Sideways Down เก็งกำไร TOP AOT SCB (5 ต.ค. 64)

Sideways Down เก็งกำไร TOP AOT SCB (5 ต.ค. 64)

คาดดัชนีฯ Sideways Down แนวต้าน 1620 / 1630 จุด แนวรับ 1610 / 1605 จุด แนะนำ เก็งกำไร TOP AOT SCB ทางเทคนิคอยู่ระหว่างทดสอบแนวต้าน 1620-1625 จุด

เพื่อเลือกข้างว่าจะขึ้นต่อไปทดสอบแนวต้าน 1635-1640 จุด หรือร่วงลงมาที่ 1592 จุด

กลยุทธ์การลงทุน: แนะนำ เก็งกำไร 1) หุ้นกลุ่มพลังงานมีสัญญาณบวก จากการปรับขึ้นของราคาน้ำมันดิบโลกต่อเนื่อง หุ้นแนะนำ TOP PTTEP 2) หุ้นกลุ่ม Reopening Play หลังจากรัฐบาลไทยสั่งยาโมลนูพิราเวียร์ 2 แสนเม็ด หุ้นแนะนำ AOT MINT 3) หุ้นกลุ่มธนาคาร แนะนำ SCB KBANK รับสัญญาณบวก จากเศรษฐกิจในประเทศฟื้นตัว

ไฮไลน์วันนี้: รายงานตัวเลขเงินเฟ้อของไทย จากกระทรวงพาณิชย์ โดย Consensus คาดว่า จะอยู่ที่ +0.7% YoY ส่วนเงินเฟ้อพื้นฐานคาดว่าจะอยู่ที่ +0.2% YoY

ปัจจัยบวก: 1) ราคาน้ำมันที่ยังคงบวกต่อเนื่อง ทั้งจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและข่าวการขาดแคลนพลังงานของจีน เป็นบวกต่อหุ้นกลุ่มโรงกลั่น ซึ่งมีน้ำหนักดัชนีฯ สูง และ คาดว่าจะเป็นกลุ่มที่ประคองตลาดได้ในสัปดาห์นี้ 2) ตัวเลขผู้ติดเชื้อ COVID-19 รายใหม่ ต่ำกว่า 1 หมื่นราย อีกครั้งเมื่อวานนี้ ขณะที่รัฐบาลเตรียมสั่งยาโมลนูพิราเวียร์ 2 แสนคอร์ส เข้าไทยเพื่อรักษา COVID-19 หลังจากมีการยื่นเรื่องขออนุญาตใช้เป็นการฉุกเฉินในสหรัฐ

ปัจจัยลบ: 1. กรณี China Evergrande ซึ่งกลับมากดดัน Sentiment การลงทุนในตลาดหุ้นเอเชียอีกครั้ง หลังจากตลาดหุ้นฮ่องกงสั่งระงับการซื้อขายหุ้นดังกล่าวเมื่อวานนี้ เนื่องจากบริษัทผิดนัดชำระหนี้เป็นครั้งที่ 3  2) ตลาดรอความชัดเจนการปรับเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐฯ โดยมีแนวโน้มเข้าสู่ภาวะ Risk Off จากความเสี่ยงผิดนัดชำระหนี้ หากระยะเวลาล่วงเลยเข้าใกล้วันที่ 18 ต.ค. 3) ตลาดยังคงจับตาสถานการณ์น้ำท่วม หลังจากกรมอุตุนิยมวิทยา เผยว่าจะมีพายุ 2 ลูกเข้ามาทางฝั่งเวียดนามในช่วงวันที่ 8-10 ต.ค. และ 13-15 ต.ค. ซึ่งมีโอกาสพัดผ่านประเทศไทยและอาจทาให้สถานการณ์น้าท่วมทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น

 

 

ประเด็นอื่น ๆ ที่ต้องติดตาม

     - ตัวเลขเฟ้อของญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ คาดว่าจะอยู่ที่ 0% YoY และ +2.6% YoY ตามลำดับ

     - ตัวเลข Markit Services PMI เดือน ก.ย. ของออสเตรเลีย ญี่ปุ่น ยูโรโซน และสหรัฐฯ

     - ตัวเลข PPI เดือน ส.ค. ของยูโรโซน โดย Consensus คาด +1.3% MoM และ +13.5% YoY

     - ตัวเลขนำเข้า ส่งออก รวมถึงดุลการค้าเดือน ส.ค. ของสหรัฐฯ โดย Consensus คาดขาดดุลลดลงเล็กน้อย ในขณะที่ตัวเลขส่งออกและนำเข้าปรับตัวเพิ่มขึ้น

