ขึ้นต่อ (30 มิ.ย.64)

ขึ้นต่อ (30 มิ.ย.64)

เก็งกำไร DELTA RCL JMART

คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้

คาดดัชนีฯ ขึ้นต่อ แนวรับ 1585 / 1570 จุด แนวต้าน 1600 / 1606 จุด แนะนำ เก็งกำไร DELTA RCL JMART ทางเทคนิคจะเกิดสัญญาณบวก หากดัชนีฯ ปิดเหนือระดับ 1596 จุด (เส้นค่าเฉลี่ย 10/25 วัน) ปัจจัยบวกวันนื้ คือ รัฐบาลออกมาตรการเยียวยาช่วยหลายกลุ่มอุตสาหกรรมเพิ่มเติม ตามที่สำนักประกันสังคมกำหนดเป็นเวลา 1 เดือน และธนาคารรัฐขยายเวลาขอสินเชื่อเยียวยา COVID-19 ไปจนถึงสิ้นปีนี้ ส่วนปัจจัยวันนี้จับตา 1. ลุ้นการทำราคาปิดก่อนสิ้นงวดบัญชี (Window Dressing) โดยเฉพาะหุ้นร่วงแรง กลุ่มท่องเที่ยว ค้าปลีก ปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ๋ (AOT BH BDMS BJC EA PTTGC IVL) 2. การปรับพอร์ตหุ้น SET50/SET100 Index งวด 2H21 ในพอร์ตลงทุนของ บลจ. 3. ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ อาทิ i. รายงานภาคการผลิตและบริการเดือน มิ.ย. ของจีน สำรวจโดย NBS (-ตลาดหุ้นเอเชีย หากออกมาแย่กว่าคาด) ii. การจ้างงานภาคเอกชนเดือน มิ.ย. ของสหรัฐฯ (ส่งผลต่อรายงานจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน มิ.ย. ที่จะประกาศวันศุกร์นี้)

ประเด็นอื่น ๆ ที่ต้องติดตาม

      - หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในงวด 2H21 ของ SET50/SET100 Index: +IRPC KCE STA STGT/AAV ICHI NRF PSL PTL SINGER STGT SYNEX TKN และถอดออกจากคำนวณ + AWC TOA VGI BAM / AWC BPP EPG GFPT MBK TOA TPIPP TTW WHAUP

      - OECD ประชุมเรื่องการเก็บภาษีนิติคบุคคลขั้นต่ำ 15% ก่อนเสนอที่ประชุม G-20 ในเดือน ก.ค. (ถึงวันพฤหัสฯ)

      - Thailand คาดรายงานดุลบัญชีเดินสะพัดเดือน พ.ค. ขาดดุลสูงขึ้น MoM เป็น -USD1.5bn (เงินบาทอ่อนค่า)

      - Opportunity day: วันพุธ 30 มิ.ย. NNCL SIMAT CAZ PRIME

Global Market Summary: วันทำการที่ผ่านมา

+ ตลาดหุ้นไทยปิดบวกครั้งแรกรอบ 9 วันทำการ: ตลาดหุ้นไทยวานนี้เคลื่อนไหวแบบ Up Channel กรอบ 1579.44-1596.08 จุด ก่อนมาปิดตลาดที่ 1591.43 จุด +12.26 จุด +0.78% วอลุ่มเพิ่มขึ้นเป็น 7.9 หมื่นล้านบาท นำขึ้นโดยกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ +4.08% วัสดุก่อสร้าง +1.91% ขนส่งและโลจิสติกส์ +1.41% เงินทุนและหลักทรัพย์ +1.3% หุ้นบวก >4% RCL UKEM COM7 DELTA TSTH OCEAN JMART TPLAS BEC SITHAI NEX XPG ARIP VPO หุ้นลบ >4% TWZ KASET TBSP XO

