GULF จ่อลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนทั้งใน-ต่างประเทศ

GULF จ่อลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนทั้งใน-ต่างประเทศ

“กัลฟ์”เผย อยู่ระหว่างเจรจาซื้อโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนทั้งใน-ต่างประเทศ เตรียม COD โรงไฟฟ้าGSRC หน่วยที่2 อีก162 เมกะวัตต์วันที่ 1 ต.ค. หนุนรายได้ปีนี้โตตามเป้าโต50% จากปีก่อน ด้าน นักลงทุนสถาบัน-รายใหญ่ สนใจซื้อหุ้นกู้ ล้น2 เท่า ต้องขายเพิ่มเป็น3 หมื่นล้าน  

นางสาวยุพาพิน วังวิวัฒน์ กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF เปิดเผยว่า การลงทุนโรงไฟฟ้าใหม่ๆของบริษัทขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนเพิ่มทั้งในประเทศและต่างประเทศ แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ โดยในวันศุกร์นี้ บริษัทจะมีการจ่ายไฟเชิงพาณิชย์ ( COD )โรงไฟฟ้ากัลฟ์ เอสอาร์ซี (GSRC) หน่วยที่2 อีกจำนวน 162 เมกะวัตต์ ซึ่งจะหนุนผลการดำเนินงานของบริษัทให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งเป้ารายได้ปีนี้เติบโต50% จากปี2563 ที่มีรายได้3.33 หมื่นล้านบาท

 สำหรับนโยบาย หรือแผนการดำเนินธุรกิจกับทางINTUCH นั้น ยังไม่สามารถตอบได้ เพราะต้องรอให้ตัวแทนของบริษัทเข้าไปนั่งเป็นกรรมการของ INTUCH อย่างเป็นทางการก่อน ซึ่งในวันศุกร์นี้ ทาง INTUCH จะมีการจัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ซึ่งมีวาระเรื่องการแต่งตั้งกรรมการ

นางสาวยุพาพิน  กล่าวว่า บริษัทได้ออกหุ้นกู้ชนิดไม่ด้อยสิทธิและไม่มีประกัน มูลค่ารวมทั้งสิ้น 30,000 ล้านบาท โดยเสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่ (High NetWorth)

ทั้งนี้ในเบื้องต้นบริษัทจะเสนอขายหุ้นกู้ 25,000 ล้านบาท แต่ผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่แสดงความจำนงในการจองหุ้นกู้ของบริษัท เกินกว่าจำนวนที่เสนอขายประมาณ 2.06 เท่า บริษัทจึงได้ใช้สิทธิการเสนอขายหุ้นกู้เพิ่มเติม (Greenshoe) เป็นจำนวน 5,000 ล้านบาท รวมเป็น 30,000 ล้านบาท

สำหรับหุ้นกู้ดังกล่าวแบ่งออกเป็น 4ชุด ตามรายละเอียด ดังนี้  คือ หุ้นกู้ชุดที่ 1 อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 1.74% จำนวน 12,000 ล้านบาท

หุ้นกู้ชุดที่ 2 อายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ย 2.48% จำนวน 6,000 ล้านบาท,หุ้นกู้ชุดที่ 3 อายุ 7 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.01% จำนวน 3,000 ล้านบาท

หุ้นกู้ชุดที่ 4 อายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.40% จำนวน 9,000 ล้านบาท

 

 บริษัทแต่งตั้งให้ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB และธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) จำกัด (มหาชน) ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ในครั้งนี้ ซึ่งบริษัทได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือในระดับ “A” และหุ้นกู้ได้รับการจัดอันดับในระดับ “A-” จากบริษัททริสเรทติ้ง จำกัด

สำหรับเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นกู้ดังกล่าว บริษัทมีแผนที่จะนำไปชำระคืนเงินกู้ระยะสั้นจากสถาบันการเงินที่ใช้ในการซื้อหุ้นสามัญของ บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH และใช้เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการขยายธุรกิจของบริษัท