BCPG ร่วม"เคพเพล นิวเอนเนอร์ยี่ " รุกฬฒนาเมืองอัจฉริยะ-คาร์บอนเครดิต

BCPG ร่วม"เคพเพล นิวเอนเนอร์ยี่ " รุกฬฒนาเมืองอัจฉริยะ-คาร์บอนเครดิต

BCPG จับมือ " เคพเพล นิวเอนเนอร์ยี่" พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอัจฉริยะ ชั้นนำระดับโลกจากสิงคโปร์ บุกตลาดธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานสำหรับเมืองอัจฉริยะเต็มรูปแบบ -บริการจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า หนุนพลังงานสะอาดในภูมิภาคอาเซียนผ่านแพลตฟอร์มซื้อ-ขาย คาร์บอนเครดิต

นายบัณฑิต สะเพียรชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) หรือ BCPG เปิดเผยถึงการลงนามสัญญาเป็นพันธมิตรอย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย (Exclusive Partner) กับ เคพเพล นิวเอนเนอร์ยี่ (Keppel New Energy)บริษัทในกลุ่ม เคพเพล อินฟราสตรัคเจอร์ (Keppel Infrastructure) ผู้เชี่ยวชาญการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอัจฉริยะ ชั้นนำระดับโลก จากประเทศสิงคโปร์เพื่อพัฒนาต่อยอดธุรกิจการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ ในประเทศไทยให้สมบูรณ์ครบวงจรทั้งด้านพลังงาน และ สิ่งแวดล้อม รวมถึงธุรกิจลงทุนด้านโครงสร้างและการบริหารจัดการระบบความเย็นจากส่วนกลาง (Cooling-as-a-Service) บริการจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า(Electric Vehicles Charging-as-a-Service)ไปจนถึงความร่วมมือในธุรกิจคาร์บอนในภูมิภาคอาเซียน

 

บีซีพีจี ในฐานะผู้นำธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานสีเขียวในเอเชียแปซิฟิกและผู้ให้บริการด้านพลังงานอัจฉริยะครบวงจร ได้ให้ความสำคัญกับการนำนวัตกรรมมาพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ เพื่อตอบสนองความต้องการการใช้พลังงานของผู้บริโภคและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมาโดยตลอด ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทฯได้ขยายธุรกิจด้านพลังงานอัจฉริยะ (Smart Energy) มาอย่างต่อเนื่องอาทิโครงการบริหารจัดการพลังงาน Town 77 ซึ่งได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2561 และ โครงการ CMU Smart City ที่คาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ในปี 2564 รวมทั้งโครงการ Sun Share Smart Green Energy Community ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการขออนุญาต Sandboxฯลฯ โดยบริษัทฯ มีเป้าหมายเพื่อต่อยอดไปสู่ธุรกิจการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ (Smart City) อย่างเต็มรูปแบบในอนาคต

 

 “ในปัจจุบันภาครัฐได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาเมืองอัจฉริยะคือเมืองที่ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัยและชาญฉลาด เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับประชาชน ซึ่งเมืองที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และมีการบริหารจัดการด้านพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพเป็นส่วนหนึ่งขององค์ประกอบที่สำคัญของเมืองอัจฉริยะ

เคพเพล นิวเอนเนอร์ยี่ เป็นบริษัทที่มีเทคโนโลยี และนวัตกรรมในการบริหารจัดการด้านสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานอาทิ การจัดการน้ำ การบริหารจัดการของเสียหรือขยะ การบริหารจัดการระบบความเย็นจากส่วนกลาง ฯลฯ ที่สามารถลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพเมื่อมาผนึกกับบีซีพีจีซึ่งมีเทคโนโลยีและประสบการณ์ในการบริหารจัดการพลังงานอาทิ การผลิตและใช้ไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด การนำเทคโนโลยีบล็อคเชน มาใช้ในการซื้อขายไฟฟ้าระหว่างกันแบบ Peer to Peer  ฯลฯ ซึ่งเป็นการสร้างความสมดุลระหว่างการผลิตและการใช้พลังงานในพื้นที่ ลดการพึ่งพาจากระบบโครงข่ายไฟฟ้าหลักและไม่สร้างมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อม การจับมือกันในครั้งนี้จึงเป็นการรองรับตลาดธุรกิจการพัฒนาเมืองอัจฉริยะที่กำลังเติบโตในประเทศไทยอย่างมีนัยสำคัญ” นายบัณฑิตกล่าว

นอกจากนี้ บีซีพีจี ยังมีแผนร่วมมือกับเคพเพล นิวเอนเนอร์ยี่ ในการพัฒนาโครงการพลังงานหมุนเวียน (renewable energy projects)ร่วมกัน เพื่อผลักดันให้การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดในภูมิภาคอาเซียนเติบโตตามเป้าหมายรวมไปถึงการร่วมกันจัดทำแพลตฟอร์มซื้อ-ขาย คาร์บอนเครดิต (carbon trading platform)ซึ่งเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการสร้างสมดุลในการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ หรือความเป็นกลางทางคาร์บอน (carbon neutral) โดยจะขยายไปยังประเทศต่างๆ ในภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศไทย ลาว และสิงคโปร์ อีกด้วย

 

ด้าน มิสซินดี้ ลิม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเคพเพล อินฟราสตรัคเจอร์ กล่าวว่า “เรายินดีที่ได้ร่วมมือกับบีซีพีจีในการนำโซลูชั่นด้านพลังงานและการลดการปล่อยคาร์บอนมาใช้ในประเทศไทยและในภูมิภาคอาเซียน เช่น การนำระบบผลิตความเย็นจากส่วนกลาง (District Cooling System) ที่มีระบบควบคุมอัจฉริยะมาใช้ในเมืองอัจฉริยะ หรือในเมืองต่างๆ เพื่อให้เกิดการใช้พลังงานที่คุ้มค่าที่สุด มุ่งลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และสร้างวิถีชีวิตที่ยั่งยืน

นอกจากนี้ ภายในปี 2025 รัฐบาลในกลุ่มประเทศอาเซียนได้ตั้งเป้าหมายให้มีการใช้พลังงานสะอาดเพิ่มขึ้นโดยมีสัดส่วนมากถึง ร้อยละ 23 นั่นหมายความว่าประเทศในภูมิภาคนี้จะต้องผลิตพลังงานสะอาดให้ได้ถึง 3,500 – 4,000 เมกกะวัตต์ (3.5-4.0 กิกะวัตต์) และด้วยศักยภาพของเคพเพล อินฟราสตรัคเจอร์ และ บีซีพีจี เรามุ่งมั่นที่จะต่อยอดโอกาสจากเป้าหมายดังกล่าว รวมไปถึงเป้าหมายการเชื่อมโยงพลังงานสะอาด และตลาดคาร์บอนภายในภูมิภาค ส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพลังงานใหม่ในอาเซียน ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของ เคพเพลในการพัฒนาโซลูชั่นเพื่อสร้างเมืองที่ยั่งยืน”