ตลาด ‘ของใช้เด็ก’ สิ่งเล็กๆ ที่ สร้างพัฒนาการสมวัย

ตลาด ‘ของใช้เด็ก’ สิ่งเล็กๆ ที่ สร้างพัฒนาการสมวัย

เมื่อคุณภาพ ความปลอดภัย ใน “ของใช้เด็ก” สัมพันธ์กับราคา มาดูกันว่าทำไมพ่อแม่ถึงจำเป็นต้องจ่ายเพื่อ "สร้างพัฒนาการสมวัย" ของลูกผ่านข้าวของเครื่องใช้เหล่านี้

ถึงสถานการณ์ต่างๆ ของโลกจะทำให้มีแนวโน้มว่าคนรุ่นใหม่จะตัดสินใจมีลูกยากขึ้น และความที่ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัย (Aging Society) แต่ในทางกลับกันแนวโน้มการเติบโตของ สินค้าสำหรับเด็ก หรือ ของใช้เด็ก ก็กำลังเติบโตเช่นกัน โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าระดับพรีเมียม ที่พ่อแม่ที่มีกำลังซื้อยอมจ่ายเพื่อมอบสิ่งที่ดีที่สุดแก่ลูกๆ

สิ่งที่ตามมากับการเติบโตของสินค้ากลุ่มดังกล่าว คือ จำนวนร้านและผู้นำเข้าสินค้าสำหรับเด็กผุดราวกับดอกเห็ด แน่นอนว่าในเกรดพรีเมียมหลายร้านแข่งขันกันด้วยคุณภาพของผลิตภัณฑ์

ตลาด ‘ของใช้เด็ก’ สิ่งเล็กๆ ที่ สร้างพัฒนาการสมวัย

ปริญญ์ เสริมพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (Chief Executive Officer) บริษัท ร็อคกิงคิดส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เป็นอีกเจ้าหนึ่งในตลาดนี้ที่มีบทบาททั้งเป็นผู้ผลิตและนำเข้าสินค้าคุณภาพผลิตภัณฑ์สำหรับแม่และเด็ก ที่ปัจจุบันถือครอง 7 แบรนด์ดังจากประเทศชั้นนำ อาทิ อังกฤษ เยอรมนี เกาหลีใต้ และ สหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า ในไตรมาส 4 ของปี 2564 นี้ตลาด “ของใช้เด็ก” จะเติบโตมากขึ้น สำหรับแบรนด์ Rocking Kids เองก็ขานรับด้วยการเปิด Rocking Kids Store อย่างเป็นทางการ บริเวณชั้น 2 Mega Kids Zone ศูนย์การค้าเมกาบางนา ด้วยขนาดโชว์รูม 123 ตารางเมตร กับสินค้าสำหรับแม่และเด็กมากกว่า 100 รายการ

สิ่งที่เขาทำกำลังตอบสนองพฤติกรรมของพ่อแม่ยุคใหม่ซึ่งสอดคล้องกับการขยายตัวของตลาดธุรกิจสินค้าสำหรับเด็ก

“เทรนด์การเลี้ยงลูกเปลี่ยนไป พ่อแม่เอาใจใส่ในการเลี้ยงลูกมากขึ้น อยากเลี้ยงลูกด้วยตัวเองมากขึ้น พออยากเลี้ยงลูกด้วยตัวเองก็จะสรรหาสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ลูก และอยากหาสินค้าที่จะช่วยให้เลี้ยงได้สบายยิ่งขึ้น เพราะฉะนั้นจึงเกิดการซื้อสินค้าที่จะมาเป็นตัวช่วยมากขึ้น ทำให้ตลาดนี้เติบโตมากขึ้น

ในอนาคตตลาดนี้ก็จะเติบโตอีกเยอะ เพราะคนปัจจุบันมีลูกช้าลง เมื่อเรามีลูกตอนเราโตมากขึ้น ก็เริ่มมีความสามารถที่จะสรรหาสิ่งที่ดีให้ลูกได้ แปลว่ามีกำลังซื้อมากขึ้น ผมเชื่อว่าธุรกิจนี้จะมียอดขายต่อหัวที่สูงขึ้น”

