Media Sector ยอดโฆษณาเดือนสิงหาคม 2564 หดตัวทั้ง MoM และ YoY

Media Sector ยอดโฆษณาเดือนสิงหาคม 2564 หดตัวทั้ง MoM และ YoY

เม็ดเงินโฆษณาโดยรวมในเดือนสิงหาคม 2564 อยู่ที่ 8.1 พันล้านบาท (-5% MoM, -13% YoY) มีเพียงสื่ออินเตอร์เน็ตเท่านั้นที่เพิ่มขึ้นทั้ง MoM และ YoY

เม็ดเงินโฆษณาที่ลดลงในเดือนสิงหาคม 2564 เป็นเพราะโฆษณาในสื่อเกือบทุกประเภทลดลง โดยมีเพียงสื่ออินเตอร์เน็ตเท่านั้น ที่มียอดโฆษณาเพิ่มขึ้นทั้ง MoM (+1.6%) และ YoY (+0.2%) ทั้งนี้ยอดโฆษณาของสื่อโรงภาพยนตร์ลดลงมากสุดทั้ง MoM และ YoY เนื่องจากมีการปิดบริการโรงภาพยนตร์ทั้งหมดชั่วคราวตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2564 รองลงมาคือสื่อนอกบ้าน (OOH) (-12.4% MoM และ -14.8%
YoY) ส่วนสื่อทีวียังคงเป็นสื่อโฆษณาหลักในประเทศไทย ซึ่งคิดเป็น 60.5% ของยอดโฆษณารวมในเดือนสิงหาคม 2564 รองลงมาคือสื่ออินเตอร์เน็ต และ OOH ซึ่งคิดเป็น 23.8% และ 9.3% ของยอดการใช้สื่อโฆษณาโดยรวมตามลำดับ

 

โฆษณาโดยรวมในช่วง 8M64 ยังโต 4% YoY

ยอดโฆษณารวมใน 8M64 อยู่ที่ 7.07 หมื่นล้านบาท (+4% YoY) โดยมีเพียงสื่ออินเตอร์เน็ต และสื่อทีวี ที่เติบโตขึ้น YoY โดยเพิ่มขึ้น 16.8% YoY และ 5.5% YoY ตามลำดับ ในขณะที่สื่ออื่นๆ ชะลอตัวลง โดยสื่อโรงภาพยนตร์ชะลอตัวลงมากที่สุด (-18.8% YoY) รองลงมาคือสื่อสิ่งพิมพ์ (-15.3% YoY) และสื่อวิทยุ (-10.1% YoY) ทั้งนี้เนื่องจากยอดโฆษณารวมในงวด 8M64 คิดเป็นสัดส่วนราว 63.4% ของประมาณการยอดโฆษณาทั้งปีนี้ของเรา เราจึงมองว่าประมาณการยอดโฆษณาปีนี้ของเรามี downside ราว 2%-3% เท่านั้น ดังนั้นเราจึงยังคงประมาณการยอดโฆษณาปีนี้เอาไว้ที่ 1.115 แสนล้านบาท (+5%YoY) และปี 2565 ที่ 1.211 แสนล้านบาท (+9% YoY)

คาดว่ายอดโฆษณาใน 3Q64 จะลดลงทั้ง QoQ และ YoY

เราคาดว่ายอดโฆษณาใน 3Q64 จะลดลงทั้ง QoQ และ YoY โดยยอดโฆษณาที่ลดลง QoQ จะเป็นเพราะ i) ยอดโฆษณาในช่วงสองเดือนแรกของ 3Q64 (กรกฎาคม-สิงหาคม 2564) ลดลง 8% เมื่อเทียบกับสองเดือนแรกของ 2Q64 (เมษายน-พฤษภาคม2564) เนื่องจากสถานการณ์ COVID-19 รุนแรงมากขึ้นตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายน 2564 เป็นต้นมา นอกจากนี้เราคาดว่ายอดโฆษณาในเดือนกันยายน 2564 จะยังลดลง MoM เนื่องจากเอเยนซี่สื่อน่าจะรอดูสถานการณ์ COVID-19 ก่อน ในขณะเดียวกันยอดโฆษณาของสื่อส่วนใหญ่น่าจะลดลง YoY เพราะในช่วง 3Q63 การระบาดระบอกแรกของ COVID-19 เริ่มคลี่คลายลงไป และทำให้ยอดโฆษณากลับมาดีขึ้นอีกครั้ง

เราเชื่อว่ากำไรหลักใน 3Q64 ของ บมจ.เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป (MAJOR.BK/MAJOR TB)*, บมจ.วีจีไอ (VGI.BK/VGI TB)* และบมจ.แพลน บี มีเดีย (PLANB.BK/PLANB TB)* จะลดลงทั้ง QoQ และ YoY ในขณะที่คาดว่ากำไรของ บมจ.บีอีซี เวิลด์ (BEC.BK/BEC TB)* ใน 3Q64 จะลดลง QoQ แต่จะยังโตได้
YoY หลังจากที่บริษัทปรับโครงสร้างธุรกิจไปใน 4Q63 อย่างไรก็ตามเราคาดว่ากำไรสุทธิของ MAJOR ใน 3Q64 จะได้แรงหนุนจากการบันทึกกำไรพิเศษ 2.8 พันล้านบาท จากการขายหุ้น บมจ.สยามฟิวเจอร์ดีเวลอปเมนท์ (SF.BK/SF TB) ในขณะเดียวกันเราคาดว่ากำไรหลักของ MAJOR จะโตอย่างโดดเด่นใน 4Q64 เนื่องจากคาดว่าจะสามารถกลับมาเปิดบริการโรงภาพยนตร์ทุกแห่งได้อีกครั้งใน 4Q64 และมี
โปรแกรมหนังฟอร์มยักษ์จากฮอลลีวู้ดที่ตั้งเป้าจะลงโรงฉายตั้งแต่เดือนตุลาคม 2564 เป็นต้นไป ซึ่งจะช่วยหนุนให้กำไรฟื้นตัวได้อย่างแข็งแกร่ง

 

Stocks for action

เรายังคงให้น้ำหนักหุ้นกลุ่มสื่อที่ “มากกว่าตลาด” เนื่องจากคาดว่ากำไรจะเติบโตอย่างน่าประทับใจในปี 2564-65 โดยเราเลือก MAJOR เป็นหุ้นเด่น

 

Risks

ยอดโฆษณาโตต่ำว่าที่เราคาดไว้