หุ้น HENG เทรดวันแรก "นักลงทุน" โกยกำไรหลังราคาพุ่ง 64.10%

๐ ประเด็นสร้างเซอร์ไพร์สให้ตลาดหุ้นก่อนหมดรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา คงต้องยกให้กรณี “ธนาคารแห่งประเทศไทย” (ธปท.) ยอมผ่อนคลายมาตรการล็อก “ภาคอสังหาริมทรัพย์” ไว้ด้วยหลักเกณฑ์การกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่ออื่นที่เกี่ยวเนื่องกับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (มาตรการ LTV) ที่ผู้ซื้อบ้านหลังที่ 2 ต้องวางเงินดาวน์ขั้นต่ำ 10% หากผ่อนสัญญาแรกมาแล้ว 2 ปี หรือมากกว่านั้น และถ้าผ่อนสัญญาที่ 1 น้อยกว่า 2 ปี จะต้องดาวน์ 20% และบ้านหลังที่ 3 ขึ้นไป (สัญญาที่ 3 ขึ้นไป) ต้องวางเงินดาวน์ขั้นต่ำ 30% เนื่องจากช่วงเวลานั้นตลาดอสังหาฯ ค่อนข้าง “ร้อนแรง” ! 

๐ แต่ว่า ณ เวลานี้ ! ทั่วโลกรวมถึงเมืองไทยถูกโควิด-19 ถล่ม...ส่งผลให้ภาพรวมเศรษฐกิจตกในภาวะ “ซบเซา” ดังนั้น เครื่องมือช่วยกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ หนึ่งในนั้นยกให้อสังหาฯ ทำให้ งานนี้ธปท. คลายล็อกอสังหาฯ ด้วยออกมาผ่อนคลายมาตรการ LTV สามารถกู้ได้ 100% (กู้ได้เต็มมูลค่าหลักประกัน) จาก 70-90% ถึงสิ้นปี 2565 เรียกว่างานนี้ธุรกิจอสังหาฯ ตีปีกเนื่องจากจะส่งผลดีต่อภาพรวมธุรกิจอสังหาฯ ซึ่งเป็นการกระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภคให้กลับคืนมา....

๐ ท่ามกลางตลาดหุ้นไทยผันผวน !! และธุรกิจปล่อยสินเชื่อ (ไฟแนนซ์) ที่กำลังมีเจอะเจอปัจจัยลบเข้ามากระทบ แต่หุ้นไอพีโอน้องใหม่ บมจ. เฮงลิสซิ่ง แอนด์ แคปปิตอล หรือ HENG หนึ่งในผู้ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรายใหญ่ภาคเหนือ และน้องใหม่สุดในธุรกิจปล่อยสินเชื่อที่เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เข้าซื้อขายวันแรก (19 ต.ค.) ราคาอยู่ที่ 3.20 บาท พุ่ง 64.10% จากราคาไอพีโอ 1.95 บาท !! งานนี้ราคาพุ่งชนิดไม่แคร์ปัจจัยลบของอุตสาหกรรม สตาร์ททำกำไรวันแรกให้ "แฟนคลับ" หุ้น HENG เรียกว่ายิ้มหน้าบานรับกำไรเข้ากระเป๋าเต็มๆๆ 

๐ ฟาก “กูรู” บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด หรือ DBSV มีมุมมองหุ้น HENG ทำธุรกิจคล้ายกับ TIDLOR, MTC แต่ว่า “จุดเด่น” หุ้น HENG ณ ตอนนี้คือ การที่ KBANK จะเข้าซื้อหุ้น Big Lot ที่ 10% ขึ้นแท่นเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 2 ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อโตปีละ 30% ปี 2568 ถึง 1.48 หมื่นล้านล้าน ขยายสาขาเพิ่ม 829 สาขา จาก 457 สาขา มีเต็นท์รถ 5,000 แห่งเสริมอีกด้วย เรียกว่าแผนธุรกิจพร้อมโลดแล่นทันทีหลังมีเงินระดมทุนสร้างการเติบโตแล้ว 

๐ จากธุรกิจ “ขาขึ้น” กำลังจะเป็นกลายเป็น “ขาลง” เรื่อง “จริง” หรือ “ตื่นตูม” หลังย้อนดูทิศทาง “ดัชนีค่าระวางเรือ” (BDI) นับตั้งแต่ 8 ต.ค.-19 ต.ค.64 พบ BDI ปรับตัวลงถึง 794 จุด หรือ 14.36% งานนี้หุ้นกลุ่มที่กำลังแสนแฮปปี้กับค่าระวางเรือพุ่งถึงกับคอตกทันที ! ดูจากราคาหุ้นกลุ่มเดินเรือร่วงต่อเนื่อง วงในวิ่งหาข่าวกันวุ่นทำไมค่าระวางเรือดิ่งแบบนี้ พบสาเหตุที่ทำให้ดัชนี BDI ปรับตัวลงแรงในช่วงดังกล่าวสาเหตุหลักเกิดจากภาคการผลิตของประเทศจีนที่อ่อนแอลงนั้นเอง 

๐ เมื่อพี่ใหญ่อย่าง “จีน !” ตัวเลขภาคการผลิตอ่อนแอเฉกเช่นนี้... คงต้องมาลุ้นกันว่าภาพรวมเศรษฐกิจจะเป็นยังไง และหากอยากเห็น ดัชนี BDI จะพลิกกลับมาเป็นขาขึ้นอีกครั้ง คงต้องหวังพึ่งให้เศรษฐกิจโลกกลับมาขยายตัว “โดดเด่น” อีกครั้งแล้วแหละ เพื่อจะทำให้เกิดการ Restock สินค้า ส่งผลให้ภาคการผลิตของจีน กลับมาเติบโตในระดับที่โดดเด่น ซึ่งจะหนุนให้ปริมาณการขนส่งสินค้าทางเรือกลับสู่ระดับสูงอีกครั้ง งานนี้ ! เหล่าแฟนคลับหุ้นกลุ่มเดินเรือ อาจจะคงต้องรอลุ้นและติดตามข่าวกันหากยังสนใจลงทุนหุ้นกลุ่มดังกล่าว