ปตท.ลั่นดูแลราคาน้ำมัน อุ้มแอลพีจีช่วยผู้มีรายได้น้อย

ปตท.ลั่นดูแลราคาน้ำมัน อุ้มแอลพีจีช่วยผู้มีรายได้น้อย

ปตท.ยืนยันไม่ขึ้นราคาน้ำมัน จับตากลุ่มโอเปกหารือถี่ขึ้นทุกเดือน ชี้ดูแลราคาแอลพีจีช่วยผู้มีรายได้น้อยต่อเนื่อง กระทรวงพลังงาน สั่งเร่งผลิตก๊าซในอ่าว ขอความร่วมมือไม่หยุดซ่อมบำรุง 

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จํากัด (มหาชน) เปิดเผยว่า สถานการณ์ราคาพลังงานที่อยู่ในระดับสูงในขณะนี้ ปตท.ยังคงจับตาแน้วโน้มราคาน้ำมันโลกอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจัยที่ทำให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกสูงขึ้นมาจากภูมิอากาศที่เข้าสู่ช่วงฤดูหนาว ซึ่งส่งผลให้ความต้องการในการใช้พลังงานจึงสูงตามไปด้วย 

รวมทั้งประเทศไทยมีปริมาณในการนำเข้าน้ำมันดิบอยู่ที่กว่า 80% จึงทำให้ราคาต้นทุนน้ำมันดิบที่มาจากตลาดโลกสูงขึ้นด้วย ซึ่งทำให้ทุกภาคได้จับตาสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด

ทั้งนี้ สถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ผันผวนจึงทำให้กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) หันมาจัดการประชุมกันถี่มากขึ้นทุกเดือน และหากโอเปกผ่อนคลายการจัดโควตาการผลิตน้ำมันจะทำให้สถานการณ์ราคาน้ำมันดีขึ้น ซึ่งกระทรวงพลังงาน ปตท.และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจึงต้องจับตาการประชุมโอเปกอย่างใกล้ชิดเช่นกัน โดยช่วงเดือน ต.ค.-ธ.ค.2564 การประชุมโอเปกน่าจะมีข้อสรุปที่ดีขึ้น

“สำหรับการบริหารงานของ ปตท.ในช่วงสถานการณ์น้ำมันที่มีราคาต้นทุนที่สูงนั้น ปตท.ก็ได้ติดตามทุกความเคลื่อนไหว เพราะถ้าขึ้นราคาน้ำมัน ผู้บริโภคจะได้รับผลกระทบจำนวนมาก ยืนยันว่า ณ วันนี้ ปตท.ยังไม่มีการปรับขึ้นราคาอย่างแน่นอน” นายอรรถพล กล่าว

ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายกังวลว่าสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกจะขยับขึ้นถึง 90-100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล นายอรรถพล กล่าวว่า ต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ส่วนตัวมองว่าถ้าสูงมากก็จะไม่ส่งผลดีอย่างแน่นอน เพราะจะมีแหล่งพลังงานทดแทนอื่นเกิดขึ้นมาอีกมากมาย แต่มองว่าสถานการณ์ต่อจากนี้ไม่น่าจะกังวลอะไรมาก เพราะปัจจุบันกระทรวงพลังงานได้จับตาอย่างใกล้ชิดและเชื่อว่าทุกภาคส่วนได้มีมาตรการรองรับไว้อยู่แล้ว

สำหรับราคาก๊าซหุงต้ม LPG นั้น ปตท.จะยังให้ความช่วยผู้ที่มีรายได้น้อยอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว โดยได้ขยายระยะเวลาช่วยเหลือส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้มแก่ผู้มีรายได้น้อย อาทิ กลุ่มร้านค้า หาบเร่ แผงลอยอาหาร ที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวนเงิน 100 บาทต่อคนต่อเดือน จนถึงวันที่ 31 ธ.ค.2564 เพื่อเป็นการช่วยเหลือภาคประชาชนในการลดต้นทุนค่าครองชีพ และต่อลมหายใจเศรษฐกิจให้แก่ประเทศในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

