ธปท.จับมือธนาคารกลางมาเลเซีย ส่งเสริมการค้า-การลงทุนระหว่างประเทศ

ธปท.จับมือธนาคารกลางมาเลเซีย ส่งเสริมการค้า-การลงทุนระหว่างประเทศ

ธปท.ผนึกธนาคารกลางมาเลเซีย เปิดรับสมัครธนาคารพาณิชย์เข้าร่วมโครงการ Qualified ASEAN Bank (QAB) เพื่อสนับสนุนการค้า-การลงทุนระหว่างประเทศ

เมื่อวันที่ 14 ก.ย.2564 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และธนาคารกลางมาเลเซีย (Bank Negara Malaysia: BNM) ได้เปิดรับสมัคร Qualified ASEAN Bank (QAB) สำหรับธนาคารพาณิชย์สัญชาติมาเลเซียและสัญชาติไทยที่สนใจ ซึ่งเป็นไปตามความตกลง QAB ร่วมกันของทั้งสองประเทศ ภายใต้กรอบการรวมตัวภาคการธนาคารอาเซียน (ASEAN Banking Integration Framework: ABIF) และเป็นส่วนหนึ่งของกรอบความตกลงว่าด้วยการค้าบริการของอาเซียน (ASEAN Financial Agreement on Services: AFAS)

การจัดตั้ง QAB มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนการค้าการลงทุนระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนด้วยกัน ซึ่งเป็นไปตามแผนงานประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน 2068 ในการสร้างเศรษฐกิจอาเซียนให้มีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน โดยกำหนดคุณสมบัติของ QAB เพื่อเสถียรภาพของระบบการเงินของประเทศที่ QAB ไปจัดตั้ง ว่าจะต้องมีฐานะมั่นคงแข็งแกร่ง ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานกำกับดูแลของประเทศตน และปฏิบัติได้ตามหลักเกณฑ์การกำกับดูแลความมั่นคงของประเทศที่ QAB ไปจัดตั้ง ซึ่ง QAB ที่ผ่านการคัดเลือกและได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจแล้ว จะได้รับสิทธิประโยชน์ตามข้อผูกพันของประเทศคู่เจรจา

ความตกลงทวิภาคีนี้นับเป็นอีกก้าวสำคัญที่จะนำไปสู่การรวมตัวภาคการเงินอาเซียนตามกรอบ ABIF ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ ธปท. และ BNM ได้เปิดตัวนวัตกรรมด้านการชำระเงินผ่าน QR Code ระหว่างสองประเทศเป็นครั้งแรก

ในโอกาสนี้ นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการ ธปท. กล่าวว่า “ความตกลงทวิภาคีในการจัดตั้ง QAB นี้นับเป็นอีกก้าวสำคัญของความสัมพันธ์อันยาวนานระหว่างประเทศไทยและประเทศมาเลเซีย และสอดคล้องตามเจตนารมณ์ของอาเซียนในการรวมตัวภาคการเงินของภูมิภาคให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น การจัดตั้ง QAB ดังกล่าวจะนำมาซึ่งการนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่มีคุณภาพสูงและหลากหลาย ซึ่งจะช่วยตอบโจทย์ความต้องการของภาคธุรกิจและประชาชนของทั้งสองประเทศให้ดียิ่งขึ้น ธปท. มุ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเห็นบทบาทของ QAB ในการช่วยต่อยอดความร่วมมือด้านการเงินระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนในด้านอื่น ๆ เพื่อสนับสนุนนวัตกรรมทางการเงินรูปแบบใหม่ในภูมิภาค”

Ms. Nor Shamsiah Yunus ผู้ว่าการ BNM กล่าวว่า “ความตกลงระหว่างประเทศไทยและประเทศมาเลเซียนี้แสดงถึงความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศที่แน่นแฟ้น และเป็นไปเพื่อประโยชน์ของประชาชนของทั้งสองประเทศในการเพิ่มความสะดวกสบายในการทำธุรกรรมทางการเงินและการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่หลากหลาย BNM กำลังเดินหน้าที่สำคัญในการเข้าสู่การสร้างเศรษฐกิจอาเซียนที่มีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และเชื่อมั่นว่าความตกลง QAB นี้จะนำมาซึ่งการสร้างโอกาสทางธุรกิจและกิจกรรมทางเศรษฐกิจระหว่างทั้งสองประเทศอันจะช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19”