เริ่มวันนี้! ใช้ ’คนละครึ่ง’ สั่งฟู้ดเดลิเวอรี่ผ่านเป๋าตัง

กรุงไทยขยายศักยภาพแอปฯ เป๋าตัง ยกระดับบริการเชื่อมระบบสั่งอาหารผ่านแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี่ “LINE MAN - Grab” ผ่านโครงการคนละครึ่งบนแอปฯ เป๋าตังเริ่มวันนี้ ตอบโจทย์ชีวิตยุคใหม่ ห่างไกลโควิด-19 

กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย ผยง ศรีวณิช ระบุ ธนาคารได้ขยายศักยภาพของแอปฯ เป๋าตัง ให้รองรับการใช้จ่ายในการสั่งอาหารและเครื่องดื่มผ่านแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี่ 2 รายใหญ่ คือ แกร็บและไลน์แมน โดยการใช้สิทธิโครงการ คนละครึ่ง ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เพิ่มความความสะดวกในการใช้งานให้ประชาชนที่เข้าร่วมโครงการลดค่าใช้จ่ายในการครองชีพ  และตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนไทยที่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะในช่วง Work From Home ที่ประชาชนส่วนใหญ่ใช้บริการสั่งอาหารและเครื่องดื่มผ่านแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี่มากขึ้น  เพื่อเว้นระยะห่างทางสังคม ลดความเสี่ยงการแพร่ระบาดของโควิด-19

การเชื่อมแอปฯเป๋าตัง กับแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี่ เป็นมิติใหม่ของการเชื่อมต่อแพลตฟอร์มพันธมิตร ตอบโจทย์ผู้ใช้งาน สร้างโอกาสเพิ่มช่องทางการขายและโปรโมตให้กับร้านค้าต่างๆ ทำให้ลูกค้าเข้าถึงร้านค้าได้ง่ายขึ้น สะดวกขึ้น โดยที่เม็ดเงินในโครงการยังคงไปที่ร้านค้าต่างๆ เพราะเป็นเงินช่วยในส่วนค่าอาหารและเครื่องดื่มเท่านั้น ไม่ร่วมค่าส่ง จึงช่วยเพิ่มยอดขายและรายได้ให้ผู้ประกอบการร้านอาหารรายเล็กรายน้อยโดยตรง สามารถประคับประคองกิจการให้ผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปได้ 

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LINE MAN Wongnai  ยอด ชินสุภัคกุล ทีมงานได้ยกเครื่องเชื่อมระบบหลังบ้านระหว่างแอปฯ LINE MAN และแอปฯเป๋าตังอย่างไร้รอยต่อ ผู้ใช้จะสั่งอาหารได้ง่ายและจ่ายง่ายกว่าเดิม สามารถกดจ่ายผ่านแอปฯเป๋าตังได้ทันที และบริษัทยังได้เตรียมแคมเปญกระตุ้นตลาดครั้งใหญ่  “คุ้มคนละชั้น สั่งคนละครึ่ง”  ทั้งส่วนลดค่าอาหารเพิ่มเติม โค้ดฟรีค่าส่ง และอีกมากมาย เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้บริโภคและกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวม 

ขณะที่ผู้อำนวยการฝ่ายรัฐกิจสัมพันธ์ แกร็บ ประเทศไทย ดร. เก่งการ เหล่าวิโรจนกุล บอกว่า ได้จัดแคมเปญล่าสุด “แกร็บฟู้ด สั่งเถิดชาวไทย” มอบส่วนลดสูงสุด 60% จากร้านค้าทั่วไทยที่เข้าร่วมแคมเปญรวมทั้งสิ้นกว่า 20,000 ดีล ตั้งแต่วันนี้จนถึง 24 ตุลาคมนี้ เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้ผู้บริโภค พร้อมมีมาตรการสนับสนุนร้านค้า ด้วยการปรับค่าคอมมิชชันในอัตราพิเศษสูงสุดไม่เกิน 20% ให้กับร้านค้าที่ร่วมโครงการคนละครึ่งจนถึง 31 ธันวาคมนี้