ลด 'คุ้มครองเงินฝาก' เหลือ 1 ล้านบาท 11 ส.ค.นี้ แบงก์ยันลูกค้าไม่ตื่นโยกเงิน

ลด 'คุ้มครองเงินฝาก' เหลือ 1 ล้านบาท 11 ส.ค.นี้  แบงก์ยันลูกค้าไม่ตื่นโยกเงิน

4 แบงก์ลั่นลูกค้าไม่แห่โยกเงินฝาก หลังสคฝ.ลดวงเงิน"คุ้มครองเงินฝาก" เหลือ 1 ล้านต่อ1 ราย เริ่ม 11 ส.ค.นี้ ย้ำฐานะการเงินแบงก์แน่นปึ้ก หากเกิดความเสียหาย ลูกค้าอาจไม่ต้องใช้สิทธิคุ้มครองเงินฝากเลย และกลุ่มเวลธ์ปรับตัวรับเรื่องนี้มาตลอด

จากกรณี สถาบันคุ้มครองเงินฝาก (สคฝ.) เตรียมปรับลดวงเงินคุ้มครองเงินฝากจาก 5 ล้านบาทมาเหลือ 1 ล้านบาทต่อ 1 รายเ ริ่ม 11 ส.ค.นี้

นายสารัชต์ รัตนาภรณ์ ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ หรือ SCB เปิดเผยว่า การปรับวงเงิน "คุ้มครองเงินฝาก"รอบนี้ ไม่น่ากังวลกรณีเงินไหลออกแต่อย่างใด ตอนนี้สถานการณ์ลูกค้ากลุ่มเวลธ์ของธนาคารยังเป็นปกติ ด้วยปัจจุบันธนาคารมีเงินกองทุนแข็งแกร่งมากพร้อมดูแลแม้มีความเสี่ยงจากผลกระทบโควิด ยังสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าได้อีกทั้งลูกค้าและธนาคารได้เตรียมตัวกับเรื่องนี้มานาน

นายทวีลาภ ฤทธาภิรมย์ กรรมการผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ หรือ BBL เปิดเผยว่าสคฝ. ปรับลดวงเงินคุ้มครองเงินฝากรอบนี้ ได้มีการวางแผนอยู่แล้วและมีการสื่อสารให้ประชาชนรับทราบมาเป็นระยะ จึงไม่น่ากังวลและผู้ฝากเงินกับสถาบันการเงินไทยจะมีกลไกและมาตรการดูแลภายใต้กฎหมายคุ้มครองเงินฝากอยู่แล้ว

 

นางสาวดุษฎี เกลียวปฏินนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย จำกัด (มหาชน) หรือ CIMB THAI เปิดเผยว่า ปัจจุบันทั้งธนาคารขนาดใหญ่และเล็กมีฐานะการเงินแข็งแกร่งมากหากมีปัญหาเกิดขึ้นสามารถดูแลเงินฝากของลูกค้าได้อยู่แล้ว โดยที่ลูกค้าอาจไม่ต้องไปใช้สิทธิคุ้มครองเงินฝากเลยก็ได้

รวมถึงที่ผ่านมาลูกค้าเวลธ์ธนาคาร เตรียมตัวกับเรื่องนี้มาตลอดพบว่า ลูกค้ากลุ่มนี้โยกเงินฝากไปลงทุนอื่นๆค่อนข้างมากเช่น หุ้นกู้ พันธบัตรรัฐบาล และกองทุน ทำให้เงินฝากต่อรายเหลือไม่มากแล้ว

“รอบนี้ไม่น่ากังวลเหมือน 5 ปีก่อนแล้ว เราเคยวิเคราะห์ว่าคนจะตกใจมีเงินไหลออก 2-3 เดือน แต่ตอนนั้นดอกเบี้ย 3-4% และที่ผ่านมาดอกเบี้ยต่ำมาตลอด ยิ่งตอนนี้ดอกเบี้ยฝากเงินได้แค่ 0.2-1.5% ทำให้ลูกค้าโยกเงินฝากไปลงทุนอื่นๆ ค่อนข้างมากด้วย แต่อาจมีลูกค้าบางคนลืมบ้าง ยังมีเงินฝากในบัญชีจำนวนมากโดยเฉพาะกลุ่มวัยเกษียณ อาจเห็นการโยกเงินแค่ 2-3 วันเท่าวัน เป็นการกระจายการลงทุนหรือถอนเงินผ่านระบบออนไลน์ ไม่น่ากังวล”

นายวิน พรหมแพทย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานลูกค้าไฮเน็ตเวิร์ธ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ปัจจุบันบัญชีเงินฝากที่เกิน 1 ล้านบาททั้งระบบมีไม่มากแล้ว สะท้อนลูกค้าเตรียมตัวมาเป็นระยะๆ แล้วมองว่า ผลกระทบเงินไหลออกมีน้อยมาก อีกทั้งแม้สถานการณ์ตอนนี้ฐานะการเงินของธนาคารทั้งระบบแข็งแกร่งมั่นคง หนี้เสียน้อย ยังสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้านำเงินมาฝากหรือลงทุนต่อเนื่องเพราะหากมีปัญหาธนาคารก็ดูแลได้

162829848238