AEONTS ผลประกอบการ 2Q64/65: ตั้งสำรองก้อนใหญ่, กำไรสุทธิตํ่า

AEONTS ผลประกอบการ 2Q64/65: ตั้งสำรองก้อนใหญ่, กำไรสุทธิตํ่า

กำไรสุทธิของ AEONTS ใน 2Q64/65 (สิ้นสุดเดือนสิงหาคม) อยู่ที่ 678 ล้านบาท (-41% QoQ, -30%YoY) ต่ำกว่าประมาณการของเรา 43%

เนื่องจาก credit loss สูงเกินคาดที่ 2,005 ล้านบาท (เราคาดการณ์1,450 ล้านบาท) ทั้งนี้ กำไรสุทธิในงวด 1H64/65 อยู่ที่ 1,828 ล้านบาท คิดเป็น 43% ของประมารการกำไรปีนี้ของเรา

 

สินเชื่อในประเทศขยายตัวเล็กน้อย โดยเฉพาะสินเชื่อบัตรเครดิต

ถึงแม้ว่าสถานการณ์ COVID-19 จะรุนแรงมากขึ้น แต่สินเชื่อรวมของ AEONTS ใน 2Q64/65 (มิถุนายน - สิงหาคม) ยังเพิ่มขึ้น 0.4% QoQ และลดลง 1.1% YoY ตามที่เราคาดไว้เนื่องจาก i) สินเชื่อบัตรเครดิตเพิ่มขึ้น 1.4% QoQ และทรงตัว YoY ii) สินเชื่อส่วนบุคคลเพิ่มขึ้น 0.3% QoQ แต่ทรงตัว YoY ในขณะเดียวกัน yield สินเชื่อยังทรงตัว 20.4% เท่ากับใน 1Q64/65 ส่วนต้นทุนทางการเงินอยู่ที่ 2.84%ลดลงจาก 2.91% ใน 1Q64/65 โดยสัดส่วนต้นทุนต่อรายได้ลดลงเหลือ 36.9% (จาก 38.1% ใน 1Q64/65)เนื่องจากสามารถประหยัดต้นทุนได้อย่างต่อเนื่อง

 

ตั้งสำรองก้อนใหญ่ใน 2Q64/65

บริษัทรายงานว่าได้ตั้งสำรองก้อนใหญ่ถึง 2,005 ล้านบาท (+64% QoQ, +26% YoY) ซึ่งสูงกว่าประมาณการของเราที่ 1,450 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทเป็นห่วงภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน หลังจากที่รัฐบาลใช้มาตรการที่เข้มงวดมากขึ้นในการคุมสถานการณ์ COVID-19 ในเดือนสิงหาคม ทั้งนี้ สินเชื่อเร่งตัวขึ้น QoQ ในขณะที่ yield สินเชื่อทรงตัว และสัดส่วน C/I ลดลงใน 2Q64/65 โดยกำไรสุทธิลดลง 41% QoQเนื่องจาก credit loss สูงเกินคาด

 

 

บันทึกกำไรจากการขาย NPLs 320 ล้านบาท

AEONTS ขายสินเชื่อค้างรับที่ write-off ไปแล้วออกไปในเดือนสิงหาคม 2564 ทำให้มีการบันทึกกำไรจากการขาย NPLs 320 ล้านบาท (เราคาดการณ์ที่ 350 ล้านบาท) ซึ่งช่วยบรรเทาผลกระทบจากการตั้งสำรองก้อนใหญ่ไปได้

 

NPLs ลดลงเหลือ 5.2%

AEONTS บริหารจัดการ NPLs จากทั้งสินเชื่อบัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคลได้ดีในช่วงที่ COVID-19 ระบาด ทำให้คุณภาพสินทรัพย์ยังดีอยู่ โดยสัดส่วน NPLs ลดลงเหลือ 5.2% จาก 5.8% ใน 1Q64/65 ในขณะเดียวกัน สัดส่วน NPL coverage เพิ่มขึ้นเป็น 242% จาก 225% ใน 1Q64/65 ส่วน Credit cost เพิ่มขึ้นเป็น 9.2% จาก 5.7% ใน 1Q64/65

 

Valuation

เราประเมินมูลค่าหุ้น AEONTS โดยอิงจาก P/E ที่ 12.5x ซึ่งสะท้อน PEG ที่ 0.8.x จากกำไรเฉลี่ยสองปีข้างหน้า โดยกำหนด discount จากหุ้นอื่นในกลุ่ม 45% เรายังคงคำแนะนำซื้อ โดยประเมินราคาเป้าหมายที่ 230 บาท

 

Risks

อุปสงค์สินเชื่อชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้า, ความเสี่ยงด้านกฎเกณฑ์ของทางการกดดัน yield สินเชื่อ, NPL เพิ่มขึ้นจากกลุ่มลูกค้าระดับล่าง