Sideways Up เก็งกำไร KBANK SAWAD MINT (8 ต.ค. 64)

Sideways Up เก็งกำไร KBANK SAWAD MINT (8 ต.ค. 64)

คาดดัชนีฯ Sideways Up แนวต้าน 1640 / 1646 จุด แนวรับ 1620 / 1615 จุด (EMA 10 / 25 วัน) แนะนำเก็งกำไร KBANK SAWAD MINT ทางเทคนิคจะเกิดสัญญาณซื้อเพิ่ม

หากทะลุ 1640 จุด ขึ้นไป โดยมีเป้าหมายที่แนวต้านเดิม 1658 จุด

กลยุทธ์ลงทุน: แนะนำ 1. ERW CENTEL MINT รับโมเมนตัมบวก จากการเริ่มโครงการ เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3 2. AOT AAV BA คาดศบค. ผ่อนคลายให้เพิ่มที่นั่งในเครื่องบินเป็น 100% 3. KBANK SCB SAWAD MTC CBG CPALL คาดรับผลบวก จากมาตรการผ่อนคลายเศรษฐกิจเพิ่มเติมของภาครัฐ และยังคงเป็นกลุ่ม Laggard Plays

ปัจจัยบวก: 1. แนวโน้มศบค.ประกาศมาตรการผ่อนคลายเพิ่มเติม ช่วยกระตุ้นกิจกรรมเศรษฐกิจในประเทศฟื้นตัว (คาดปรับลดพื้นที่สีแดงเข้มลงจากเดิม 29 จังหวัด) 2. โครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3 (จำนวน 2 ล้านสิทธิ์ใหม่) เริ่มจองวันนี้เป็นวันแรก (+กลุ่มโรงแรม ERW CENTEL) 3. ปัญหาเพดานหนี้สหรัฐฯ ที่อาจนำไปสู่การผิดนัดชำระหนี้ของประเทศสหรัฐฯ คลี่คลาย โดยสภาคองเกรสมีความเห็นร่วมกันต่อการขยายเพดานหนี้ชั่วคราวไปจนถึงต้นเดือน ธ.ค. จำนวน USD480bn. ส่งผลให้ Public Debt รวมจะอยู่ที่ USD28.9Trn. (Vs ปัจจุบัน USD28.4Trn.)

ปัจจัยลบ: 1. ผลประชุมเฟดต้นเดือน พ.ย. มีแนวโน้มคุมเข้มทางการเงินมากขึ้น หากตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ก.ย. วันนี้ ออกมาดีเกินคาด 2. การพิจารณาร่างกฎหมายกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ล่าช้า และอาจมีการปรับเพิ่มภาษีนิติบุคคล ภาษีกำไรหุ้น

 

ประเด็นอื่น ๆ ที่ต้องติดตาม

       +/-USA: รายงานจ้างงานและอัตราว่างงานเดือน ก.ย. (คาดดีขึ้นเป็น 500k และ 5.1% (หากออกมาดีเกินคาดมาก อาจส่งผลต่อเฟดเพิ่มนโยบายคุมเข้มฯ เร็วขึ้น)

       +/-USA: ปัญหาเพดานหนี้คาดว่าจะถูกเลื่อนออกไปเป็นต้นเดือน ธ.ค. หลังสภาฯ เห็นชอบต่อแผนขยายเพดานหนี้ชั่วคราวจนถึงต้นเดือน ธ.ค.

       +China: รายงานภาคบริการเดือน ก.ย. (Caixin) คาดดีขึ้นเป็น 49 Vs เดือน ส.ค. 46.7

        +India: ผลประชุมธนาคารกลางอินเดีย คาดคงดอกเบี้ยที่ 4%

 

 

*ไทย/SET: คาดตลาดฯ เผยเกณฑ์วิธีคัดเลือกหุ้นคำนวณ SET50/SET100 Index แบบใหม่ โดยเกณฑ์สภำพคล่องจะไม่นับรวมปริมาณซื้อขายหุ้นในเดือนที่ติด Cash Balance) คาดเป็นลบต่อ DELTA PSL NRF

 

+/-Global Market Summary: วันทำการที่ผ่านมา

+ ตลาดหุ้นไทยปิดบวกเป็นวันที่ 3 ในรอบ 4 วัน: ตลาดหุ้นไทยยืนในแดนบวกตลอดซื้อขาย ในกรอบ 1624.59 – 1637.82 จุด ก่อนปิดตลาดที่ 1633.72 จุด +14.24 จุด วอลุ่มซื้อขาย 1 แสนล้านบาท นำขึ้นโดยกลุ่มธนาคาร +3.07% พาณิชย์ +2.03% เงินทุนและหลักทรัพย์ +1.8% หุ้นปรับขึ้น >4% ได้แก่ KBANK SVT KTB TTB VPO DOHOME MAKRO APURE SGF CMO CFRESH PAF TH หุ้นปรับลง >4% ได้แก่ PSL LANNA STAR TCC AMC NEX EFORL ส่วนตลาดหุ้นเอเชียอื่น ๆ ฟื้นตัวแรง KOSPI +1.76% เพิ่มขึ้นสูงสุดรอบ 5 สัปดาห์ จาก FDI 9M21 +41% YoY, Nikkei +0.54% หลังร่วงลงต่ำสุดรอบ 6 สัปดาห์ รมว.คลังส่งสัญญาณคงรมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ HSKI +3.07% รับข่าว ประธานาธิบดีจีนและสหรัฐฯ จะประชุมทางไกลก่อนสิ้นปีนี้ คาดหารือผ่อนคลาย Phase One Deal และอื่น ๆ

