‘แสนสิริ’จับมือพันธมิตรเงินดิจิทัล เจาะคนรุ่นใหม่ขยายตลาดอสังหาฯ

 ‘แสนสิริ’จับมือพันธมิตรเงินดิจิทัล  เจาะคนรุ่นใหม่ขยายตลาดอสังหาฯ

ตลาดอสังหาฯ ยังคงแข่งขันกันดุเดือด โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจยังไม่ดีนัก แต่ละรายก็พยายามหาช่องทาง กิจกรรม หรือว่ากลยุทธ์การตลาดที่จะสามารถดึงดูดผู้บริโภคได้มากที่สุด

ทางฝั่งแสนสิริ ล่าสุด โดดเข้าสู่ตลาดสกุลเงินดิจิทัล ที่เห็นว่าได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นและที่สำคัญยังเป็นที่นิยมของคนรุ่นใหม่ ด้วยการเปิดรับคริปโต สำหรับจ่ายเพื่อซื้อบ้าน คอนโด รวมไปถึงจ่ายค่าส่วนกลางได้ทุกโครงการ โดยจะเริ่มต้นอย่างเป็นทางการในเดือน ก.ค. นี้

เศรษฐา ทวีสิน ประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ระบุว่า โครงการนี้เป็นความร่วมมือระหว่าง แสนสิริ กับ 2 พันธมิตรด้านสกุลเงินดิจิทัล คือ “XSpring” และ “Bitazza​” และนี่เป็นครั้งแรกของวงการอสังหาฯ

การตัดสินใจครั้งนี้ เพราะเห็นว่าตลาดคริปโต มีอัตราการเติบโตที่สูง โดยเฉพาะความนิยมในกลุ่มคนรุ่นใหม่ ซึ่งจะเป็นฐานลูกค้าที่สำคัญ

"ความน่าสนใจในตลาดคริปโตคือ มีอัตราการเติบโตที่ก้าวกระโดด โดยล่าสุดมีจำนวนบัญชีผู้ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลในไทย ณ วันที่ 31 พ.ค. 2564 เพิ่มขึ้นล่าสุดถึง 1.16 ล้านบัญชี ทั้งนี้ แสนสิริจะเปิดรับทุกวอลเล็ต ไม่จำกัด และคอนเฟิร์มเรตได้ภายใน 5 นาที ด้วยคริปโตถึง 4 สกุลเงินดิจิทัล ได้แก่ Bitcoin, Ethereum (ETH) , USDC และ USDT ผ่าน Bitazza (บิทาซซ่า) โบรกเกอร์-ดีลเลอร์ที่มีเครือข่ายทั้งในไทยและทั่วโลก เพื่อเป็นทางเลือกและเพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้า"

นอกจากนี้ยังเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้า โดยสามารถเลือกสัดส่วนมูลค่าของการใช้คริปโตในการซื้อที่อยู่อาศัยได้ เช่น ลูกค้าต้องการซื้อคอนโดมิเนียม ราคา 1.29 ล้านบาท สามารถเลือกใช้คริปโตเป็นเงินจอง ส่วนที่เหลือสามารถกู้ซื้อผ่านธนาคารได้ตามความต้องการอีกด้วย ซึ่งเชื่อว่าเป็นแนวทางที่ถูกใจลูกค้าโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ ขณะเดียวกันในด้านสินค้า แสนสิริก็พัฒนาโครงการที่ตอบรับไลฟ์สไตล์กลุ่มคนรุ่นใหม่เช่นกัน เช่น แบรนด์ THE MUVE, XT, สิริ เพลส และอณาสิริ เป็นต้น

ส่วนลูกค้าต่างชาตินั้น ขณะนี้กฎหมายยังไม่เปิดช่องให้ซื้ออสังหาฯ ไทยผ่านคริปโต แต่บริษัทก็เตรียมความพร้อมเต็มที่ และพร้อมลุยทันทีหากภาครัฐไฟเขียว

"ปัจจุบัน ต่างชาติยังซื้ออสังหาฯ ไทยผ่านคริปโตไม่ได้ เนื่องจากยังไม่มีกฎหมายมารองรับ แต่หากภาครัฐไฟเขียว เราก็พร้อมรุกเปิดรับสกุลเงินดิจิทัลในตลาดต่างชาติได้ทันที จากความแข็งแกร่งในตลาดต่างชาติของแสนสิริที่ครองยอดขายอันดับหนึ่ง ด้วยตัวเลขกว่า 14,000 ล้านบาท/ปี ในช่วงที่ผ่านมา พร้อมมีฐานลูกค้าต่างชาติที่พร้อมรองรับอยู่ในมืออยู่แล้ว”

เศรษฐากล่าวว่า ความแข็งแกร่งของแสนสิริในภาคอุตสาหกรรมในฐานะผู้นำที่มีรายได้สูงสุดในตลาดอสังหาฯ 34,707 ล้านบาท ภายใต้การพัฒนาโครงการมูลค่ากว่า 100,000 ล้านบาท และจำนวนดาต้าเบสฐานลูกค้าในมือกว่า 100,000 ราย ทำให้มองเห็นโอกาสเติบโตที่สร้างรายได้เพิ่ม พลิกการเปลี่ยนแปลงของโลกบริการทางการเงินดิจิทัล