จุรินทร์รุก 'มินิ เอฟทีเอ' ญี่ปุ่น พัฒนา-ผลิต-ส่งออก-อัญมณีฯ

 จุรินทร์รุก 'มินิ เอฟทีเอ' ญี่ปุ่น  พัฒนา-ผลิต-ส่งออก-อัญมณีฯ

ท่ามกลางภาวะวิกฤติโควิดขณะนี้พบว่าการส่งออกของไทยในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา(ม.ค.-พ.ค.) สามารถทำรายได้จากการส่งออกเป็นมูลค่า 3.2 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.78%

โดยเฉพาะภาคการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับ  มีมูลค่า 67,578 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.8% โดยเฉพาะเครื่องประดับเงินของไทยสามารถทำการส่งออกได้เป็นลำดับที่ 1 ของโลก และพลอยสีเป็นลำดับที่ 3 ของโลก

จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยในโอกาส ร่วมเป็นประธานและสักขีพยานพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ว่าด้วยการ เป็นพันธมิตรในอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ ระหว่างกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และเมืองโคฟุ จังหวัดยามานาชิ ประเทศญี่ปุ่น โดยมีอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศและนายกเทศมนตรีเมืองโคฟุร่วมลงนามแบบ Online

"การลงนามนี้ถือเป็น Mini FTA ฉบับแรกที่ตนได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์สร้างความสัมพันธ์ทางการค้าเชิงลึก เมืองโคฟุเป็นศูนย์กลางการค้าด้านอัญมณีและเครื่องประดับของประเทศญี่ปุ่น การลงนามจะก่อให้เกิดประโยชน์หลายประการทั้งส่งเสริมภาคการผลิต ทำการตลาด และถ่ายทอดเทคโนโลยีต่างๆทั้งการเจียระไน ขึ้นตัวเรือนและซอฟท์แวร์ต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการผลิต"

สำหรับเป้าหมายความร่วมมือนี้ประกอบด้วย ประการที่หนึ่ง มีการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ทางด้านการพัฒนาธุรกิจการผลิตอัญมณีเครื่องประดับทางการตลาดและการถ่ายทอดเทคโนโลยีระหว่างการในส่วนของ SMEs ของทั้งสองฝ่าย เมืองโคฟุเก่งเรื่องเทคโนโลยีการขึ้นตัวเรือนแต่ประเทศไทยเก่งในเรื่องการเจียระไนอัญมณี

ประการที่สอง ร่วมมือกันทำกิจกรรมส่งเสริมการตลาดร่วมกันทั้งในประเทศไทยและญี่ปุ่นเพื่อเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกันต่อไป ประการที่สาม ผลักดันมูลค่าการค้าระหว่างกันในเรื่องอัญมณีระหว่างไทยกับญี่ปุ่นในปี 2564 นี้จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้น ตัวเลขปีที่แล้วสามารถทำมูลค่าการค้าระหว่างกันไทย-ญี่ปุ่น ด้านอัญมณี 14,754 ล้านบาท บวก 2% แต่ปี 64 ตั้งเป้าว่าจะทำมูลค่าการค้าระหว่างกันด้านอัญมณีและเครื่องประดับให้ได้ไม่ต่ำกว่า5%ไม่ต่ำกว่า 15,500 ล้านบาท

       162608520883

ยูอิชิ ฮิงุชิ นายกเทศมนตรีเมืองโคฟุ กล่าวว่า เมืองโคฟุเป็นศูนย์กลางด้านการเมืองเศรษฐกิจและวัฒนธรรมของจังหวัดยามานาชิ เป็นแหล่งผลิตผลึกแก้วคริสตัลที่มีการพัฒนาการเจียระไนและแปรรูปให้เป็นแหล่งแปรรูปอัญมณี 

แม้ปัจจุบันจะมีการแพร่ระบาดของโควิดที่ส่งผลต่อการเดินทางระหว่างประเทศ แต่การลงนาม MOU จะช่วยเป็นแรงผลักดันในการพัฒนาอุตสาหกรรมเครื่องประดับทั้งไทยและเมืองโคฟุมากยิ่งขึ้นต่อไป และหวังว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดจะคลี่คลายโดยเร็วและอุตสาหกรรมจิวเวลรี่ของสองประเทศจะพัฒนามากยิ่งขึ้นต่อไป”

สมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า แต่ละปีจ.ยามานาชิ นำเข้าอัญมณีเเละเครื่องประดับจากไทยมูลค่า 1,200 ล้านบาท ซึ่งการลงนามครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายขับเคลื่อนความสัมพันธ์ทางการค้าในเชิงลึกของกระทรวงพาณิชย์  โดยพิธีลงนามครั้งนี้มีภาคเอกชนร่วมเป็นสักขีพยานด้วย เช่น ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.),คณะกรรมการสมาคมการค้ากลุ่มอัญมณี เครื่องประดับและโลหะมีค่า สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ เป็นต้น

สำหรับMini FTA ฉบับต่อไปที่กระทรวงพาณิชย์ตั้งเป้าคือทำกับมณฑลไหหลำของประเทศจีน และรัฐเตลังกานาของประเทศอินเดียและอื่นๆ คาดว่าจะสามารถลงนามได้ในช่วงเดือนส.ค.นี้