 

+/-Global Market Summary: วันทำการที่ผ่านมา

+ ตลาดหุ้นไทยปิดบวก: ตลาดหุ้นไทยปรับตัว Sideways Up กรอบ 1611.69-1619.27 จุด ก่อนมาปิดตลาดที่ 1614.48 จุด +9.31 จุด วอลุ่ม 7.86 หมื่นล้านบาท นำขึ้นโดยกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ +1.72% กลุ่มขนส่งและโลจิสติกส์ +1.18% กลุ่มพาณิชย์ +0.61% กลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภค +0.56% หุ้นบวก >4% COM7 TRUE AMATA LANNA UMI PLANET KSL SE T MORE ICN THCOM TKS WAVE MBK หุ้นลบ >4% RCL UKEM XO CPI EFORL OTO UVAN W SMD IMH SFT JTS WIN

- ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และยุโรปปิดลบ: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบ DJIA -0.94% (-323.54 จุด) S&P500 -1.30% NASDAQ -2.14% นำลงโดยกลุ่มเทคโนโลยี หลังจากอัตราผลตอบแทน Bond Yield สหรัฐฯ 10 ปี ดีดตัวตัวขึ้นแตะ 1.47% สถาบันจัดอันดับเครดิต S&P เตือนตลาดการเงินโลกอาจได้รับผลกระทบรุนแรง หากสหรัฐฯ ผิดนัดชำระหนี้ ส่วนตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเป็นวันที่สาม CAC40 -0.61% DAX -0.79% FTSE -0.23% นำลงโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และหุ้นอิงเศรษฐกิจ เช่น ธนาคาร จากความวิตกกังวลเกี่ยวการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก

+ ราคาน้ำมันและทองคำปิดบวก: ตลาดน้ำมันดิบโลกปิดบวก WTI +USD1.74 ปิดที่ USD77.62/บาร์เรล Brent +USD1.98 ปิดที่ USD81.26/บาร์เรล หลังจาก OPEC+ มีมติตามคาด โดยเพิ่มกำลังการผลิตเดือน พ.ย. เพียง 4 แสนบาร์เรล/วัน ส่วนราคาทองคำปิดบวก +USD9.20 ปิดที่ USD1,767.60/ออนซ์ จากแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย

 

 

 

ประเด็นสำคัญ

- ราคาน้ำมัน: กบง. มีมติให้ปรับลดเงินนำส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงของดีเซลบี 7 มีผลให้ราคาลดลงทันทีลิตรละ 1 บาท พร้อมให้ปรับลดค่าการตลาดน้ำมันดีเซลบี 10 และบี 7 เหลือ 1.40 บาท/ลิตร จากเฉลี่ย 1.80 บาท/ลิตร มีผลตั้งแต่วันที่ 5 - 31 ต.ค. 2021 นอกจากนี้ มีมติให้ปรับลดสัดส่วนการผสมบี 100 สัดส่วน 10% หรือ บี 10 และ 7% หรือ บี 7 ให้เหลือ 6% หรือ บี 6 ชั่วคราว มีผลตั้งแต่วันที่ 11 – 31 ต.ค. 2021 (-กลุ่มไบโอดีเซลและกลุ่มปั๊มน้ามัน)

+ China Evergrade: บริษัท ไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป เตรียมขายหุ้นครึ่งหนึ่งในกลุ่มธุรกิจการจัดการอสังหาริมทรัพย์ให้บริษัท Hopson Development มูลค่ากว่า 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หลังจากที่ทั้งสองบริษัทได้ระงับการซื้อขายไปก่อนหน้านี้

+ USA: กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เผยคำสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐฯ เดือน ส.ค. + 1.2% MoM สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.0% หลังจากปรับตัวขึ้น 0.7% ในเดือน ก.ค. ส่วนยอดสั่งซื้อสินค้าทุนพื้นฐานที่ไม่รวมหมวดอาวุธและเครื่องบินเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือน ส.ค.

+ OPEC Plus: มีมติตามข้อตกลงเดิมที่ทำไว้เมื่อเดือน ก.ค. ที่จะทยอยปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันในช่วงเดือน ส.ค. – ธ.ค. เดือนละ 400,000 บาร์เรล/วัน

กลยุทธ์การลงทุน: แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: BANPU PTTEP KBANK

หุ้นแนะนำเก็งกำไร: TOP AOT SCB

Derivatives: เปิด Short S50Z21 เก็งกำไรหลัง 10:30น. รอทำกำไรตามเป้า (ติดตามรายละเอียดเพิ่มใน KTZ-D Report)