+ ตลาดหุ้นโลกปิดบวก: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกต่อเนื่อง DJIA +0.98% (+337.95 จุด) S&P500 ปิดที่ +0.83% NASDAQ +1.05% จากแรงซื้อคืนหุ้น เพรำะปัญหา US Debt Ceiling ที่อาจทำให้สหรัฐฯ ผิดนัดชำระหนี้ เริ่มคลี่คลาย หลังพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตบรรลุข้อตกลงขยายเพดานหนี้ชั่วคราวไปจนถึงต้นเดือน ธ.ค. ส่วนตลาดหุ้นยุโรปกลับมาปิดบวก CAC40 +1.65% DAX +1.85% FTSE +1.17% นำขึ้นโดยกลุ่ม Auto, Miners จากคลายกังวลการผิดนัดชำระหนี้ของสหรัฐฯ

 


 

+/- น้ำมันปิดบวก ส่วนทองปิดลบ: WTI +USD0.87 ปิดที่ USD78.30/บาร์เรล Brent +USD0.87 ปิดที่ USD81.95/บาร์เรล ตลาดน้ำมันอ่อนตัวแรงกว่า USD2 ในช่วงแรกของการซื้อขาย ก่อนปรับสูงขึ้นในช่วงท้ายตลาด หลังจากกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ ออกมาปฎิเสธว่าสหรัฐฯ ไม่มีแผนที่จะนำคลังน้ำมันสำรองทางยุทธศาสตร์มาใช้ เพื่อชะลอการปรับขึ้นของราคาน้ำมันดิบ ส่วนราคาทองคำลดลง USD2.60 เซนต์ ปิดที่ USD1,759.20/ออนซ์ วิตกตัวเลขจ้างงานสหรัฐฯ ที่สูงขึ้น อาจส่งผลให้เฟดเร่งคุมเข้มนโยบายการเงินเร็วขึ้น

 

ประเด็นสำคัญ
 

+ กลุ่มท่องเที่ยว: โครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3 เริ่มจองเป็นวันแรก เงื่อนไข คือ รัฐช่วยจ่ายค่าที่พัก 40% สูงสุดไม่เกิน 3,000 บาท/ห้องหรือต่อคืน (สูงสุด 15 ห้องหรือคืน) รวมถึงให้คูปองเพื่อใช้เป็นส่วนลด 40% ค่าอาหารและค่าเข้าสถานที่ท่องเที่ยวที่เข้าร่วมโครงการ มูลค่าสูงสุด 600 บาท/วัน (ทุกวัน รวมสูงสุด 15 วัน) โดยผู้ใช้สิทธิเป็นคนจ่ายเอง 60%

+ ไทย/สายการบิน-การท่าฯ (AOT AAV BA): รองผอ.สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เผยว่าได้เสนอต่อศบค. ที่จะให้สายการบินสามารถเพิ่มที่นั่งภายในเครื่องบินเป็น 100% จากปัจจุบัน 75% โดยจะมีการประชุมในวันที่ 10 ต.ค. และมีผลวันที่ 15 ต.ค. โดยในสหรัฐฯ การบินในประเทศกลับมาที่ 70-80% ยุโรป 60% จีน 100%

+ ไทย: ม.หอการค้าไทย เผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ก.ย. เพิ่มขึ้นเป็น 41.4 (Vs เดือน ส.ค. 39.6) ดีขึ้นเป็นครั้งแรกรอบ 7 เดือน ทั้งนี้ หากรัฐบำลมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม มีเม็ดเงินเข้ามาอัดฉีดในระบบมากขึ้น เศรษฐกิจไทยปีนี้ก็มีโอกาสจะโตได้ 1-1.5% แต่หากน้ำท่วมไม่คลี่คลาย การล็อกดาวน์ทำไม่ต่อเนื่อง เปิดประเทศไม่ต่อเนื่อง เศรษฐกิจก็อาจจะโตได้แค่ 0-1%

กลยุทธ์การลงทุน: แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: HMPRO PSL PTTGC

หุ้นแนะนำเก็งกำไร: KBANK SAWAD MINT

Derivatives: เปิด Long S50Z21 เก็งกำไร หลัง 10:30 น. (ติดตามรายละเอียดเพิ่มใน KTZ-D Report)