดรับนักท่องเที่ยวจำนวน 46 ประเทศ แต่คาดว่ายังมีความกังวลว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามามากเพียงใด เพราะการแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังมีอย่างต่อเนื่องในหลายประเทศส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,643.42 จุด +5.87 จุด +0.36% มูลค่าการซื้อขาย 65,177 ลบ.ต่างชาติ -2,106.45 ลบ. TFEX -29,970 สัญญา ตราสารหนี้ +275.06 ลบ.

 

ปัจจัยบวก    

+ ดัชนีดาวโจนส์ปิด เพิ่มขึ้น 64.13 จุด + 0.18% ได้แรงหนุนจากราคาหุ้นเทสลาที่พุ่งขึ้นกว่า 12% ขานรับยอดสั่งซื้อรถยนต์ไฟฟ้าจำนวนมากถึง 100,000 คัน และแรงซื้อหุ้นกลุ่มพลังงาน นักลงทุนจับตารายงานประกอบการของบริษัทยักษ์ใหญ่ในกลุ่มเทคโนโลยีในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึง เฟซบุ๊กและอัลฟาเบท
+ แพทย์ใหญ่ประจำคณะทำงานด้านการควบคุมโรค โควิด-19 ของทำเนียบขาว คาดว่า วัคซีนป้องกันโควิด-19 สำหรับเด็กอายุ 5-11 จะพร้อมฉีดได้ภายในครึ่งแรกของเดือนพ.ย.
+ องค์การยาแห่งยุโรป (EMA) เริ่มต้นกระบวนการประเมินประสิทธิภาพของยาโมลนูพิราเวียร์ ซึ่งเป็นยารักษาผู้ป่วย โควิด-19 อย่างเร่งด่วนแล้ว
+ กทม. เผยทุกหน่วยงานเตรียมพร้อม 100% รองรับเปิดประเทศ 1 พ.ย.
+ ครม.จัดงบ 2.7 หมื่นลบ.ประกันรายได้เกษตรกร ข้าว-มันสำปะหลัง-ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์
+ ศบค.รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ทยอยลดลงต่อเนื่อง พบผู้ติดเชื้อรายใหม่รวม 7,706 ราย ATK 2,304 ราย เสียชีวิต 66 ราย รักษาหาย 9,532 ราย
+/- ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดทรงตัวที่ระดับ 83.76 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังพุ่งขึ้นทะลุ 85 ดอลลาร์ แตะระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี เนื่องจากต้องการใช้น้ำมันที่เพิ่มขึ้นทั่วโลกในช่วงที่เศรษฐกิจฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดของโควิด-19

 

 

 

 

ปัจจัยลบ 

- ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโก เปิดเผยว่า ดัชนี Chicago Fed National Activity Index (CFNAI) ปรับตัวลงสู่ระดับ -0.13 ในเดือนก.ย. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ +0.35 ได้รับผลกระทบจากการปรับตัวลงของการผลิตในภาคอุตสาหกรรม
- เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของจีนเตือนว่า จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในจีนอาจจะเพิ่มขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า และหลายพื้นที่มีแนวโน้มที่จะยังคงเผชิญกับการแพร่ระบาด
- Ifo สถาบันวิจัยเศรษฐกิจของเยอรมนี เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมนีปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 4 แตะระดับ 97.7 ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.
- สธ.ไม่กังวลเดลตาพลัสระบาดในไทย เผยพบแค่ 1 ราย, ยังต้องจับตาภาคใต้

 

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีในวันนี้ยังแกว่งตัวผันผวนในลักษณะ Sideway ออกข้าง โดยยังถูกกดดันจากแรงขายของนักลงทุนสถาบัน ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในประเทศที่ลดลงสู่ระดับ 7 พันราย เป็นปัจจัยหนุน มองกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1625-1,640 จุด

 

กลยุทธ์การลงทุน  

• ค่าการกลั่นปรับตัวขึ้นเป็นบวกต่อ : TOP SPRC ESSO PTTGC
• หุ้น Reopening Play : หุ้นกลุ่มท่องเที่ยว MINT ERW CENTEL AWC SHR AOT AAV BA หุ้นกลุ่มขนส่ง BEM BTS หุ้นกลุ่มห้างสรรพสินค้า CPN CRC MBK หุ้นกลุ่มร้านอาหาร AU M ZEN หุ้นกลุ่มค้าปลีก CPALL BJC MAKRO
• หุ้นได้ประโยชน์จากธปท.คลายกฏ LTV เน้นลงทุนหุ้นอสังหาฯ P/E ต่ำ แนะนำ LH QH AP SPALI SIRI ORI LALIN PSH LPN

 

 

หุ้นรายงานพิเศษ

                                CPN (Bloomberg Consensus 60.50 บาท)
                            ผลการดำเนินงานปกติมีแนวโน้มต่ำสุดรายไตรมาส

