ก.ล.ต. ปรับเกณฑ์การออกและเสนอขายตราสารหนี้ เพิ่มความยืดหยุ่นให้ภาคเอกชน

ก.ล.ต. ปรับเกณฑ์การออกและเสนอขายตราสารหนี้  เพิ่มความยืดหยุ่นให้ภาคเอกชน

ก.ล.ต. ปรับเกณฑ์การออกและเสนอขายตราสารหนี้ เพิ่มความยืดหยุ่นให้ภาคเอกชน ส่งเสริมและพัฒนาผลิตภัณฑ์ตราสารหนี้ ในกลุ่มความยั่งยืนในตลาดทุนไทย มีผลตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน 2564

ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) มีแนวคิดปรับปรุงหลักเกณฑ์การออกและเสนอขายตราสารหนี้ส่งเสริมความยั่งยืน (sustainability-linked bond)

โดยได้เปิดรับฟังความคิดเห็นเฉพาะกลุ่ม (focus group) จากผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง เป็นจำนวนมากกว่า 100 ราย เมื่อสิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งส่วนใหญ่เห็นด้วยกับหลักการที่เสนอ ก.ล.ต. จึงออกประกาศปรับปรุงหลักเกณฑ์ sustainability-linked bond

โดยจะมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน 2564 สรุปสาระสำคัญ ดังนี้

1)   ปรับนิยามตราสารให้รองรับการกำหนดข้อตกลงและเงื่อนไขให้ผู้ออกตราสารมีภาระผูกพันในการดำเนินการที่สอดรับกับเป้าหมายหรือกลยุทธ์ด้านความยั่งยืนของผู้ออกตราสารหรือบริษัทในเครือ* เพิ่มจากเดิมที่รองรับเฉพาะการปรับอัตราดอกเบี้ย

2)   ผู้ออกตราสารสามารถใช้ตัวชี้วัดและเป้าหมายด้านความยั่งยืนของผู้ออกหรือบริษัทในเครือ เพื่อรองรับกรณีกลุ่มบริษัทออกตราสารหนี้ผ่านบริษัทที่ประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้น (holding company) หรือศูนย์บริหารเงิน (treasury center)

3)   ขยายขอบเขตคุณสมบัติขั้นต่ำของผู้ประเมินภายนอกที่เป็นอิสระ (external review provider) ให้รวมถึงผู้ที่มีประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญ หรือกลไกในการประเมินหรือให้การรับรองในด้านความยั่งยืน หรือการวัดผลความสำเร็จของตัวชี้วัดและเป้าหมายด้านความยั่งยืนซึ่งเป็นที่ยอมรับในระดับประเทศหรือระดับสากล

4)   ปรับปรุงหน้าที่ของ external review provider ก่อนการเสนอขายตราสาร** ให้ทำหน้าที่ให้ความเห็นหรือรับรองกรอบและลักษณะการเสนอขายตราสาร (framework) ว่าเป็นไปตามมาตรฐานสำหรับ sustainability-linked bond ซึ่งเป็นที่ยอมรับในระดับสากล จากเดิมที่พิจารณาเฉพาะตัวชี้วัดและเป้าหมายด้านความยั่งยืน

ทั้งนี้ สามารถดาวน์โหลดคู่มือสำหรับการออกและเสนอขาย sustainability-linked bond บนเว็บไซต์ ก.ล.ต.