"ที่ผ่านมา ปตท.ได้ให้การสนับสนุนส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม แก่ผู้มีรายได้น้อย กลุ่มร้านค้า หาบเร่ แผงลอยอาหาร ที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐตั้งแต่เดือน ต.ค.2562 รวมแล้วเกือบ 2 ปี คิดเป็นมูลค่าการช่วยเหลือแล้วกว่า 11 ล้านบาท” นายอรรถพล กล่าว

ทั้งนี้ ทีมวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ได้วิเคราะห์ราคาไว้ว่า ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดมากกว่า 3 ปี หลังกลุ่มโอเปกและประเทศพันธมิตร (โอเปกพลัส) คงมติการปรับเพิ่มการผลิตที่ 4 แสนบาร์เรลต่อวัน สำหรับเดือนพ.ย.2564 ในการประชุมครั้งล่าสุด จากปัจจัยการฟื้นตัวของอุปสงค์น้ำมันโลก แม้ว่าก่อนหน้านี้ทางกลุ่มจะมีการพิจารณาปรับการผลิตเพิ่มมากกว่ามติที่มีการตกลงไว้ ส่งผลให้ตลาดน้ำมันดิบมีแนวโน้มตึงตัวมากขึ้น

นอกจากนี้ อุปสงค์น้ำมันปรับเพิ่มหลังได้รับแรงหนุนราคาก๊าซธรรมชาติที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่า 300% เมื่อเทียบกับปีก่อน

หน้านี้ ส่งผลให้โรงไฟฟ้าหลายแห่งในตะวันออกกลางและเอเชียใต้ มีการนำเข้าน้ำมันเพื่อเป็นเชื้อเพลิงแทนที่ก๊าซธรรมชาติสำหรับการผลิตไฟฟ้ามากขึ้น

ขณะที่องค์การอนามัยโลก (ดับบลิวเอชโอ) รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายวันทั่วโลก ล่าสุด ณ วันที่ 4 ต.ค.2564 อยู่ที่ระดับ 257,172 ราย ลดลงจาก 655,298 รายในเดือนก่อนหน้า หรือคิดเป็นการปรับลดกว่า 60% ขณะที่จำนวนผู้ได้รับวัคซีนอย่างน้อย 1 เข็มปรับเพิ่มขึ้นสู่ระดับมากกว่า 40% สนับสนุนความต้องการฟื้นตัวเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังความต้องการใช้น้ำมันเบนซินในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ปรับเพิ่มหลังมีการผ่อนคลายมาตรการจำกัดการเดินทางในหลายประเทศมากขึ้น 

ขณะที่อุปสงค์จากจีนเพิ่มสูงขึ้นในช่วงวันหยุดเทศกาลวันชาติ (Golden Week) ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังตลาดน้ำมันดีเซลในเอเชียตึงตัวมากขึ้นจากการปรับลดอัตราการดำเนินการผลิตของโรงกลั่นอินเดียท่ามกลางการส่งออกจากประเทศในแถบเอเชียเหนือที่ปรับตัวลดลง

แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน มอบหมายให้กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ หารือกับผู้สำรวจและขุดเจาะก๊าซในอ่าวไทยเกี่ยวกับการผลิตก๊าซให้มีปริมาณเพียงพอกับความต้องการในช่วงนี้ โดยมีแนวทางที่สำคัญ 2 แนวทาง คือ 1.เดินเครื่องผลิตให้เต็มกำลังการผลิต 2.ขอความร่วมมือไม่ให้มีการหยุดซ่อมบำรุงในช่วงนี้เพื่อให้การผลิตก๊าซมีความต่อเนื่อง

สำหรับอัตราการผลิตก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยเฉลี่ยต่อวันในปี 2563 อยู่ที่วันละ 2,745 ลูกบาศก์ฟุต ลดลงจากปี 2562 ที่ผลิตได้วันละ  2,983 ล้านลูกบาศก์ฟุต ในขณะที่ปี 2561 ผลิตได้วันละ 2,908 ล้านลูกบาศก์ฟุต.