ตลาด ‘ของใช้เด็ก’ สิ่งเล็กๆ ที่ สร้างพัฒนาการสมวัย

ปฏิเสธไม่ได้ว่าในสินค้า “ของใช้เด็ก” เรื่องราคามักมาคู่กับคุณภาพ ไม่ว่าจะวัสดุที่ใช้ เทคโนโลยีที่ล้ำสมัย หรือแม้กระทั่งการดีไซน์ที่ผ่านกระบวนการคิดเพื่อตอบสนองการใช้งานอย่างเต็มประสิทธิภาพ ในกลุ่มพรีเมียมจึงต้องเลือกเฟ้นของดีมารองรับกลุ่มลูกค้ากลุ่มนี้

ปริญญ์ อธิบายด้วยตัวอย่างธุรกิจที่เขาบริหารว่าเขาจะเลือกนำเข้าสินค้าที่มีนวัตกรรม ฟังก์ชันหลากหลาย ที่ช่วยให้การเลี้ยงลูกสบายยิ่งขึ้น ส่งเสริมพัฒนาการของลูกได้ แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือเรื่องคุณภาพและความปลอดภัย

“เราตั้งใจเลือกสินค้าที่มีคุณภาพและความปลอดภัย สินค้าทุกตัวต้องได้รับการรับรองมาตรฐานระดับโลก และเป็นสินค้า Global Brands ซึ่งทำให้การเลี้ยงลูกปลอดภัย ถ้าเป็นสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานก็อาจทำให้เกิดความไม่ปลอดภัย”

แอร์ - ภัทราริน ปัญญานุตธรรม อดีตดาราที่ปัจจุบันเป็นคุณแม่ของน้องฮก เล่าประสบการณ์ตรงกับการเลือกใช้ “ของใช้เด็ก” ที่มีคุณภาพสมราคาว่าอุปกรณ์ที่มีมาตรฐานและผ่านการคิดค้นมาแล้วว่าเหมาะสมกับเด็ก ช่วยให้การเลี้ยงลูกง่ายขึ้นและสร้างการเรียนรู้ให้แก่ลูกได้ด้วย

“เวลารับประทานอาหารเราจะให้ลูกนั่งกินให้เรียบร้อย จะไม่มีการเดินตามป้อนข้าวลูก น้องฮกถูกฝึกมาว่าจะต้องนั่งเก้าอี้กินข้าวสำหรับเด็ก (High Chair) เท่านั้น ถ้าไม่ยอมนั่งก็จะไม่ได้กินข้าว ซึ่งเก้าอี้ดีๆ ก็จะทำเด็กอยากนั่ง เพราะนุ่ม นั่งสบาย และเก้าอี้ High Chair จะมีตุ๊กตาห้อยอยู่ให้เขาเล่นเพลินๆ ไปด้วย

เรื่องคุณภาพและการออกแบบที่ดี ของที่แอร์ซื้อให้น้องฮกใช้ เขียนไว้ว่าตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป แต่แอร์ใช้ก่อนหน้านั้นแล้ว วางเขานอนได้เลย เพราะเล็กๆ เขายังไม่ได้พลิกตัวเยอะ และเราก็คอยดูอยู่ตลอด ก็สามารถเอาเขานอนตรงนั้นได้”

ตลาด ‘ของใช้เด็ก’ สิ่งเล็กๆ ที่ สร้างพัฒนาการสมวัย

ความท้าทายของทุกธุรกิจหลังจากเผชิญวิกฤตโควิด-19 คือหลังจากคลายล็อกดาวน์ จะกลับมาฟื้นตัวและแข็งแกร่งได้อย่างไร ในแง่ธุรกิจนี้ สมพร มูลสาร ประธานบริหารการเจริญเติบโตของธุรกิจ (Chief Growth Officer) บอกว่า แนวโน้มทิศทางการตลาดหลังคลายล็อกดาวน์ แบรนด์ ร็อคกิ้งคิดส์ คือเตรียมสร้างประสบการณ์ชอปปิงแบบไร้ต่อในรูปแบบ Happy Omni channel เพิ่มความสะดวกให้แก่ลูกค้าในการเลือกสรรสิ่งที่ดีเพื่อลูกในทุกช่องทาง จึงกำลังเตรียมเปิดตัวเว็บไซต์ใหม่ รวมถึงพัฒนารูปแบบการซื้อสินค้าให้ง่ายขึ้นทางออนไลน์ และไปรับสินค้า ณ หน้าร้าน หรือรับการบริการจัดส่งแบบ Next Day Delivery ได้ รวมถึงการบริการส่วนหน้าร้าน สร้างประสบการณ์ให้พ่อแม่และลูกน้อยได้ร่วมทดลอง สัมผัสสินค้าตัวจริง

