Sideway Down เก็งกำไร ERW CPN RCL (7 ต.ค. 64)

Sideway Down เก็งกำไร ERW CPN RCL (7 ต.ค. 64)

คาดดัชนีฯ Sideway Down แนวต้าน 1625 / 1630 จุด แนวรับ 1615 / 1610 จุด แนะนำ เก็งกำไร ERW CPN RCL ทางเทคนิค หลังจากไม่ผ่านแนวต้าน 1630 จุด

และลงมาปิดต่ำกว่า 1620 จุด ทำให้ภาพดัชนีฯ กลับมาแกว่งตัวในกรอบ เพื่อเลือกข้างว่าจะขึ้นต่อไปทดสอบแนวต้าน 1635-1640 จุด หรือร่วงลงมาที่ 1592 จุด อีกครั้ง

กลยุทธ์การลงทุน: แนะนำเก็งกำไร 1) กลุ่ม Re-opening play ที่ได้ประโยชน์จากการคลายล็อกดาวน์เพิ่มเติม หุ้นแนะนำ ERW CPN 2) กลุ่มเดินเรือ หลังจากค่าระวำงเรือยังคงปรับตัวสูงขึ้น หุ้นแนะนำ RCL PSL TTA

ปัจจัยบวก: 1) ความคืบหน้ากรณียาโมลนูพิราเวียร์เตรียมขึ้นทะเบียนในไทย โดยรอเพียงแค่
ขั้นตอนการขึ้นทะเบียนกับ FDA สหรัฐฯ เป็นบวกต่อหุ้นกลุ่ม Re-opening Play 2) S&P คงอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทย ที่ BBB+ และคงมุมมองที่ระดับมีเสถียรภาพสะท้อนถึงมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับสถานะการเงินการคลังของไทย 3) การผ่อนคลายต่อประเด็นการขยายเพดานหนี้สหรัฐฯ หลังจากนาย Mitch Mcconnel ผู้นำส.ว. พรรค Republican กล่าวว่าพรรคจะสนับสนุนการขยายเพดานหนี้ออกไปจนถึงเดือน ธ.ค. ทำให้ความเสี่ยงผิดนัดชำระหนี้ของสหรัฐฯ ยืดออกไปชั่วคราว

ปัจจัยลบ: 1) ตลาดรอดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่จะประกาศวันศุกร์นี้ หลังจากตัวเลขรายงานจ้างงานภาคเอกชนเดือน ก.ย. ADB Non-farm Payroll ออกมาดีกว่าคาดซึ่งอาจทำให้เฟดมีนโยบายคุมเข้มทำงบการเงินเร็วขึ้น 2) IMF ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกปี 2021 ลงสู่ระดับต่ำกว่า 6% โดยระบุถึงความเสี่ยงเกี่ยวกับหนี้สิน, เงินเฟ้อ และทิศทางเศรษฐกิจที่ไม่สอดคล้องกัน อันเนื่องมาจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 3) กรณีของจีนส่งเครื่องบินทหารเข้าสู่น่านฟ้าของไต้หวัน เพิ่มความตึงเครียดในภูมิภาคเอเชีย และอาจเป็นปัจจัยกดดันบรรยากาศการลงทุนเพิ่ม จากความกังวลเรื่องเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น

 

 

 

 

ประเด็นอื่น ๆ ที่ต้องติดตาม

- ตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคของไทยประจำเดือน ก.ย. โดย Consensus คาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้นจากเดือนก่อนหน้ำ
- สหรัฐฯ รายงานตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานรายสัปดาห์ โดย Consensus คาดว่าจะปรับตัวลดลงจากสัปดาห์ที่แล้ว
- ญี่ปุ่นรายงานตัวเลข Coincident Index และ Leading Economic Index ประจำเดือน ส.ค. ซึ่งเป็นตัวเลขที่สะท้อนทิศทางเศรษฐกิจปัจจุบันและแนวโน้มทางเศรษฐกิจในอนาคต

 

+/-Global Market Summary: วันทำการที่ผ่านมา

- ตลาดหุ้นไทยปิดลบ: ตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นในภาคเช้า ก่อนร่วงลงในภาคบ่าย กรอบ
1617.24–1631.81 จุด ก่อนปิดตลาดที่ 1619.48 จุด -4.76 จุด วอลุ่มซื้อขำย 9.76 หมื่นล้าน
บาท นำลงโดยกลุ่มวัสดุก่อสร้าง -1.26% กลุ่มพาณิชย์ -0.84% กลุ่มเทคโนโลยี
สารสนเทศและการสื่อสาร -0.51% กลุ่มขนส่งและโลจิสติกส์ -0.41% หุ้นบวก >4%
BANPU SVT IVL PSL TTA T VPO APURE UBIS SGF EE UKEM BOL 7UP NEX
หุ้นลบ >4% SE KKC TMC CITY

