ขาย ’หอยโข่ง’ ผ่านโซเชียล ทำเงินหลักหมื่น/เดือน

ทัศไนย ส่งศรี หรือบังไนย พร้อมด้วยภรรยา ได้ใช้ที่ดินรอบบ้าน เนื้อที่ประมาณ 2 ไร่เศษเพาะเลี้ยงหอยโข่ง เพราะปัจจุบันหาได้ยาก ต่างจากเมื่อก่อนจะพบมากในแหล่งน้ำธรรมชาติ ทั้งห้วย หนอง คลอง บึง และตามทุ่งนา
หลังได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด 19 ทำให้ธุรกิจทัวร์ที่อ่าวนาง จ.กระบี่ ต้องปิดกิจการทั้งที่เปิดมากว่า 17 ปี ทัศไนย ส่งศรี หรือบังไนย พร้อมด้วยภรรยา จึงเดินทางกลับบ้านเกิดที่ จ.ตรัง และได้ใช้ที่ดินรอบบ้าน เนื้อที่ประมาณ 2 ไร่เศษเพาะเลี้ยงหอยโข่ง เพราะปัจจุบันหาได้ยาก ต่างจากเมื่อก่อนจะพบมากในแหล่งน้ำธรรมชาติ ทั้งห้วย หนอง คลอง บึง และตามทุ่งนา
ทัศไนย บอกว่า สาเหตุที่เลือกเพาะเลี้ยงหอยโข่ง เพราะมองว่าเป็นของกิน แม้จะขายไม่ได้แต่เอามากินได้ จึงเริ่มหาข้อมูล จากอินเตอร์เน็ต ประกอบกับตนเรียนจบด้านเทคโนโลยีการเกษตร ส่วนภรรยาเรียนจบวิทยาศาสตร์ทางทะเล จึงนำองค์ความรู้เก่าที่ร่ำเรียนมาประยุกต์ใช้
หอยโข่งจะมีเนื้อแน่น เนื้อหวาน นิยมนำไปทำแกงกะทิ วิธีการเลี้ยงไม่ยุ่งยาก เริ่มจากการนำตัวหอยโข่งจากธรรมชาติที่รับซื้อจากชาวบ้าน มาใส่ในบ่อดิน บ่อพลาสติก และบ่อผ้าใบ ใส่น้ำ ใส่จอกแหน และผักตบชวา ซึ่งเป็นวัชพืชที่หาได้ง่าย เพื่อเป็นอาหารของหอย รวมทั้งให้อาหารเลี้ยงควบคู่กัน ก่อนจะส่งขายเป็นพ่อแม่พันธุ์จากธรรมชาติ
หลังจากทำมาประมาณ 3 เดือน พบว่าแนวโน้มดีอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ โดยเปิดขายผ่านโซเชียล รวมทั้งเพจบ้านสวนบังไนยตามใจอันนา_เพาะเลี้ยงหอยโข่งใต้เมืองตรัง ปัจจุบันมีลูกค้าทั้งจากพื้นที่ใกล้เคียงและต่างจังหวัด เช่น จ.อุตรดิตถ์ จ. น่าน โดยทำรายได้หลักหมื่นต่อเดือน สามารถเลี้ยงครอบครัวได้ และฝากให้ทุกคนที่ได้รับผลกระทบจากโควิดสู้กันต่อไป เพราะชีวิตต้องเดินต่ออย่ายอมแพ้







