กฟผ.ลุยธุรกิจผู้ให้บริการโซลูชั่นพลังงานสะอาด

กฟผ.ผุด 9 โครงการ รับเทรนด์โลกมุ่งสู่พลังงานสะอาดจ่อรุกธุรกิจผู้ให้บริการโซลูชั่น ป้อนพลังงานหมุนเวียน100% ดึงบริษัทต่างชาติ ตั้งโรงงานลงทุนในไทยเพิ่ม
นายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยในงาน TNC - CIGRE WEBINAR 2021 Electricity Energy Transition, Trends, and Technologies หรือ การเปลี่ยนแปลงพลังงานไฟฟ้าเทรนด์และเทคโนโลยี โดยระบุว่า ขณะนี้หลายประเทศทั่วโลกกำลังให้ความสำคัญการบรรลุเป้าหมายการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ โดยกระทรวงพลังงาน ได้วางเป้าหมายนโยบาย 4D1E คือ 1.DIGITALIZATION เช่น การยกระดับการผสมไบโอดีเซลเป็น บี7บี10 บี20 เป็นต้น
2.DECARBONIZATION เช่น การผลักดันโครงข่ายไฟฟ้าให้เป็นสมาร์ทกริด 3.DECENTRALIZATION เช่น การส่งเสริมผลิตไฟฟ้าในระดับชุมชน และ 4.DE-REGULATION เช่น การทำ sandbox หรือ กำหนดพื้นที่เฉพาะในการทดสอบนวัตกรรมพลังงานรูปแบบใหม่ ซึ่งจะทำให้เกิดสตาร์ทอัพ
ส่วน 1E คือ ELECTRIFICATION กฟผ.เอง เดิมเป็นผู้ผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงฟอสซิลเป็นหลัก และกำลังก้าวสู่การพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน(RE) มากขึ้น
ดังนั้น กฟผ.มีแผนจะดำเนินการใน 9 โครงการสำคัญ ดังนี้ 1. Grid-RE Integration หรือการบูรณาการสายส่งไฟฟ้าเพื่อรองรับการเข้ามาของพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบต่างๆ
2.Hydro-Floating Solar Hybrid หรือ โซลาร์ลอยน้ำในเขื่อน 3.Pilot Green Energy Trading หรือ การซื้อขายพลังงานสีเขียวซึ่ง กฟผ.พร้อมในการผลิตไฟฟ้าสีเขียว และมีแบตเตอรี่ รวมถึงมีโรงไฟฟ้าแบบสูบกลับ 2-3 แห่งของ กฟผ. สามารถนำมาเป็นพลังงานสีเขียวในช่วงที่ต้องการได้
นอกจากนี้ มีบางบริษัทที่ต้องการแลกเปลี่ยนพลังงานสะอาดในบางช่วง ซึ่ง กฟผ.ในฐานเป็นผู้ดูแลระบบไฟฟ้าทั้งหมดก็มี พลังงานหมุนเวียนที่ดูแลอยู่ในมือจำนวนมาก ก็สามารถทำหน้าที่เป็น EGAT Solution Provider หรือ ผู้ให้บริการโซลูชั่นพลังงานหมุนเวียน ซึ่งก็จะเป็นธุรกิจใหม่ต่อไปในอนาคต และจะช่วยดึงดูดให้บริษัทยักษ์ใหญ่เข้ามาลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น
4. EV Business Solutions ธุรกิจให้บริการโซลูชั่นยานยนต์ไฟฟ้า ประกอบด้วย 4 ผลิตภัณฑ์และบริการ ได้แก่ 1.สถานีอัดประจุไฟฟ้า “EleX by EGAT” 2. Mobile Application Platform “EleXA” เป็นแอพลิเคชั่นอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้รถEV 3.ตู้อัดประจุไฟฟ้า “EGAT Wallbox และ EGAT DC Quick Charger” และ4.ระบบบริหารจัดการเครือข่ายสถานีอัดประจุไฟฟ้า “BackEN”
5. Digital Substation ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งของระบบสมาร์ทกริดที่จะเข้ามาบริหารจัดการส่งจ่ายและผลิตไฟฟ้ารองรับพลังงานหมุนเวียนที่จะเข้าสู่ระบบมากขึ้น
6. Grid Connectivity หรือการเชื่อมโยงไฟฟ้ากับเพื่อนบ้าน ซึ่งจะเป็นทั้งการแลกเปลี่ยน หรือ ซื้อขายไฟฟ้าระหว่างกัน เพื่อความมั่นคงด้านไฟฟ้าในระดับภูมิภาค
7.EGAT Reforestation Project เป็นโครงการปลูกป่าของ กฟผ. ซึ่งในอนาคตมีแผนจะปลูกเพิ่มอีก 1 ล้านไร่ จากปัจจุบันปลูกไปแล้ว 4.7 แสนไร่ สามารถดูดซับคาร์บอนฯได้ 13.6 ล้านตัน
8. Energy Efficiency Label No.5 ซึ่งปัจจุบันได้ติดฉลากเบอร์ 5 ไปแล้ว 22 ผลิตภัณฑ์ หรือ 435 ล้านฉลาก คิดเป็นพลังงานที่ประหยัดได้ประมาณ 32,000 ล้านหน่วย และลดคาร์บอนฯได้ 17.8 ล้านตัน เทียบเท่าปลูกป่า 100 ล้านต้น
และ9.The Green Learning Room Project เป็นโครงการโรงเรียนสีเขียว ที่เป็นการปลูกฝั่งทัศนคติการพลังงานตั้งแต่วัยเยาว์