“กลยุทธ์ในการทำการตลาดในปี 2565 ของเราคือมุ่งให้ความสำคัญกับพื้นฐานของแบรนด์เพื่อสนับสนุนให้ลูกค้า “เป็นแม่ที่เก่งเป็นตัวเองที่ภูมิใจ” และเน้นการให้บริการก่อนและหลังการขายผ่านคุณลักษณะ 5 ด้าน อาทิ 1.HELPFUL INNOVATIVE FOR CONVENIENCY ส่งมอบสินค้าที่ช่วยให้การเลี้ยงลูกง่าย และสะดวกขึ้น

2.PERCEPTIVELY SEEK TO HELP MOM’S NEED ศึกษาและเข้าใจปัญหาของ คุณแม่ชาวไทย เสาะหาตัวช่วย จากทั่วโลกเพื่อนําเข้ามาแก้ไข ปัญหา รวมถึงออกแบบสินค้าที่ เหมาะสม ตอบโจทย์ และคุ้มค่า

3. ASSURED TRUST WITH INT’L CERTIFIED SAFETY วางใจและเชื่อมั่นในความ ปลอดภัยจากแบรนด์นําเข้า ที่ รับรองด้วยมาตรฐานสากล ตามทฤษฎีความปลอดภัยและแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญ

4. EASE DECISION WITH CARING CONSULTANT ช่วยทำให้คุณแม่ลดเวลา และ ตัดสินใจได้ง่ายและดีขึ้น ด้วย การจัดระบบข้อมูลที่ดี การให้ บริการที่ดีปรึกษาได้ แนะนําได้ อย่างมีความรู้ ความเข้าใจ สามารถตอบคําถามได้อย่าง รวดเร็ว ถูกต้อง แม่นยํา

และ 5. EXPRESSIVE DESIGN FOR MODERN MOM LIFESTYLE คุณแม่สามารถ Express ความเป็นตัวเองได้พร้อมๆ กับความ เป็นแม่ ด้วยการคัดสรรและออก แบบดีไซน์ที่ ตอบโจทย์กับ Lifestyle ของคุณแม่ยุคใหม่ พร้อมกันนี้ยังเตรียมการเปิดตัวสินค้า House Brand เพื่อเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่าย และขยายตัวแทนทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมไปถึงโปรแกรม CRM เพื่อเชื่อมต่อและตอบแทนลูกค้าต่อไป”

ตลาด ‘ของใช้เด็ก’ สิ่งเล็กๆ ที่ สร้างพัฒนาการสมวัย

ปฏิเสธไม่ได้ว่าเค้กก้อนนี้กำลังหอมหวาน และสำหรับเจ้าของชิ้นเค้กชิ้นใหญ่จนเรียกได้ว่าเป็นแถวหน้าของตลาดสินค้าสำหรับเด็กระดับพรีเมียม จุดเด่นคงหนีไม่พ้นเรื่องคุณภาพ ซึ่งผลิตภัณฑ์เป็น Global Brands ปริญญ์ย้ำว่าต้องมีการคัดเลือกสินค้าที่เข้มงวดในมาตรฐานความปลอดภัยระดับโลก ชูคำสัญญาของแบรนด์เพื่อสร้าง ‘Balance being MOM-ME’ เพื่อสนับสนุนให้คุณแม่ที่ใช้สินค้าของแบรนด์จัดการชีวิตได้ง่าย สบาย และมีความสุข สร้างความสำเร็จให้ลูก แต่ไม่หลงลืมที่จะดูแลตัวเอง

“อีกอย่างที่ทำให้เราประสบความสำเร็จในธุรกิจสินค้า “ของใช้เด็ก” คือการสื่อสารคุณค่าของสินค้า (Value Content) ที่เราได้ทำออกไปทางออนไลน์ และวิธีการอื่นๆ เช่นช่องทางของ KOL (Key Opinion Leader) และอินฟลูเอนเซอร์ต่างๆ ด้วย"