 

•(-) ผลกระทบจากมาตรการ lockdown ที่ทำให้มีการให้ส่วนลดค่าเช่าร้านค้าปลีก ทำให้ผลการดำเนินงานปกติมีแนวโน้มต่ำสุดรายไตรมาสซึ่งอาจพลิกขาดทุนโดยมีรายการพิเศษราว 500 ล้านบาทที่เป็นผลของมาตรฐานบัญชีใหม่ที่ช่วยหนุนให้ยังมีกำไร

•(+) การเปิดศูนย์การค้าใหม่อีก 2 แห่ง ได้แก่ สาขาศรีราชา (27 ต.ค.) และสาขาอยุธยา (30 พ.ย.) และการเปิดประเทศตั้งแต่ 1 พ.ย. คาดจะช่วยหนุนผลการดำเนินงานงวด 4Q64 พลิกฟื้น

•(+) การเข้าถือหุ้น SF สัดส่วน 96.24% ทำให้ได้สินทรัพย์ 19 โครงการที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง ได้แก่ ศูนย์การค้าเมกา บางนา เอสพลานาด ลาวิลล่า เจ.อเวนิว โดยจะเริ่มควบรวมงบการเงินใน Q4

•ความเห็น ฝ่ายวิจัยมีมุมมองบวกต่อปัจจัยพื้นฐานในระยะยาวที่รายได้ยังมีศักยภาพในการเติบโตในอนาคตและมีความยืดหยุ่นมากขึ้นในการพัฒนาโครงการที่หลากหลายประเภทและหลากทำเล Bloomberg Consensus เฉลี่ย 6.8 พันล้านบาท -28%YoY ซึ่งอาจเห็นการปรับลดประมาณการหลังส่งงบการเงินงวด 3Q64 ราคาหุ้นซื้อขาย P/E 27 เท่าสูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ระดับ 25 เท่า แนะนำ ซื้อเมื่ออ่อนตัว

 

หุ้นมีข่าว

(+) NRF ( ฺBloomberg Consensus 8.88 บาท) ได้เจ้าพ่อกัญชงระดับโลก "เทอร์รี่ บูธ" ร่วมปั้นธุรกิจกัญชง ชี้มือกัญชงโลกให้ค่าเพิ่ม GTH ขอเข้าถือ สัดส่วน 25% มูลค่า 120 ลบ. ดัน GTH มูลค่าเพิ่มทันที 480 ลบ. เดินหน้าทำตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ ปี 2565 โกยยอด เตรียมออกสินค้า CBD ในอาหารหลายประเภทต่อยอด ลั่นผลประกอบการปีนี้นิวไฮตามเป้า (ที่มา ทันหุ้น)

(+) BGRIM ( ฺBloomberg Consensus 55.00 บาท) ปีหน้าถึงเวลาซื้อกิจการรัวๆ ตั้งงบลงทุน 3-4 หมื่นล้านบาท ลุยเอเชีย ยุโรป และอเมริกา โอกาสกว่า 1000 เมกะวัตต์ เตรียมทยอยจ่ายไฟฟ้า 5 โครงการ SPP Replacement อัพกำไร ส่วนไตรมาส 4/2564 ปิดดีลไม่ต่ำกว่า 500 เมกะวัตต์ แย้มโครงการ IPP LNG to Power ขนาด 2-3 พันเมกะวัตต์ ชัดเจนต้นปีหน้า (ที่มา ทันหุ้น)

(+) IND ( ฺBloomberg Consensus - บาท) คว้างานออกแบบ-ก่อสร้างระบบบริการน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานสนามบินอู่ตะเภา มูลค่า 2.12 พันล้านบาท จ่อรับรู้รายได้ตั้งแต่เดือนหน้าเป็นต้นไป พร้อมกินยาว 3 ปี แย้มช่วงปลายปีถึงต้นปีหน้าเตรียมรับรู้รายได้งานในมือเพียบ หลังถูกเลื่อนมาจากช่วงต้นปีจากผลกระทบโควิด-19 (ที่มา ทันหุ้น)

(+) FSMART ( ฺBloomberg Consensus - บาท) เตรียมเปิดตัวพันธมิตรรายใหญ่ เชื่อดันยอดให้บริการบุญเติมเพิ่มอีก 5 พันล้านบาท พร้อมเดินหน้าธุรกิจแบงกิ้งเอเยนต์-ตู้เต่าบินคาเฟ่อัตโนมัติ คาดปี 65 ปั๊มยอดโต 30-40% ระบุไม่กังวลคู่แข่ง ลั่นเป็นรายแรกและรายเดียวทำตู้เวนดิ้งกาแฟชงสด ปักหมุดผุดตู้ครบ 2 หมื่นตู้ภายใน 3 ปี (ที่มา ทันหุ้น)