วุฒิสภาสหรัฐบรรลุข้อตกลงเพิ่มเพดานหนี้

วุฒิสภาสหรัฐบรรลุข้อตกลงเพิ่มเพดานหนี้

วันพฤหัสที่ผ่านมา ดัชนีปรับตัวสูงสุดถึงประมาณ +18 จุด หลังจากนั้นดัชนีลดช่วงบวกลง เหลือประมาณ +12 จุด โดยหุ้นนำตลาดเป็นหุ้นในกลุ่มธนาคารที่ปรับตัวโดดเด่น ทั้ง KBANK, SCB, KTB และ BBL

จากความคาดหวังในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและทิศทางดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นในอนาคต ประกอบกับการปลดล็อคมูลค่าของหุ้นกลุ่มธนาคาร ในทิศทางเดียวกับยานแม่ SCBX ส่วนหุ้นในกลุ่มพลังงานและปิโตร โดนแรงขายทำกำไร จากที่ปรับตัวขึ้นมาในช่วงก่อนหน้า ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,633.72 จุด +14.24 จุด +0.88% มูลค่าการซื้อขาย 100,950 ลบ.ต่างชาติ +3,133.54 ลบ. TFEX +24,458 สัญญา ตราสารหนี้ -2,096.70 ลบ.

ปัจจัยบวก    

+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 337.95 จุด +0.98% ขานรับข่าววุฒิสภาสหรัฐบรรลุข้อตกลงเพิ่มเพดานหนี้ และการเปิดเผยตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐที่ลดลงมากที่สุดในรอบ 3 เดือน ช่วยหนุนแรงซื้อหุ้น ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ย.ของสหรัฐวันนี้
+สัญญาน้ำมัน WTI เพิ่มขึ้น 87 เซนต์ +1.1% ปิดที่ 78.30 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังกระทรวงพลังงานสหรัฐยืนยันว่ารัฐบาลสหรัฐไม่มีแผนที่จะระบายน้ำมันจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ (SPR)
+วุฒิสภาสหรัฐมีมติด้วยคะแนนเสียง 50 ต่อ 48 ผ่านร่างกฎหมายเพิ่มเพดานหนี้ของรัฐบาลสหรัฐเป็นการชั่วคราวช่วยให้สหรัฐสามารถหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ในเดือนนี้
+ไฟเซอร์ อิงค์ยื่นเรื่องต่อ FDA ขออนุมัติฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ให้แก่เด็กที่มีอายุ 5-11 ปีหลัง FDA อนุมัติฉีดวัคซีนในกลุ่มเด็กอายุ 12-15 ปีเป็นกรณีฉุกเฉินเมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา
+รมว.พลังงานเปิดเผยว่ารัฐบาลพยายามหาทางบรรเทาผลกระทบให้กับประชาชนและผู้ประกอบการรายเล็กๆ ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 มาตรการผ่อนคลายกิจกรรมทางเศรษฐกิจจะมีผลให้การขับเคลื่อนเศรษฐกิจทำได้สะดวกขึ้น

 

+ ตลท.เปิดเผยว่า ในช่วง 9M64 ภาพรวมตลาดหุ้นไทยฟื้นตัวต่อเนื่อง +10.8%YTD ปรับเพิ่มขึ้นสูงกว่าค่าเฉลี่ยของดัชนีตลาดหลักทรัพย์อื่นๆ โดยปรับเพิ่มขึ้นเกือบทุกอุตสาหกรรมเมื่อเทียบกับช่วงสิ้นปี 63 อาทิ กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม กลุ่มเทคโนโลยี กลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร และกลุ่มบริการ
+ผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ก.ย.64 ปรับตัวดีขึ้นทุกรายการและเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 7 เดือน

 

ปัจจัยลบ

- ศบค.พบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ 11,1140 ราย ATK 5,225 เสียชีวิต 116 ราย
- EIC ห่วงหนี้ครัวเรือนไทย 3Q64 กลับมาแตะ 90% จากสินเชื่อส่วนบุคคล (สัดส่วน 22.5% ต่อสินเชื่ออุปโภคบริโภครวมในระบบธนาคารพาณิชย์) เร่งตัวขึ้นเป็นหลัก โดยเติบโตสูงที่ 8.4%YoY มีนัยสาคัญจาก +5.9%YoY ในช่วง 2Q64

 

แนวโน้มตลาดวันนี้    

คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อตามทิศทางตลาดต่างประเทศ โดยมีแรงหนุนจากข่าววุฒิสภาสหรัฐบรรลุข้อตกลงเพิ่มเพดานหนี้ ประกับกับราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ Rebound ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน มองกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1625-1,640 จุด

 

