TEAMG ผนึก SCC ลุยซินเนอร์ยี่ แผนธุรกิจสร้างนวัตกรรมโซลูชั่นก่อสร้าง

TEAMG ผนึก SCC  ลุยซินเนอร์ยี่ แผนธุรกิจสร้างนวัตกรรมโซลูชั่นก่อสร้าง

"ทีม คอนซัลติ้ง” ผนึก “ปูนใหญ่” ลุยซิเนอร์ยี่แผนธุรกิจระยะสั้น-กลาง-ยาว สานนวัตกรรมโซลูชั่น หนุนอุตสาหกรรมการก่อสร้างไทย พร้อมเดินหน้าเพิ่มสัดส่วน ROE จากปัจจุบันที่ระดับ 10% หาโอกาสขยายงานด้านการลงทุน ด้านปีนี้คงเป้ารายได้ 1.8 พันล้าน หลังตุนแบ็คล็อก 3.5 พันล้าน

นายอภิชาติ สระมูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ TEAMG เปิดเผยว่า การเข้ามาถือหุ้นเพิ่มของ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC นั้น ถือเป็นการผนึกกำลัง (ซินเนอร์ยี่) ทั้งแผนระยะสั้น กลาง ยาว เพื่อต่อยอดองค์ความรู้ของทั้งสองฝ่าย และร่วมมือที่จะให้เกิดนวัตกรรมโซลูชั่น รวมไปถึงการใช้เทคโนโลยีการก่อสร้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะทำให้เกิดประโยชน์กับทั้ง SCC และ TERMG และอุตสาหกรรมการก่อสร้างของประเทศไทยอีกด้วย  

“การที่ SCC เข้ามาถือหุ้นเพิ่มขึ้น ทำให้ความร่วมมือหนักแน่นมากขึ้น โดย SCC เป็นลีฟวิ่งโซลูชั่นและคอนสตรัคชั่นโซลูชั่น ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับเราที่เป็นโซลูชั่นโพวายเดอร์ ทั้งสองส่วนนี้จะนำมาซินเนอร์ยี่กันเป็นประโยชน์ร่วมกัน”  

พร้อมกันนี้ ในแผนระยะยาว บริษัทยังตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วน ROE จากปัจจุบันอยู่ในระดับ 10% ซึ่งจะไปถึงระดับ 20% หรือไม่นั้น  โดยขึ้นกับสัดส่วนงานที่เข้าไปลงทุนว่ามีโอกาสเข้าไปลงทุนได้มากน้อยแค่ไหน โดยตั้งเป้าหมายงานลงทุนมีสัดส่วนเท่ากับงานที่ปรึกษา ขณะที่ปัจจุบันสัดส่วนหลักยังคงเป็นงานที่ปรึกษา 

TEAMG ผนึก SCC  ลุยซินเนอร์ยี่ แผนธุรกิจสร้างนวัตกรรมโซลูชั่นก่อสร้าง

 

สำหรับในปีนี้บริษัทคงเป้ารายได้ปีนี้ที่ 1,800 ล้านบาท แม้ในช่วงครึ่งปีแรก 2564 มีรายได้ 767 ล้านบาท ลดลง 12% และกำไรสุทธิ 40 ล้านบาท ลดลง 42% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอกสาม และมาตรการล็อกดาวน์ ทำให้งานภาครัฐและเอกชนต้องชะลอตัว และไม่สามารถรับงานโครงการในต่างประเทศได้

แต่ในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าสถานการณ์โควิด-19 มีทิศทางที่ดีขึ้น และบริษัทยังมีงานในมือ (Backlog) ณ สิ้นสุดไตรมาส 2 ปี 2564 ที่ 3,592 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้ต่อเนื่องได้ หากงานเกี่ยวกับการก่อสร้างจะทยอยรับรู้ราว 4-5 ปี ส่วนงานที่ปรึกษาโครงการจะทยอยรับรู้ใน 1-2 ปี โดยเแบ็คล็อกดังกล่าว แบ่งเป็นสัดส่วนงานภาครัฐ 73% งานภาคเอกชน 22% งานโครงการต่างประเทศ 3% และงานอื่น ๆ 2%

สำหรับงานการลงทุน(Non-Consulting services) อย่างโครงการ Solar Rooftop ที่ติดตั้งให้บริษัท Siam Quality Steel ขนาด 0.6 เมกะวัตต์ และ บริษัท Linh Gas Cylinder ขนาด 1.0 เมกะวัตต์ คาดจะเริ่ม COD ได้อย่างน้อย 1 โครงการภายในปีนี้ 

 รวมถึงงานที่เพิ่งที่เพิ่งมารับรู้ได้ อย่างโครงการติดตั้งและดำเนินการระบบผลิตน้ำประปา เพื่อใช้ในโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ (แห่งใหม่) อ.เมือง จ.นครสวรรค์ มูลค่า 245 ล้านบาท คาดจะใช้ระยะเวลาออกแบบราว 8 เดือน และก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 65

 ณ ปัจจุบัน บริษัทมีงานที่กำลังดำเนินการอยู่ทั้งสิ้น 356 โครงการ แบ่งเป็นโครงการภาครัฐ 101 งานภาคเอกชน 184 งาน โครงการต่างประเทศ 46 งาน และโครงการอื่น ๆ อีก 25 งาน ซึ่งบริษัทยังคงติดตามโครงการอื่น ๆ ที่จะเกิดขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังอีกกว่า 70 โครงการ เช่น โครงการ Flood Drainage System for BMA ระบบป้องกันน้ำท่วมในกรุงเทพฯ, โครงการ Track Doubling Projects for SRT รถไฟรางคู่ และ โครงการ Eastern Economic Corridor for EEC เป็นต้น