‘หุ้นถ่านหิน’เริงร่า ราคาตลาดโลกพุ่งนิวไฮ

‘หุ้นถ่านหิน’เริงร่า  ราคาตลาดโลกพุ่งนิวไฮ

ตลาดหุ้นไทยช่วงนี้ยังมีแนวโน้มที่สดใส หลังกลับมายืนทะลุแนวต้านสำคัญ 1,600 จุด โดยได้รับปัจจัยบวกจากสถานการณ์โควิด-19 ที่เริ่มคลี่คลาย จำนวนผู้ติดเชื้อลดลงต่อเนื่อง จนนำมาสู่การคลายล็อกดาวน์ ปรับลดมาตรการคุมเข้ม กลายเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นธีมเปิดเมืองเปิดประเทศ

ส่วนอีกกลุ่มที่ยังโชว์ฟอร์มได้ดีช่วงนี้ คือ “กลุ่มถ่านหิน” กอดคอวิ่งขึ้นมาอย่างคึกคัก หลังราคาถ่านหินในตลาดโลกพุ่งขึ้นอย่างร้อนแรง เรียกว่ากลับเข้าสู่ขาขึ้นอย่างเต็มรูปแบบ โดยราคาถ่านหิน Newcastle เดินหน้าทำนิวไฮในรอบ 13 ปี จ่อทะลุระดับ 180 ดอลลาร์ต่อตัน ปรับตัวขึ้นมาแล้วกว่า 100% จากช่วงต้นปีที่ 86.20 ดอลลาร์ต่อตัน

โดยราคาถ่านหินปีนี้ได้รับปัจจัยบวกจากความต้องการใช้ที่เพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ สวนทางกลับปริมาณผลผลิตที่มีออกมาอย่างจำกัดจากผลกระทบของโควิด อย่างในออสเตรเลียซึ่งเป็นผู้ผลิตและส่งออกถ่านหินรายใหญ่ของโลกมีการประกาศมาตรการล็อกดาวน์ กระทบต่อการผลิตและส่งออกถ่านหินของเหมืองต่างๆ

ส่วนที่อินโดนีเซียรัฐบาลสั่งระงับการส่งออกถ่านหินจากหลายแห่ง เนื่องจากไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านอุปทานภายในประเทศ ขณะที่การขนส่งในประเทศจีนยังเข้มงวด ทั้งการนำเข้าและส่งออกสินค้าเพื่อป้องกันโรคระบาด จึงกลายเป็นปัจจัยดันราคาถ่านหินพุ่งแรง

ขณะที่แนวโน้มราคาถ่านหินน่าจะอยู่ในช่วงขาขึ้นไปตลอดช่วงที่เหลือของปี เนื่องจากกำลังเข้าสู่ฤดูหนาวซึ่งเป็นไฮซีซั่นของธุรกิจจะมีความต้องการใช้ถ่านหินเพื่อนำไปผลิตพลังงานเพิ่มขึ้น

ส่วนราคาหุ้นถ่านหินแต่ละตัวแรงติดสปีดชนิดไม่มีใครยอมใคร อย่างพี่ใหญ่บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU กำลังกลับมาลุ้นทดสอบแนวต้านสำคัญที่ 13 บาทอีกครั้ง หลังในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้นปรับฐานระยะสั้นจากประเด็นการเพิ่มทุน

แต่ถ้าดูในแง่พื้นฐานธุรกิจแล้วยังสดใส เป็นปีแห่งการเทิร์นอะราวด์ ลุ้นพลิกมีกำไรครั้งแรกในรอบ 3 ปี หลังปี 2562-2563 ขาดทุนมา 2 ปีติดต่อกัน 552.86 ล้านบาท และ 1,786.32 ล้านบาท ตามลำดับ โดยครึ่งแรกปี 2564 ตุนกำไรเข้ากระเป๋าไปแล้ว 2,860.56 ล้านบาท

ขณะที่กำไรไตรมาส 3 นี้ ลุ้นทำนิวไฮรายไตรมาส รับประโยชน์หลายต่อทั้งจากราคาถ่านหินขาขึ้น ราคาก๊าซธรรมชาติก็พุ่งแรง ธุรกิจไฟฟ้ามีโรงไฟฟ้าใหม่เริ่มจ่ายไฟ ขณะที่ในระยะยาวยังมีอัพไซด์จากธุรกิจพลังงานแห่งอนาคต

บริษัท ลานนารีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) หรือ LANNA มีเหมืองถ่านหินอยู่ในอินโดนีเซีย โดยมีการนำเข้าถ่านหินมาขายให้กับลูกค้าในไทยและอีกหลายประเทศ เช่น อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน ฮ่องกง เป็นต้น ปีนี้ราคาหุ้น LANNA พุ่งทำออลไทม์ไฮไปเลยที่ 26 บาท หรือขึ้นมาแล้วกว่า 230% เมื่อเทียบกับราคาปิดปี 2563 ที่ 7.70 บาท

โดยล่าสุดทุ่มเงิน 5 ล้านดอลลาร์ เข้าลงทุนเหมืองถ่านหินแห่งใหม่ของ PT. PESONA KHATULISTIWA NUSANTARA (PKN) ที่อินโดนีเซีย ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองบูลุงงัน จังหวัดกำลิมันตันเหนือ

เหมืองแห่งนี้มีสัมปทานจนถึงปี 2582 มีปริมาณสำรองถ่านหินในเชิงพาณิชย์ประมาณ 65 ล้านเมตริกตัน โดยได้ผลิตถ่านหินออกจำหน่ายแล้วตั้งแต่ปี 2552 ถึงปัจจุบัน 29 ล้านเมตริกตัน คงเหลือปริมาณสำรองถ่านหินอีก 36 ล้านเมตริกตัน ถือว่ามีเหมืองใหม่รับช่วงราคาขาขึ้นพอดี

ส่วนบริษัท เอเชีย กรีน เอนเนอจี จำกัด (มหาชน) หรือ AGE มีเหมืองอยู่ในอินโดนีเซียเช่นกัน ตั้งเป้ารายได้ปีนี้พุ่งทะลุ 1 หมื่นล้านบาท และยอดขายถ่านหินรวม 5.5 ล้านตัน โดยครึ่งปีแรกมียอดขายแล้ว 2.85 ล้านตัน

และล่าสุดมีข่าวดีเข้ามาช่วยเติมเสน่ห์ หลังได้รับเลือกจาก FTSE SET Index เข้าคำนวณในกลุ่ม Micro Cap โดยจะมีผลในวันที่ 17 ก.ย. นี้ เชื่อว่าน่าจะช่วยดึงดูดนักลงทุนโดยเฉพาะกลุ่มสถาบันทั้งในประเทศและต่างประเทศ

อีกบริษัทที่หลายคนอาจมองข้ามหรือลืมไปว่าอยู่กลุ่มนี้ด้วย บริษัท ไทย แคปปิตอล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TCC หลัง Laggard เพื่อนๆ ในกลุ่มมานาน เลยทำเซอร์ไพรส์เรียกเสียงฮือฮาไปทั้งกระดาน เพราะพุ่งชนซิลลิ่ง 3 วันติด (2-3 และ 6 ก.ย.) จ่อยืนทะลุ 1 บาทเข้ามาทุกที ขณะที่ผลประกอบการปีนี้ได้ลุ้นพลิกมีกำไร