+/- หุ้นสหรัฐฯ ฟื้นมาปิดบวก ขณะที่หุ้นยุโรปร่วงต่อ: DJIA +0.30 (+102.32 จุด) S&P500 ปิดที่ +0.41% NASDAQ +0.47% ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ฟื้นตัวมาปิดบวกในช่วงปลายตลาดหลังจากช่วงเช้า DJ ร่วงลงไปกว่า 400 จุด หลังจากพรรครีพับลิกันเสนอ แผนประนีประนอมขยายเพดานหนี้ ส่วนตลาดหุ้นยุโรป CAC40 -1.26% DAX -1.46% FTSE -1.15% จากการปรับตัวลดลงของหุ้นกลุ่ม retail and travel จากความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ ซึ่งมีแนวโน้มเร่งตัว จากราคาน้ำมันและก๊าซที่สูงขึ้น

+/- น้ำมันร่วงแรง ส่วนทองคำบวกเล็กน้อย: WTI ลดลง -USD1.50 ปิดที่ USD77.43/บาร์เรล Brent ลดลง -USD1.48 ปิดที่ USD81.08/บาร์เรล หลัง EIA รายงานสต็อกน้ำมันดิบสัปดาห์ก่อนสูงกว่ำคาด เพิ่มขึ้น 2.3 ล้านบาร์เรล (Vs คำดลดลง 4 แสนบาร์เรล/วัน) ส่วนราคาทองคำเพิ่มขึ้น +90 เซนต์ ปิดที่ USD1,761.80/ออนซ์ จากแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย หลังตลาดกังวลเรื่องเงินเฟ้อ
 

 

 

ประเด็นสำคัญ

+ USA: ADP และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 568,000 ตำแหน่ง ในเดือน ก.ย. โดยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 425,000 ตำแหน่ง จากระดับ 340,000 ตำแหน่ง ในเดือน ส.ค.

+ U.S. Debt Ceiling: นาย Mcconnel ผู้นำส.ว. พรรครีพับลิกัน กล่าวว่าพรรครีพับลิกันจะสนับสนุนการขยายเพดานหนี้สหรัฐฯ ไปจนถึงเดือน ธ.ค. 2021 โดยเสนอให้โหวตผ่านกระบวนการปกติ และจำกัดวงเงินที่ต้องการให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายถึงเดือน ธ.ค. 2021

- New Zealand: ธนาคารกลางนิวซีแลนด์ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายครั้งแรกรอบ 7 ปี จำนวน 0.25% สู่ระดับ 0.50% และส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง เพื่อลดแรงกดดันจากเงินเฟ้อ และสกัดความร้อนแรงของตลาดอสังหาริมทรัพย์

- UK: ดัชนี PMI ภาคก่อสร้างสหราชอาณาจักรเดือน ก.ย. ต่ำสุดรอบ 8 เดือน แตะ 52.6 (Vs เดือน ส.ค. 55.2) เป็นผลจากราคาที่สูงขึ้น ห่วงโซ่อุปทานที่หยุดชะงัก

+ Thailand: ศบค.ชุดเล็กเตรียมเสนอศบค.ชุดใหญ่ พิจารณามาตรการผ่อนคลายเพิ่มเติมในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า หลังตัวเลขผู้ติดเชื้อในจังหวัดพื้นที่สีแดงเข้มเริ่มลดลงต่ำกว่า 100 ราย ขณะที่จังหวัดท่องเที่ยวนั้นถือว่าทางระบบสาธารณสุขยังรับไหว

+ Russia: วลาดีมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย เสนอให้รัสเซียส่งออกก๊าซธรรมชาติไปยังยุโรปผ่านเส้นทางยูเครนเพิ่มขึ้น เพื่อสร้างเสถียรภาพให้ราคาก๊าซในยุโรป หลังจากราคาปรับตัวสูงขึ้นจากสถานการณ์ Energy Shortage

 

กลยุทธ์การลงทุน: แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดำห์: HMPRO PSL PTTGC

หุ้นแนะนำเก็งกำไร: ERW CPN RCL

Derivatives: Wait&see สำหรับ S50Z21 รอความชัดเจนทางเทคนิค (ติดตามรายละเอียดเพิ่มใน KTZ-D Report)