'จุรินทร์' เคาะ ประกันรายได้ 'ข้าวโพด-ปาล์มน้ำมัน' ปี 3

'จุรินทร์' เคาะ ประกันรายได้ 'ข้าวโพด-ปาล์มน้ำมัน' ปี 3

“จุรินทร์”นั่งหัวโต๊ะเคาะเดินหน้าโครงการประกันรายได้ “ข้าวโพด-ปาล์มน้ำมัน" ปี 3 ช่วยเหลือเกษตรกร เผยยังใช้หลักการเดิม พร้อมเสริมมาตรการคู่ขนานดูแลราคา เตรียมชงครม.เห็นชอบต่อไป

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์  รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า  เมื่อวันที่ 11  ส.ค.ที่ผ่านมาคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ (นบขพ.) และคณะอนุกรรมการเพื่อบริหารจัดการปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มด้านการตลาด ครั้งที่ 1 / 2564  มีมติเห็นชอบเดินหน้าโครงการประกันรายได้ปี 3 ในพืช 2 ชนิดคือ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และปาล์มน้ำมัน เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร โดยในส่วนของข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ได้มีมติเห็นชอบประกันรายได้ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ปีการผลิต 2564/65   โดยใช้หลักการเดียวกับประกันรายได้ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี 2 ที่กำหนดราคาเป้าหมาย 8.50 บาทต่อกก. ไม่เกินครัวเรือนละ 30 ไร่ เป้าหมายเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเป็นผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์กับกรมส่งเสริมการเกษตรจำนวนประมาณ 452,000 ครัวเรือน ที่ขึ้นทะเบียนเพาะปลูกตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. 64 - 31 พ.ค 65 โดยงวดแรกจะเริ่มจ่ายให้เกษตรกรวันที่ 20 พ.ย. 64 งวดต่อไปทุกวันที่ 20 ของเดือน งวดสุดท้าย 20 ต.ค. 65 รวม 12 งวด วงเงินงบประมาณ 1,800 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมาโดยจะนำเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีต่อไป

ส่วนมาตรการคู่ขนานที่จะมาช่วยรักษาเสถียรภาพราคาข้าวโพด โดยให้สถาบันเกษตรกรและผู้ประกอบการเร่งการรับซื้อและเก็บสต๊อกไว้ในช่วงผลผลิตออกสู่ตลาดมาก โดยได้รับชดเชยดอกเบี้ยในอัตรา 3 % ต่อปี เป้าหมายรวม 350,000 ตัน ได้แก่ 1.โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และสร้างมูลค่าเพิ่ม เป้าหมาย 150,000 ตัน  รวมทั้งชดเชยดอกเบี้ยในการเก็บสต๊อกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เป้าหมาย 200,000 ตัน

162874988910

นายจุรินทร์ กล่าวว่า สำหรับปาล์มน้ำมันได้เห็นชอบโครงการประกันรายได้ปาล์มน้ำมัน ปี 3 และให้นำเสนอคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ หรือ กนป. พิจารณา โดยกำหนดราคาเป้าหมาย 4 บาทต่อกก. ซึ่งเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรไว้กับกรมส่งเสริมการเกษตรจะได้รับความช่วยเหลือทุกครัวเรือนตามพื้นที่ที่ปลูกจริง แต่ไม่เกินครัวเรือนละ 25 ไร่ และต้องเป็นพื้นที่ปลูกต้นปาล์มที่ให้ผลผลิตแล้ว มีอายุ 3 ปีขึ้นไป ระยะเวลาดำเนินการตั้งแต่ ก.ย. 64 - ก.ย. 65 โดยจะจ่ายงวดที่ 1 วันที่ 15 ก.ย. 64 วงเงินงบประมาณ 7,660 ล้านบาท

ส่วนมาตรการเสริมคู่ขนานเพื่อแก้ไขปัญหาสต็อกน้ำมันปาล์มดิบส่วนเกิน โดยสนับสนุนค่าบริหารจัดการให้ผู้ส่งออก กก.ละ 2 บาท เพื่อผลักดันน้ำมันปาล์มดิบออกไปตลาดต่างประเทศ ซึ่งเห็นชอบให้ขยายระยะเวลาโครงการผลักดันการส่งออกน้ำมันปาล์มเพื่อลดผลผลิตส่วนเกินปี 2564 จากเดิมสิ้นสุดระยะเวลาส่งออกเดือน ก.ย.64 เป็น ธ.ค.64 และขยายเวลาโครงการฯ จากเดือน ธ.ค.64 เป็น มี.ค.65 ภายใต้เป้าหมายเดิมที่ 300,000 ตัน และในปี 2565 เป้าหมาย 150,000 ตัน โดยจะเสนอขอใช้งบประมาณกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร วงเงิน 300 ล้านบาท ทั้งนี้ ในการดำเนินการโครงการดังกล่าวมีเงื่อนไขพิจารณาสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการการส่งออก เมื่อระดับสต็อกน้ำมันปาล์มดิบในประเทศสูงกว่า 300,000 ตัน และราคาน้ำมันปาล์มดิบในประเทศสูงกว่าราคาตลาดโลก

" โครงการประกันรายได้ของรัฐบาลชุดนี้จะเดินหน้าปีที่  3  ในพืชหลัก 5 ชนิด คือ ข้าว ยางพารา ปาล์มน้ำมัน มันสำปะหลัง และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ หลังจากจบโครงการปีที่ 2  โดยจะนำจะนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อขออนุมัติต่อไป อย่างไรก็ตามพืชแต่ละชนิดจะมีมาตรการเสริมเพื่อช่วยยกระดับราคาให้เกษตรกรเช่นกันขณะนี้ทางกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตร จะมุ่งมั่นทำงานตามนโยบายอย่างขันแข็งทั้งนี้เพื่อให้โครงการนี้ช่วยเกษตรกรกว่า 7.69 ล้านครัวเรือนในเกษตรกรปลูกพืชหลัก 5 ชนิด ขณะเดียวกันในส่วนของพืชชนิดอื่นหรือผลไม้ก็มีมาตรการอื่นดูแลทั่วถึงเช่นกัน " นายจุรินทร์ กล่าว