กนอ. กางแผนรับมือน้ำท่วมนิคมฯ อยุธยา มั่นใจไม่ซ้ำรอยปี 54

กนอ. กางแผนรับมือน้ำท่วมนิคมฯ อยุธยา มั่นใจไม่ซ้ำรอยปี 54

กนอ. เตรียมแผนต้านน้ำท่วม ขุดลอกตลอง เตรียมเครื่องสูบน้ำ เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำใกล้ชิด เชื่อมั่นเหตุการณ์ไม่ซ้ำรอยปี 54

ร่องมรสุมจากพายุเตี้ยนหมู่ที่ผ่านไปและพายุไลออนร็อกที่กำลังเข้ามาทำเอาผวา ทำให้หลายคนหวนนึกถึงเหตุการณ์น้ำท่วมหนักในปี 2554 โดยเฉพาะพื้นที่อุตสาหกรรมในจ.พระนครศรีอยุธยาที่เคยจมอยู่ในกระแสน้ำ สร้างมูลค่าความเสียหายทางตรงและทางอ้อมกว่า 400,000 ล้านบาท ทั้งยังมีผลกระทบเป็นลูกโซ่ที่เกิดขึ้นเมื่อโรงงานต้องหยุดกิจการ ทั้งกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ และอาหารและเครื่องดื่ม

ด้วยเหตุนี้ ภายหลังอุทกภัยปี 2554 รัฐบาลจึงได้จัดสรรงบประมาณ 3,800 ล้านบาท เพื่อสร้างเขื่อนป้องกันน้ำท่วมให้กับ 6 นิคมอุตสาหกรรมใน จ.พระนครศรีอยุธยา และจ.ปทุมธานี นับจากนั้นมา ทุกนิคมอุตสาหกรรมมีการจัดซ้อมแผนโต้ตอบภาวะน้ำท่วม รวมถึงโรงงานที่ต่างเฝ้าระวังและร่วมมือกันป้องกันเพื่อลดอัตราความเสียหายที่เคยเกิดขึ้น

นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ทุกนิคมอุตสาหกรรมทั่วประเทศ ติดตามข้อมูลสถานการณ์น้ำในพื้นที่รับผิดชอบของตนเองอย่างใกล้ชิด รวมถึงติดตามข้อมูลพยากรณ์อากาศในพื้นที่แบบละเอียด ติดตามข้อมูลปริมาณน้ำที่ปล่อยออกจากเขื่อนบริเวณใกล้เคียงนิคมฯ ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกันขอให้เร่งขุดลอกคูคลองทางระบายน้ำ

อ่านข่าว : ปภ.เตือน 5 จังหวัด ระวัง "น้ำท่วมฉับพลัน"

“สำหรับนิคมฯ ในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา มีนิคมฯ 3 แห่ง คือ บางปะอิน บ้านหว้า และนครหลวง โดยมีการเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำจากกรมชลประทาน ปัจจุบันอยู่ในสภาวะปกติ มีการเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง มีการขุดลอกคูคลองรอบนิคมฯ สำรวจและเสริมความมั่นคงแข็งแรงของคันดินป้องกันน้ำท่วม เตรียมความพร้อมระบบป้องกันน้ำท่วม เครื่องสูบน้ำระบายน้ำและเครื่องจักรอุปกรณ์ จัดหาเครื่องสูบน้ำสำรอง เครื่องกำเนิดไฟฟ้า น้ำมันเชื้อเพลิง กระสอบทราย และอุปกรณ์ต่างๆ ให้พร้อมใช้งาน พร้อมทั้งติดตามข้อมูล ข่าวสาร และพยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างต่อเนื่อง บูรณการความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินได้อย่างมีประสิทธิภาพ” นายวีริศ กล่าว

ขณะที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ สถานการณ์ภาพรวมปกติ แต่ได้มีการเพิ่มเครื่องสูบน้ำในนิคมฯ เพื่อเตรียมความพร้อมหากเกิดน้ำท่วมขังในนิคมฯ พร้อมทั้งมีการขุดลอกคลองรอบนิคมฯ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรับน้ำกรณีน้ำท่วมฉับพลัน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ประกอบการและพนักงานเจ้าหน้าที่ด้วย

นายดิสพล ยิ้มขลิบ ผู้อำนวยการสำนักงานนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำปีนี้ไม่น่าห่วง เนื่องจากน้ำทางเหนือมีปริมาณลดลงแล้ว นิคมฯ มีความเชื่อมั่น ด้วยมีการสร้างเขื่อนคอนกรีตเสริมเหล็กรอบนิคม ความยาว 10 กิโลเมตร ความสูงกว่า 6 เมตร ทั้งนี้ ได้มีการชี้แจงแก่โรงงานในพื้นที่เกี่ยวกับมาตรการรับมือต่างๆ ผู้ลงทุนทั้งรายเก่าและรายใหม่ยังมีความเชื่อมั่นและคาดว่าจะรับมือได้ นอกจากนี้ ยังได้มีการซ้อมแผนรับมือ มีการแบ่งโซนพื้นที่ความเสี่ยง ซึ่งขณะนี้เป็นสีเหลือง ความหมายคือเฝ้าระวังและจับตาสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด