เอสซีบี อบาคัส จ่อปล่อยสินเชื่อบุคคลบนแอพฯ เงินทันเด้อ

เอสซีบี อบาคัส จ่อปล่อยสินเชื่อบุคคลบนแอพฯ เงินทันเด้อ

“เอสซีบี อบาคัส” เตรียมปล่อยกู้สินเชื่อส่วนบุคคล หนุนธุรกิจโต ล่าสุดรับเงินระดมทุนซีรี่ส์เอ จากนักลงทุนต่างชาติ 400 ล้าน เดินหน้าแฟลตฟอร์ม “เงินทันเด้อ” ดันสินเชื่อออนไลน์-รายได้ปี 65 โตถึง 5 เท่า จ่อระดมทุนซีรี่ย์ บี ปลายปีหน้า

นางสาวสุทธาภา อมรวิวัฒน์ ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีบี อบาคัส จำกัด หรือผู้ให้บริการแอพพลิเคชั่นสินเชื่อออนไลน์  “เงินทันเด้อ” เปิดเผยว่า วานนี้ ( 16 ก.ย.) บริษัทได้รับเงินระดมทุน  Series A ครั้งนี้จำนวน 400 ล้านบาท  จาก ผู้ร่วมลงทุนต่างประเทศ 3 ราย ได้แก่  Vertex Ventures , Southeast Asia และ CAI Partners 

บริษัทวางเป้าหมายจะนำเงินลงทุนนี้ ไปใช้ในการยกระดับเทคโนโลยี และขยายตลาด อีกทั้งสรรหาบุคลากรที่มีความสามารถ เพื่อเตรียมพร้อมสู่การเติบโตแบบก้าวกระโดดในตลาดสินเชื่อออนไลน์ อีกทั้งเชื่อมั่นว่า บริษัทจะเป็นผู้นำของกลุ่มธุรกิจสินเชื่อทางเลือกที่มีเป้าหมายในการแก้ปัญหาสินเชื่อนอกระบบ

ล่าสุด บริษัทเตรียมขยายสู่การปล่อยสินเชื่อส่วนบุคคล ดอกเบี้ย 25% ต่อปี  ยังมุ่งเน้นลูกค้าเป้าหมายที่เคยถูกปฏิเสธจากธนาคาร ให้สามารถเข้าถึงสินเชื่อได้อย่างเท่าเทียม จากเริ่มธุรกิจใน2562 เป็นการปล่อยสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ ดอกเบี้ย 33% ต่อปี  

พร้อมกับการขยายความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจนอกธุรกิจการเงินในหลากหลายมติ เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้มากขึ้น ทั้งในแง่การให้สิทธิพิเศษที่เหมาะสมกับลูกค้าเป้าหมายแต่ละกลุ่มและเพิ่มแฟลตฟอร์มทั้งออนไลน์และออฟไลน์เป็นทางเลือกใหม่ๆ ในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย 

 นางสาวสุทธาภา กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้าภายในปี 2565 จะมียอดสินเชื่อและรายได้ เติบโตสูงขึ้นกว่า 5 เท่า เมื่อเทียบกับปีนี้และบริษัทยังคาดว่าการระดมเงินทุนครั้งต่อไปในระดับ  Series B น่าจะเกิดขึ้นได้ภายในปลายปีหน้าเช่นกัน เพื่อสนับสนุนเป้าหมายเป็นยูนิคอร์นและนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯต่อไป 

ปัจจุบัน แอพพลิเคชั่น “เงินทันเด้อ” มียอดดาวน์โหลดราว 5 ล้านครั้ง และมียอดสินเชื่อและรายได้ในปีนี้เติบโตสูงกว่า 10 เท่า เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ปัจจุบันมียอดสินเชื่อเฉลี่ยต่อเดือนราว 3,000 ล้านบาท  ยอดสินเชื่อเฉลี่ย 15,000-30,000 บาทต่อราย มียอดอนุมัติสินเชื่อเป็นเลขสองหลัก โดยในสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ยังสามารถให้สินเชื่อได้ต่อเนื่องและสามารถคุมหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ ( NPL) ได้ตามเป้าหมายเป็นเลขหลักเดียวระดับต่ำ  

“เราใช้ข้อมูลทางเลือกที่หลากหลายของลูกค้าประกอบกับเทคนิคการพัฒนาโมเดลแบบแมชชีนเลิร์นนิ่งหรือเอไอ ทำให้ปล่อยสินเชื่อได้ตรงความสามารถชำระหนี้ของลูกค้าแต่ละกลุ่มเป้าหมาย ”