M มีแนวโน้มฟื้นตัวได้อย่างแข็งแกร่งในระยะต่อไป

M มีแนวโน้มฟื้นตัวได้อย่างแข็งแกร่งในระยะต่อไป

แบรนด์ที่แข็งแกร่งจะช่วยสนับสนุนการฟื้นตัว  M ดำเนินกิจการร้านอาหารหลากหลายแบรนด์ ซึ่งตั้งอยู่ในห้างขนาดใหญ่ทั่วประเทศ มีจำนวนสาขาถึงกว่า 700 ร้าน

โดยส่วนใหญ่เป็นร้าน MK สุกี้, ยาโยอิ และ แหลมเจริญ ซีฟู้ด (LCS) คิดเป็นสัดส่วน 75%,18% และ 5% ของรายได้รวมใน 1H64 ตามลำดับ เรามองว่าแบรนด์ที่แข็งแกร่ง, ทำเลที่ตั้งร้านที่ดีเยี่ยมและการมีครัวกลางของตัวเองน่าจะทำให้ M ได้เปรียบในช่วงฟื้นตัวหลังวิกฤติโรคระบาด และช่วยสนับสนุนการขยายกิจการในอนาคต

 

จะได้อานิสงส์จากธีมการเปิดประเทศ

การผ่อนคลายมาตรการ lockdown, ความคืบหน้าในการกระจายวัคซีน และ การเปิดประเทศบางส่วนเพื่อรับนักท่องเที่ยวต่างชาติใน 4Q64 จะส่งผลดีต่อยอดขาย และอัตรากำไรของร้านอาหาร เราคาดว่าผลการดำเนินงานของบริษัทจะทยอยฟื้นตัวขึ้น และพลิกตัวได้หลังจากที่ผ่านจุดต่ำสุดใน 3Q64 มาเป็นกำไรตั้งแต่ 4Q64 เป็นต้นไป เราคาดว่า Same-Store Sale Growth (SSSG) ของร้านสุกี้ MK จะอยู่ที่-18.7%/30.0%/3.0% ในปี 2564F/2565F/2566F ในขณะที่คาดว่า SSSG ของร้านยาโยอิ จะอยู่ที่ -19.4%/30.0%/3.0% ในปี 2564F/2565F/2566F ทั้งนี้ เราคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะอยู่ที่ 63.5%/66.9%/68.0% 2564F/2565F/2566F ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะประสิทธิภาพในการคุมต้นทุน

 

แหลมเจริญซีฟู้ด (LCS) จะทำกำไรได้มากขึ้น

หลังจากที่มีการเลื่อนขยายสาขาร้านออกไปเนื่องจากสถานการณ์โรคระบาด เราคาดว่ารายได้ของ LCS จะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญถึง 55%/34% ในปี 2565F/2566F เนื่องจาก i) คาดว่าการกลับมาเปิดให้บริการเต็มรูปแบบสำหรับทั้งลูกค้าไทย และต่างชาติจะช่วยหนุนยอดขายตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นไป   ii) คาดว่าจะสามารถขยายสาขาร้าน LCS ได้เร็วขึ้น นอกจากนี้ เรายังคาดว่าบริษัทจะสามารถบริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยจากการแชร์ครัวกลางร่วมกันร้านอาหารอื่น ๆ ของบริษัทตั้งแต่ 3Q64

 

 

สถานะทางการเงินแข็งแกร่ง

บริษัทมีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง โดยมีเงินสดในมือและเงินลงทุนระยะสั้นอยู่ในเกณฑ์สูง และยังเป็นบริษัทที่ปลอดหนี้ มีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานค่อนข้างสม่ำเสมอ และจ่ายเงินปันผลในอัตราที่สูงถึงกว่า 90% ทั้งนี้ จากสถานะทางการเงินที่มั่นคง เราจึงคาดว่าบริษัทจะสามารถสร้างการเติบโตแบบ inorganic ไจากธุรกิจ และการลงทุนใหม่ ๆ ในอนาคต

 

Valuation

M ถือเป็นหุ้นในธีม reopening ที่น่าสนใจ โดยคาดว่าจะสามารถเติบโตแบบ organic โดยจะพลิกจากที่ขาดทุน 54 ล้านบาทในปี 2564F เป็นกำไรสุทธิ 1,859 ล้านบาทในปี 2565F และกำไรจะโตต่อเนื่องอีก25% ในปี 2566F นอกจากนี้ บริษัทยังมีความได้เปรียบในการแข่งขันอีกจาก i) แบรนด์เป็นที่รู้จักอย่างดี ii) GPM น่าประทับใจอยู่ที่ประมาณ 68% เนื่องจากมีครัวกลางของตัวเอง และ iii) สถานะทางการเงินแข็งแกร่ง โดยมีเงินสดในมือก้อนใหญ่ และไม่มีภาระหนี้ แถมยังจ่ายปันผลอย่างสม่ำเสมอในอัตราสูงอีกด้วย (>90%) ดังนั้น เราจึงคิดว่าหุ้น M สมควรจะมี premium โดยประเมิน P/E เหมาะสมที่ 31x (+2S.D.) เราปรับเพิ่มคำแนะนำหุ้น M จากถือเป็นซื้อ โดยประเมินราคาเป้าหมายปี 2565F ที่ 62.50 บาท

 

Risks

เศรษฐกิจฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดไว้, SSSG ต่ำเกินคาด, การแข่งขันในธุรกิจร้านอาหาร