+ ตลาดหุ้นโลกปิดบวก: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวก DJ +0.03% (+9.02 จุด) ส่วน S&P500 +0.03%, Nasdaq +0.19% พร้อมปิด all-time high รับข่าวกลุ่มธนาคารใหญ่เตรียมจ่ายปันผลในอัตราที่สูงขึ้น หลังผ่าน Stress Test (MS เพิ่มปันผลเท่าตัวเป็น USD0.70/หุ้น, JP Morgan และ Goldman Sachs คาดจ่ายปันผลด้วยอัตราสูงขึ้น) และการคาดหวังในเชิงบวกต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ส่วนตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก DAX +0.88% CAC40 +0.14% FTSE +0.21% รับข่าวความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ ยูโรสูงสุดรอบ 21 ปี และการประกาศซื้อหุ้นคืนของ ADIDAS

+/- น้ำมันดิบปิดบวก แต่ทองดิ่ง: ราคาน้ำมันดิบโลกปิดบวก WTI +USD0.07 ปิดที่ USD72.98/บาร์เรล Brent +USD0.08 ปิดที่ USD74.76/บาร์เรล รับข่าวการเริ่มเปิดเศรษฐกิจจะช่วยสนับสนุนอุปสงค์น้ำมัน ส่วนราคาทองคำโลกดิ่งลง -USD17.10 ปิดที่ USD1,763.60/ออนซ์ จากการกลับมาแข็งค่าของค่าเงิน USD เป็น 92.05 (ใกล้เคียงระดับสูงสุดรอบ 3 เดือน ที่ 92.41

ประเด็นสำคัญ

+ มาตรการเยียวยา.: ที่ประชุมครม. มีมติเห็นชอบหลักการเยียวยากลุ่มแรงงานที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่ 6 จังหวัด รวมถึงกิจกรรมบริการด้านอื่น ๆ ที่สำนักงานประกันสังคมกำหนด นอกจากนี้ ให้ทบทวนมติครม. เดิม อาทิ ขยายโครงการสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 เป็นวันที่ 30 ธ.ค. จากเดิมวันที่ 30 มิ.ย. การปรับปรุงโครงการ Soft Loan ออมสิน ขยายเวลากู้เป็น 7 จาก 5 ปี ระยะปลอดชำระเงินต้นเป็นไม่เกิน 2 จากเดิม 1 ปี

+ มาตรการคุมแคมป์ก่อสร้าง: ศบค. เผยการปิดแคมป์คนงานก่อสร้างเฉพาะโครงการใหญ่ที่ขึ้นทะเบียนกับจังหวัดเท่านั้น ส่วนการปรับปรุงก่อสร้างบ้านส่วนตัวสามารถทำได้

- เศรษฐกิจเอเชีย: เอสแอนด์พี โกลบอล เรทติ้งส์ (S&P) ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจปีนี้ของหลายประเทศในภูมิภาคเอเชีย รวมถึงอินเดีย 9.5% (จากเดิม 11%) ฟิลิปปินส์ 6% (จาก 7.9%) และมาเลเซีย 4.1% (จาก 6.2%)

+ ธุรกิจท่องเที่ยว: สทท. เผยหากประเทศไทยฉีดวัคซีนได้เกิน 70% และเปิด 10 จังหวัดนำร่อง รวมถึงกทม. ได้ภายใน 120 วัน และประเทศเป้าหมาย รวมทั้งจีนเปิดการเดินทางเข้าประเทศไทยแบบไม่ต้องกักตัว จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาประมาณ 3 ล้านคน และสร้างรายได้ไม่ต่ากว่า 212,000 ล้านบาท

+ USA: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน มิ.ย. ปรับตัวดีสุดตั้งแต่เดือน ก.พ. 2020 และสูงกว่าคาดการณ์ เป็น 127.3 (Vs คาด 119, เดือน พ.ค. 120) ช่วยหนุนตลาดหุ้นสหรัฐฯ

+ Baltic Dry Index (+PSL TTA): ปิดสูงสุดตั้งแต่เดือน มิ.ย. 2010 ที่ 3418 จุด +2.8% เนื่องจากวิตกปัญหาอุปทานสินค้าโภคภัณฑ์ที่มีจำกัด และอุปสงค์โลกที่ปรับสูงขึ้น

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: KCE SYNEX PSL

หุ้นแนะนำเก็งกำไร: DELTA RCL JMART

Derivatives: แนะเปิด Long S50U21 เก็งกำไร หลัง 10:30 น. (ติดตามรายละเอียดเพิ่มใน KTZ-D Report)