เที่ยวนี้ต้องชำระ! "เคทีซี" ชี้คนไทยจ่อ "เที่ยวล้างแค้น" ดันยอดรูดปรื๊ด

เที่ยวนี้ต้องชำระ! "เคทีซี" ชี้คนไทยจ่อ "เที่ยวล้างแค้น" ดันยอดรูดปรื๊ด

“เคทีซี” เผยคนไทยสุดอั้น พร้อมจัดหนักออกเที่ยวล้างแค้นหลังคลายล็อก ดันยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตหมวดท่องเที่ยวฟื้นช่วง 4 เดือนโค้งท้ายปี 2564 พร้อมจัดโครงการ “เที่ยว...อยู่ได้” ช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 คาดมีผู้เข้าร่วมกว่า 200 รายทั่วประเทศ

นางสาวเจนจิต ลัดพลี ผู้อำนวยการ การตลาดเพื่อการท่องเที่ยวและสันทนาการ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ “เคทีซี” กล่าวว่า จากการปรับมาตรการของภาครัฐที่เริ่มผ่อนคลาย โดยเฉพาะด้านการเดินทางในประเทศ ทำให้คนไทยเริ่มมีความต้องการท่องเที่ยวมากขึ้น พร้อม “ท่องเที่ยวแบบล้างแค้นเอาคืน” (Revenge Tourism) หลังต้องเจอแรงกดดันจากการระบาดของโรคโควิด-19 มาตั้งแต่ระลอกเดือน เม.ย.2564

โดย เคทีซี มองว่าเทรนด์การท่องเที่ยวหลังคลายล็อกดาวน์จะมี 3 รูปแบบด้วยกัน ได้แก่ 1.กลุ่ม Domestic Travelers หรือนักท่องเที่ยวในประเทศ เป็นกลุ่มที่มีทิศทางว่าจะกลับมาได้เร็วที่สุด 2.กลุ่ม Premium Travelers หรือนักท่องเที่ยวระดับพรีเมียม เป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบน้อย และไม่สามารถเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศได้จากข้อจำกัดด้านการเดินทาง จึงพร้อมขานรับการผ่อนคลายมาตรการของรัฐ ทำให้นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้สามารถเดินทางได้ทันที เพราะมีการวางแผนไว้ล่วงหน้าอยู่แล้ว และ 3.กลุ่ม Essential Travelers เป็น Segment ที่ต้องเดินทางเพราะมีความจำเป็น เช่น ไปทำงาน หรือไปเรียนหนังสือ

สำหรับจุดหมายปลายทางในประเทศที่ได้รับความนิยมหลังคลายล็อกดาวน์ในช่วงนี้ พบว่าคนไทยนิยมเดินทางไปเที่ยว จ.กาญจนบุรี และเขาใหญ่ จ.นครราชสีมา ซึ่งมีอากาศดี ได้สัมผัสธรรมชาติของป่าเขาในฤดูฝน และสนใจไปแหล่งท่องเที่ยวที่มีจำนวนคนไม่มาก สามารถเว้นระยะห่างได้ เช่น การท่องเที่ยวเพื่อทำกิจกรรมกลางแจ้ง (Outdoor) กางเต้นท์ ท่องเที่ยวในสไตล์ธรรมชาติ รวมถึงไปแหล่งท่องเที่ยวอันซีน ส่วนทะเลภาคใต้ ยังไม่ค่อยเดินทางไปเที่ยวกันมากนัก เพราะเป็นหน้ามรสุม

“เคทีซีคาดหวังว่าในช่วง 4 เดือนสุดท้ายของปีนี้ กระแสการท่องเที่ยวในประเทศของคนไทยหลังคลายล็อกดาวน์จะช่วยดันยอดการใช้จ่ายหมวดท่องเที่ยวผ่านบัตรเครดิตให้กลับมาฟื้นตัว”

ประกอบกับมี โครงการ เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3 ที่ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ระบุว่าต้องการขอเริ่มดำเนินโครงการภายในเดือน ต.ค.นี้ ก็จะเป็นอีกปัจจัยกระตุ้นการท่องเที่ยว

หลังวิกฤติโควิด-19 ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อการเดินทางและใช้จ่ายด้านท่องเที่ยว ทำให้ในช่วง 6 เดือนแรกตั้งแต่ ม.ค.-มิ.ย.ของปีนี้ ยอดการใช้จ่ายในหมวดท่องเที่ยวผ่านบัตรเครดิตเคทีซีลดลงมากถึง 70-80% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ฉุดอันดับของหมวดท่องเที่ยวร่วงไปอยู่ที่ต่ำกว่าอันดับ 10 ต่างจากภาวะปกติที่หมวดท่องเที่ยวครองอันดับ 2 ด้วยสัดส่วนประมาณ 10% ของยอดใช้จ่ายทุกหมวดผ่านบัตรเคทีซี โดยเมื่อปี 2562 ก่อนเจอวิกฤติโควิด-19 มียอดการใช้จ่ายในหมวดท่องเที่ยวผ่านบัตรเครดิตเคทีซีกว่า 18,000 ล้านบาท ส่วนปี 2563 ยอดฯลดลงปิดที่ 9,300 ล้านบาท

นางสาวเจนจิต กล่าวเพิ่มเติมว่า และเพื่อขานรับการท่องเที่ยวที่เริ่มมีสัญญาณฟื้นตัวในช่วงไตรมาส 4 นี้ เคทีซีได้จัดโครงการ “เที่ยว…อยู่ได้”  ด้วยวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว อาทิ สถานที่ท่องเที่ยว หมวดรถเช่า และบริษัทนำเที่ยว ที่ได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่องจากวิกฤติโควิด-19 โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับการออกแบบ จัดทำ และผลิตสื่อแบนเนอร์เพื่อทำการประชาสัมพันธ์ผ่าน 7 ช่องทางของเคทีซีครอบคลุมทั้งออฟไลน์และออนไลน์ เพื่อประชาสัมพันธ์ธุรกิจและบริการไปยังฐานสมาชิกกว่า 2.6 ล้านคน

นอกจากนี้ยังเป็นการเพิ่มทางเลือกให้ผู้ประกอบการได้มีช่องทางขายหรือตัวแทนจำหน่ายเพิ่มมากขึ้น โดยไม่ต้องลงทุนด้วยตัวเอง ผ่านทาง KTC World Travel Service พร้อมกันนี้ เคทีซียังได้สนับสนุนโปรโมชันพิเศษ มอบเครดิตเงินคืน 10% ให้กับสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซีที่ใช้จ่าย ณ ร้านค้า หรือสถานประกอบการที่ร่วมรายการ เพียงใช้คะแนน KTC FOREVER เท่ายอดใช้จ่าย และลงทะเบียนแลกรับผ่านเว็บไซต์ของเคทีซี ระยะเวลาโครงการระหว่างวันที่ 1 ก.ย.-31 ธ.ค.2564 โดยเคทีซีคาดว่าจะมีผู้ประกอบการเข้าร่วมโครงการฯ กว่า 200 ราย ในกว่า 40 จังหวัดท่องเที่ยว ครอบคลุมทั้งเมืองหลักและเมืองรอง