บิ๊กไมเนอร์ จี้รัฐไฟเขียวร้านอาหาร-โรงแรมขายเหล้าเบียร์ให้นักท่องเที่ยว

บิ๊กไมเนอร์ จี้รัฐไฟเขียวร้านอาหาร-โรงแรมขายเหล้าเบียร์ให้นักท่องเที่ยว

แม่ทัพไมเนอร์ วิลเลี่ยม เอ็ลล์วู๊ด ไฮเน็ค ร่อนจดหมายถึงผู้ว่าฯ “อัศวิน ขวัญเมือง” ร้องยกเลิกข้อจำกัดห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้นักท่องเที่ยว วันที่ 1 พฤศจิกายน ซึ่งเป็นวันแรกที่ไทยเดินหน้านโยบายเปิดประเท

แม้จะหมายจะส่งตรงถึง พลตำรวจเอก อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แต่ได้สำเนาถึง “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี ด้วย รวมถึง “อนุทิน ชาญวีรกุล” รองนายกรัฐมนตรี และหน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)รองประธานคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) เป็นต้น

สำหรับข้อความจดหมายจาก “วิลเลี่ยม เอ็ลล์วู๊ด ไฮเน็ค" ประธานกรรมการ บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) มีใจความดังนี้

เรียน พลตำรวจเอก อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร

พวกเรา บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ขอแสดงความชื่นชมท่านและทีมงานของท่านถึงความสำเร็จในการลดจำนวนผู้ป่วยโควิด-19 ในกรุงเทพมหานครในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เราตั้งตารอมาตรการที่จะจำกัดและลดอัตราการติดเชื้อไวรัสนี้ และความเสียหายต่างๆ ที่เกิดขึ้นในประเทศของเรา เราสนับสนุนและชื่นชมให้กับความพยายามทั้งหมดในการทำให้ประเทศของเรากลับสู่ภาวะปกติก่อนการระบาดของโควิด-19 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านกิจกรรมเชิงพาณิชย์ ดังนั้น ผมจึงตั้งใจเขียนจดหมายถึงท่านเพื่อวิงวอนขอให้มีการเริ่มจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แบบขายปลีกให้กับนักท่องเที่ยวในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลเร็วขึ้นเพื่อรองรับการเปิดประเทศ

ในฐานะที่เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการด้านการท่องเที่ยวสำหรับชาวต่างชาติที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย เราจึงเข้าใจถึงความคาดหวังและความต้องการของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยเป็นอย่างดี สำหรับทั้งนักเดินทางเพื่อธุรกิจและนักท่องเที่ยว การดื่มแอลกอฮอล์มีบทบาทสำคัญที่ช่วยสร้างความพึงพอใจและประสบการณ์ที่รื่นรมย์ในการมาเยือนของพวกเขา อีกทั้งรายได้จากการจำหน่ายแอลกอฮอล์ยังคิดเป็นสัดส่วนที่สำคัญของรายได้ในร้านอาหารและโรงแรม ซึ่งจะช่วยเพิ่มรายได้ของธุรกิจโดยรวมในประเทศไทยและพนักงานนับล้านคนที่ธุรกิจเหล่านั้นว่าจ้าง

"ผมตระหนักดีว่าทางภาครัฐอาจมีความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่ออัตราการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่เราควรที่จะแยกแยะถึงความแตกต่างของสภาวะและสภาพแวดล้อมของการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยผู้ที่บริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหารและโรงแรมที่เป็นสัดเป็นส่วนและมีมาตรการสุขอนามัยที่ดี ส่วนใหญ่จะมีความรับผิดชอบ แตกต่างจากสภาพแวดล้อมที่มีความแออัดภายในสถานบันเทิง เช่น บาร์ ผับ คลับ ฯลฯ"

ด้วยเหตุนี้ ผมจึงใคร่ขอให้ยกเลิกข้อจำกัดในการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ภายในกรุงเทพมหานคร โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน เป็นต้นไป อย่างไรก็ตาม หากไม่สามารถยกเลิกข้อจำกัดทั้งหมดได้ ผมใคร่ขอให้พิจารณายกเลิกข้อจำกัดเฉพาะในสถานประกอบการที่ให้บริการนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย หรืออย่างน้อยที่สุด ธุรกิจที่ได้รับการอนุมัติจากสำนักงานความปลอดภัยและสุขภาพ (SHA+) ควรได้รับอนุญาตให้กลับมาให้บริการลูกค้าด้วยบริการที่ครบวงจรตามความต้องการของลูกค้าตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน เป็นต้นไป

ผมยังเชื่อด้วยว่าเราควรมีการดำเนินการเพื่อปกป้องสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ เช่น กรุงเทพมหานคร ภูเก็ต และสมุย จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยเราควรเพิ่มความพยายามในการเร่งฉีดวัคซีนให้กับทุกคนที่อาศัยอยู่ในบริเวณพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในทำนองเดียวกัน นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากจังหวัดอื่นๆ เข้ากรุงเทพมหานครหรือแหล่งท่องเที่ยวสำคัญในจังหวัดต่างๆ ในประเทศไทย ควรแสดงผลการตรวจโควิด-19 ที่เป็นลบจากการตรวจแบบ PCR/ATK ซึ่งการทดสอบดังกล่าวจะสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติถึงมาตรการการป้องกันโควิด-19 ที่เหมาะสมเพื่อสุขภาพและความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว และก่อให้เกิดการป้องกันสำหรับประชาชนชาวไทยที่ยังไม่ได้รับวัคซีนอย่างเต็มความสามารถ

พวกเราซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวงการธุรกิจต่างกระตือรือร้นที่จะให้ความร่วมมือกับทางภาครัฐเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจของกรุงเทพมหานคร ผมขอขอบคุณล่วงหน้าสำหรับการพิจารณาของท่านในเรื่องนี้ หากท่านมีคำถามหรือข้อกังวลอื่นใด เราหวังว่าจะมีโอกาสได้หารือในรายละเอียดกับท่านต่อไป