กลยุทธ์การลงทุน 

• ค่าการกลั่นปรับตัวขึ้นเป็นบวกต่อ : TOP SPRC PTTGC
• ตัวเลขผู้ติดเชื้อลดลง : MINT ERW CENTEL AWC SHR ASAP AOT BEM BTS
• ครม.ไฟเขียวจัดตั้งเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษเพิ่มเติม 6 แห่ง : ROJNA WHA EGCO
• ราคาถ่านหินปรับตัวขึ้นอยู่ในระดับสูง : LANNA BANPU AGE TCC
 

 

 

หุ้นรายงานพิเศษ       

                                                SKN - แนะนำ ซื้อ
                                         “ราคาเหมาะสม 10.20 บาท”

•กำไรสุทธิงวด 1H21 คิดเป็น 95.8% ของประมาณการทั้งปีของเรา เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นที่ทำได้ดีกว่าคาด จากการปรับราคาขายได้สูง ขณะที่ความต้องการสินค้ายังมีเข้ามาต่อเนื่อง ประกอบกับผลของการอ่อนค่าของเงินบาทจาก 31.3 บาท/ดอลลาร์ ใน 1Q21 และ 30.9 บาท/ดอลลาร์ ใน 2Q20 เป็น 32.0 บาท/ดอลลาร์ ณ สิ้น 2Q21 เราจึงปรับ ประมาณการรายได้ปี 21 ขึ้น +18.4% เป็น 3,048.4 ล้านบาท และปรับกำไรสุทธิขึ้น +60.3% สู่ระดับ 435.2 ล้านบาท โดยคาดผลประกอบการในช่วง 2H21 ยังปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตามปริมาณการขายและอัตราการใช้กำลังผลิตเพิ่มขึ้น จากการฟื้นตัวของตลาดตะวันออกกลาง

•ผลประกอบการของบริษัทได้แสดงให้เห็นถึงการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง แม้จะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ภายใต้ สมมติฐานประมาณการใหม่ เราได้ราคาเหมาะสมปี 21 เท่ากับ 10.20 บาท

 

หุ้นมีข่าว

(+) OR ( Bloomberg Consensus 28.00 บาท) OR เข้าไฮซีซัน-ท่องเที่ยว-คลายล็อกดาวน์ หนุนยอดขายน้ำมัน Q4/2564 ฟื้นแรง พร้อมปรับเกรดน้ำมันบี 6 มั่นใจรัฐพยุงค่าครองชีพระยะสั้นไม่กระทบ เล็งเพิ่มสัดส่วนรายได้จากธุรกิจ Non-Oil พร้อมทุ่มกว่า 1.5 พันล้านบาท ใส่กองทุน ORZON Ventures ลงทุนใน "สตาร์ทอัพ" ทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นำร่องสิ้นปีนี้ 1-2 ราย (ที่มา ทันหุ้น)

(+) BM ( Bloomberg Consensus - บาท) ส่งสัญญาณไตรมาส 4 ผลงานพีค ลูกค้าป้อนออเดอร์พรึบ ใส่เกียร์เร่งส่งมอบงานให้ทันภายในปีนี้ จากแบ็กล็อกที่มีอยู่กว่า 600 ล้านบาท ฟาก "ธีรวัต อมรธาตรี" เดินหน้าเปิดตัว "Mini EV Tuk-Tuk" ในไตรมาส 4/2564 นี้ ปักธงดันรายได้ปีนี้วิ่งชน 1.2 พันล้านบาท แย้มเตรียมพื้นที่ 25 ไร่ เนรมิตโรงงานปลอดภาษีนำเข้าวัตถุดิบ คาดเดินเครื่องต้นปีหน้า (ที่มา ทันหุ้น)

(+) GUNKUL ( Bloomberg Consensus 5.40 บาท) “กันกุล” ประกาศบิ๊กดีล ทุ่ม 250 ล้านบาท ส่งบริษัทย่อยเข้าซื้อหุ้น THCG สัดส่วน 50% ลุยธุรกิจกัญชง-กัญชาครบวงจร เริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ พ.ย.นี้ โชว์มี 6-7 ใบอนุญาต คาด 2 ปีคุ้มทุน หวังก้าวสู่ผู้นำด้านธุรกิจกัญชง-กัญชาตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ลุ้นปี 65 ทยอยบุ๊กรายได้ธุรกิจกัญชง 1,500-2,000 ล้านบาท (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) SVI ( Bloomberg Consensus 5.70 บาท) บมจ.เอสวีไอ (SVI) เปิดเผยว่า บริษัทได้ลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้น เพื่อเข้าซื้อกิจการ Tohoku Pioneer (Thailand) Company Limited (ทีพีพี) ซึ่งเป็นบริษัทที่จัดตั้งขึ้นในประเทศไทย โดย ทีพีพี เป็นผู้นำในการผลิตชิ้นส่วนและอุปกรณ์เครื่องกล โดยปัจจุบันมีพื้นที่การผลิตกว่า 15,000 ตารางเมตร คาดว่าการซื้อกิจการจะแล้วเสร็จในเดือน พ.ย.64 (ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์ )