บิ๊กคอร์ป สนร่วมประมูลปีนี้ 'จุดพักมอเตอร์เวย์' พันล้าน

บิ๊กคอร์ป สนร่วมประมูลปีนี้ 'จุดพักมอเตอร์เวย์' พันล้าน

กรมทางหลวงเตรียมเปิดประมูล ธ.ค.นี้ ก่อสร้างจุดพักรถมอเตอร์เวย์สาย7 พัทยา - มาบตาพุด เม็ดเงินกว่า 1 พันล้านบาท เอกชนกลุ่ม ปตท. - ซีพี – เซ็นทรัล – บีทีเอส - กัลฟ์ สนชิงเค้ก คาดสร้างรายได้ตลอดสัมปทานกว่า 1.5 หมื่นล้านบาท

นายปิยพงษ์ จิวัฒนกุลไพศาล ผู้อำนวยการกองทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) กรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการก่อสร้างจุดพักรถ มอเตอร์เวย์สาย 7 กรุงเทพฯ-ชลบุรี-พัทยา-มาบตาพุด โดยระบุว่า ขณะนี้ ทล.ได้ดำเนินการเปิดรับฟังความคิดเห็นจากนักลงทุนและประชาชนที่เกี่ยวข้องเรียบร้อยแล้ว พบว่าได้รับการตอบรับอย่างดี มีภาคเอกชนสนใจร่วมลงทุนในรูปแบบเอกชนร่วมลงทุนโครงการรัฐ (พีพีพี) จำนวนมาก

 

โดยเบื้องต้นเอกชนที่แสดงความสนใจร่วมลงทุนเป็นกลุ่มผู้ประกอบการค้าปลีก ห้างสรรพสินค้า ผู้ประกอบการสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง และนักลงทุนที่มีศักยภาพ อาทิ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน),บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน), บริษัท ซีพี ออลล์ จํากัด (มหาชน), กลุ่มบีทีเอส และบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เป็นต้น     

สำหรับรายละเอียดการดำเนินงาน ทล.อยู่ระหว่างเตรียมเสนอโครงการให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาเห็นชอบในเดือน ก.ค.นี้ หลังจากนั้นเสนอให้คณะกรรมการพีพีพีพิจารณาในเดือน ก.ย.2564 ก่อนจะดำเนินการเปิดประกวดราคาในเดือน ธ.ค.2564 และคาดว่าจะสามารถลงนามว่าจ้างผู้รับเหมาได้ช่วงกลางปี 2565 เริ่มงานก่อสร้างช่วงครึ่งหลังของปี 2565 กำหนดระยะเวลาก่อสร้างแล้วเสร็จทั้งโครงการภายใน 2 ปี

 

โดยระยะเวลาก่อสร้างโครงการ มีการกำหนดเงื่อนไขว่าในช่วง 1 ปีแรก หรืออย่างเร็วภายในเดือน ก.ค. 2566 หรืออย่างช้าเดือน ธ.ค. 2566 จะต้องมีการเปิดให้บริการจุดพักรถระยะแรกก่อน โดยมีพื้นที่ให้บริการจำเป็นขั้นต่ำ 30-40% ของพื้นที่ให้บริการทั้งหมด เช่น พื้นที่จอดรถฟรี สถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง พื้นที่จำหน่ายสินค้าอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งไม่ใช่ห้างสรรพสินค้า และพื้นที่ห้องสุขาฟรี เป็นต้น

หลังจากนั้น กำหนดให้ทยอยเปิดระยะ 2 จนครบ 100% ภายใน 2 ปี ซึ่งจะครอบคลุมพื้นที่สีเขียว ที่นั่งพักผ่อนในร่ม รวมทั้งพื้นที่ไว้สำหรับการจำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์ชุมชน (OTOP) โดยจะต้องไม่มีเงื่อนไขการเรียกเก็บค่าเช่าหรือค่าตอบแทนจากผู้ประกอบการสินค้า OTOP

 

นายปิยพงษ์ กล่าวด้วยว่า การประมูลจะแบ่งออกเป็น 2 สัญญา คือ 1.ศูนย์บริการทางหลวงศรีราชา พื้นที่รวม 117 ไร่ (2 ฝั่งถนน) วงเงินลงทุน 700 ล้านบาท และ 2.ศูนย์บริการทางหลวงบางละมุง พื้นที่รวม 66 ไร่ วงเงินลงทุน 300 ล้านบาท โดยให้เอกชนร่วมทุนรูปแบบ PPP Net Cost รัฐจะเป็นฝ่ายจัดหาและปรับระดับที่ดิน และรับส่วนแบ่งรายได้ตามเงื่อนไขจากเอกชน ซึ่งกำหนดให้มีการปรับเพิ่ม 15% ทุก 3 ปี ขณะที่เอกชนจะลงทุนออกแบบก่อสร้างสิ่งปลูกสร้าง บริหารจัดการ และรับความเสี่ยงทางด้านรายได้ของโครงการทั้งหมด กำหนดอายุสัมปทาน รวม 32 ปี

 

รายงานข่าวจากกรมทางหลวง (ทล.) ระบุว่า ประมาณการรายได้เชิงพาณิชย์ ในปีแรก ทล.จะมีรายได้ รวมประมาณ 167 ล้านบาท และตลอดระยะเวลา 30 ปี จะสามารถสร้างรายได้ให้ ทล. รวมประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาท

 

โดยรายได้ตลอดระยะเวลาสัมปทาน แบ่งเป็นรายได้จากศูนย์บริการทางหลวงศรีราชา ราว 1 หมื่นล้านบาท และบางละมุง ประมาณ 5 พันล้านบาท ส่วนปริมาณการจราจรที่จะเข้ามาใช้บริการโครงการศูนย์บริการในช่วงปีแรกนั้น ศูนย์บริการทางหลวงศรีราชา คาดว่าจะมีปริมาณรถรวมทั้งสองฝั่งเฉลี่ยวันละ 2.1 หมื่นคัน ขณะที่จุดพักรบางละมุง จะมีเฉลี่ยวันละ 3.6 พันคัน