ผู้บริโภคไม่ถูกใจสิ่งนี้ ดิสนีย์พลัส ฮอตสตาร์ ปล่อยโปร 599 บาทต่อปี

ผู้บริโภคไม่ถูกใจสิ่งนี้ ดิสนีย์พลัส ฮอตสตาร์ ปล่อยโปร 599 บาทต่อปี

ดิสนีย์พลัส ฮอตสตาร์ หั่นราคาสมาชิก 599 ต่อปี ร่วมโปรโมชั่น 9 เดือน 9 สะเทือนฐานแฟน เหตุชูราคาต่ำกว่าผู้สมัครก่อน โวยเสียค่าโง่ แบรนด์ไม่สนใจลูกค้ารุ่นแรก ส่องยกหนึ่ง สู้สมศักดิ์ศรียักษ์ใหญ่บนสังเวียนโอทีทีแค่ไหน

เกือบ 3 เดือนที่ “ดิสนีย์พลัส ฮอตสตาร์” เปิดฉากสู้รบในสมรภูมิวิดีโอสตรีมมิ่งในประเทศไทย ท่ามกลาง “คู่แข่ง” มากหน้าหลายตาที่่ทำตลาดมาก่อน ไม่ว่าจะเป็น เน็ตฟลิกซ์(Netflix), วิว(Viu), วีทีวี(WeTV), อ้ายฉีอี้(IQIYI) และยังมีผู้ประกอบการในประเทศ(Local) จากค่ายสื่อและผู้ผลิตคอนเทนท์ต่างๆ แจมตลาดด้วย 

ระยะเวลาที่ผ่านมา “เสียงสะท้อน” จากผู้บริโภคถึงการใช้งาน “ดิสนีย์พลัส ฮอตสตาร์” มีทั้งเชิงบวกและลบ เหมือนเหรียญ 2 ด้านทั่วไป แต่คำก่นด่า ติติง ที่มีเหตุมีเหตุ ค่ายสามารถนำไปพัฒนาปรับปรุงบริการให้ดียิ่งขึ้น เพราะหากปัญหายังถูกหมักหมมไว้ อาจถูกผู้บริโภคเชิดใส่ หันไปซบวิดีโอสตรีมมิ่งค่ายอื่นแทน เพราะปัจจุบันผู้บริโภค 1 คน มีแพลตฟอร์ม “โอทีที” ให้เสพอย่างน้อย 2 ค่ายแน่นอน เพื่อเป็นทางเลือก 

สำหรับปัญหา(Pain Point)ที่ผู้บริโภคส่งเสียงถึงแบรนด์หรือ ดิสนีย์พลัส ฮอตสตาร์ มีหลากหลายทั้งเรื่อง ภาพ เสียง การพากย์ ปริมาณ ความหลากหลายของคอนเทนท์ สารพันการคอมเมนต์ที่เกิดขึ้นบนโลกออนไลน์ 

ปมเก่ายังไม่ถูกแก้ไข ดราม่าใหม่ก็บังเกิด เมื่อเทศกาลลดราคาสินค้าครั้งใหญ่ 9 เดือน 9 ดิสนีย์พลัส ออกโปรโมชั่นที่แฟนๆกลุ่มใหญ่ “ไม่ถูกใจสิ่งนี้” ด้วยการ “มอบส่วนลด 200 บาท” ให้กับผู้ที่สมัครสมาชิกใหม่ ด้วยการร่วมสนุกกดลิงค์ส่วนลดและคอมเมนต์คำถามง่ายๆ จะทำให้ได้ค่าสมาชิกรายปีที่ 599 บาท จากเดิม 799 บาทต่อปี 

ผู้บริโภคไม่ถูกใจสิ่งนี้ ดิสนีย์พลัส ฮอตสตาร์ ปล่อยโปร 599 บาทต่อปี

โปรโมชั่นเรียกแขกให้ไปรุมติแบรนด์ยกใหญ่ เพราะผู้บริโภค ตลอดจนแฟนๆ “ดิสนีย์” ที่สมัครไปก่อนหน้านี้ ซึ่งจ่ายในราคา 799 บาท เจอแบบนี้ กลายเป็น สมัครก่อน ดูก่อน “จ่ายแพงกว่า!” ผู้บริโภคบางรายถึงกับมองว่าเป็นการ “เสียค่าโง่” ที่สมัครก่อน อดได้รับส่วนลด รวมถึงของรางวัลพิเศษ คือโมเดลซูเปอร์ฮีโร่จากภาพยนตร์ดังด้วย 

