1 พ.ย.เปิดเพิ่ม 5 จังหวัด คาดปีนี้โกย 8.5 แสนล้าน

กระทรวงท่องเที่ยวฯ เดินหน้าตามแผนเปิดรับต่างชาติเพิ่ม 5 จังหวัด 1 พฤศจิกายนนี้ คาดทั้งปีภาคท่องเที่ยวทำรายได้รวม 8.5 แสนล้านบาท

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พิพัฒน์ รัชกิจประการ ระบุ ในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ ไทยจะสามารถเปิดพื้นที่นำร่องรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่ได้รับวัคซีนครบโดสเพิ่มอีก 5 จังหวัดอย่างแน่นอน คือ กรุงเทพฯ จังหวัดเชียงใหม่ พื้นที่ อ.เมือง อ.แม่ริม อ.แม่แตง และ อ.ดอยเต่า จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พื้นที่ ต.หนองแก อ.หัวหิน จังหวัดเพชรบุรี ในพื้นที่เทศบาลเมืองชะอำ และจังหวัดชลบุรี พื้นที่พัทยา อ.บางละมุง ต.นาจอมเทียน ต.บางเสร่ 

การเปิดพื้นที่ดังกล่าวต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขสำคัญคือ ประชากรในพื้นที่ต้องได้รับวัคซีน 70% เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ และต้องไม่พบการติดเชื้อโควิดที่เป็นคลัสเตอร์ขนาดใหญ่และมีความรุนแรงจนสร้างความกังวลสูงอีกรอบ โดยเฉพาะพื้นที่กรุงเทพฯ เพราะแม้นักท่องเที่ยวต่างชาติจะนิยมเดินทางไปเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวทะเลหรือภูเขา แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องเดินทางมากรุงเทพฯ

ส่วนการจับคู่แลกเปลี่ยนนักท่องเที่ยวระหว่างประเทศแบบไม่ต้องกักตัว หรือ Travel Bubble กรเทรวงฯได้หารือแบบไม่เป็นทางการกับหลายประเทศ มั่นใจว่าปลายปีนี้ จะเริ่มต้นกับประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนติดกับไทยได้แน่นอน เช่น กัมพูชา คือ จ.ตราด กับเกาะกง) สปป.ลาว ที่ จ.หนองคาย และมาเลเซีย คือเกาะลังกาวีกับเกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล แต่เงื่อนไขหลักคือประชากรในพื้นที่ต้องได้รับวัคซีนครบโดส และชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาก็ต้องได้รับวัคซีนครบโดสแล้วเช่นกัน

โดยในปีนี้ ตั้งเป้าว่าจะมีรายได้จากการท่องเที่ยวรวม 8.5 แสนล้านบาท เป็นรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 3 แสนล้านบาท และนักท่องเที่ยวในประเทศ 5.5 แสนล้านบาท

ส่วนในปีหน้า กระทรวงฯตั้งเป้าหมายว่าไทยจะมีรายได้จากการท่องเที่ยวรวม 1.5 ล้านล้านบาท หรือ 50% ของรายได้รวมในปี 2562 ก่อนเจอวิกฤติโควิด 19 โดยรายได้กว่า 6 แสนล้านบาทจะมาจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 15 ล้านคน หรือประมาณ 40% ของยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 2562 ซึ่งมีประมาณ 40 ล้านคน 

ส่วนที่เหลือ 8.82 แสนล้านบาท จะมาจากตลาดในประเทศ ซึ่งคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทาง 160 ล้านคน-ครั้งโดยเป้าหมายดังกล่าวอยู่ภายใต้เงื่อนไขว่าไทยจะไม่มีการระบาดของโควิด 19 ระลอก 5