เมื่อ ดิสนีย์พลัส ฮอตสตาร์ ต้องการขยายฐานสมาชิก กลยุทธ์และโปรโมชั่นด้าน “ราคา” ถือเป็นหนึ่งในส่วนประสมทางการตลาด(4ps) ท่าเบสิกที่ถูกนำมาใช้อยู่แล้ว ค่าสมาชิกช่วงเปิดตัวที่ 799 ต่อปีว่าถูกแล้ว เพราะหารเฉลี่ยรายเดือนอยู่ที่ 66 บาทต่อเดือน ยิ่งสมาชิก “เอไอเอส” ซึ่งเป็นพันธมิตรกับดิสนีย์พลัส ฮอตสตาร์ ยังได้โปรโมชั่นพิเศษอีก 1 เดือน ทำให้ราคาต่ำลง แต่พอเจอโปรโมชั่น 599 ต่อปี ถูกลงไปอีก หรือเฉลี่ย 49 บาทเศษต่อเดือน จึงทำให้ผู้บริโภคบางกลุ่มไม่พอใจ เกิดอารมณ์ขุ่นเคือง และครบรอบบิลเมื่อไหร่ จะเบนเข็มหนีซบค่ายอื่นทันที

ปัญหาราคาโปรโมชั่นออกมาทีหลัง แต่ถูกกว่าเดิม อาจทำกระทบธุรกิจ แต่โจทย์ใหญ่ของดิสนีย์พลัส ฮอตสตาร์ คือเรื่อง “คอนเทนท์” ที่ถือเป็นหัวใจสำคัญหรือ Content is King ในการตรึงผู้บริโภคให้อยู่กับแพลตฟอร์มนานสุดเท่าที่จะทำได้ แต่เสียงจากผู้บริโภคจำนวนมากที่ส่งถึงแบรนด์ คือ ความหลากหลายหรือวาไรตี้ ยังไม่มากพอ เมื่อเทียบกับคู่แข่งรายสำคัญอย่าง “เน็ตฟลิกซ์” 

ขณะที่ค่ายตะวันตกกำลังขับเคี่ยวกัน แพลตฟอร์มจากเอเชีย ก็มาแรงไม่น้อย และแต่ละค่ายมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่น พร้อมฟัดเหวี่ยงได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ เช่น วิว ที่ขยับเป็นเจ้าแห่งคอนเทนท์เกาหลี ทั้งซีรีส์ รายการวาไรตี้ต่างๆ รวมถึงภาพยนตร์ เป็นต้น ส่วนค่ายอื่น อย่างวีทีวี อ้ายฉีอี้ เด่นซีรีส์ คอนเทนท์จีน เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม จุดเด่นของดิสนีย์พลัส ฮอตสตาร์ ที่เป็นคอนเทนท์ระดับตำน่าน ภาพยตร์เจ้าหญิงต่างๆ ตลอดจนหนังบล็อกบัสเตอร์ ที่สร้างความประทับใจให้ผู้ชม แต่ในฐานะผู้บริโภค ยิ่งมีคอนเทนท์หลากหลายเท่าไหร่ ยิ่งดึงดูดผู้ชมได้มากเท่านั้น 

หากเทียบ 3 เดือนแรก เป็นยกที่ดิสนีย์พลัส ฮอตสตาร์ เพิ่งออกหมัดมวยการตลาด ปล่อยอาวุธใส่คู่แข่ง อาการฝั่งตรงข้ามเป็นอย่างไร ทราฟฟิก หรือจำนวนผู้ชมเป็นตัวตัดสิน ส่วนกลยุทธ์ที่ออกมาจะโดนใจผู้บริโภคไหม เชื่อว่าเสียงสะท้อนผ่านออนไลน์ทุกวัน น่าจะพอให้แบรนด์เห็นปฏิกิริยา “บวก-ลบ” เพื่อนำไปตีโจทย์และวางกลยุทธ์ใหม่ๆมาตอบสนองความต้องการให้แม่นยำยิ่งขึ้น