บอร์ด ‘ราช กรุ๊ป’ไฟเขียวเพิ่มทุน 769.23ล้านหุ้น

บอร์ด ‘ราช กรุ๊ป’ไฟเขียวเพิ่มทุน 769.23ล้านหุ้น

บอร์ด “ราช กรุ๊ป” ไฟเขียว แจงการเพิ่มทุน จาก 14,500 ล้าน เป็น 22,192.30ล้านบาท โดยการออกหุ้นสามัญที่ออกใหม่ 769.23ล้านหุ้น หุ้นละ10 บาท รวม 7,692.30 ล้านบาทและการออกและเสนอขายหุ้นสามัญที่ออกใหม่ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น โดยไม่จัดสรรให้ผู้ถือหุ้นที่จะทำให้บริษัทฯ มีหน้าที่ตามกฎหมายต่างประเทศ

บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ RATCH แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) ว่า คณะกรรมการบริษัทในการประชุม ครั้งที่ 6/2564 เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2564 ได้มีมติเห็นชอบอนุมัติให้นำเสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น

เพื่อพิจารณาอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัท จาก 14,500,000,000 บาท เป็น 22, 192,307,700 บาท โดยการออกหุ้นสามัญที่ออกใหม่ จำนวน 769,230,770 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท รวม 7,692,307,700 บาท เพื่อออก
และเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นสามัญเดิมของบริษัทฯ ตามสัดส่วนการถือหุ้น โดยไม่จัดสรรให้ผู้ถือหุ้น
ที่จะทำให้บริษัทฯ มีหน้าที่ตามกฎหมายต่างประเทศ (Preferential Public Offering: PPO)
และเพื่อออกและเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) 

พร้อมกันนี้ อนุมัติให้นำเสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น เพื่อพิจารณาอนุมัติการแก้ไขหนังสือบริคณห์สนธิ 
เพื่อให้สอดคล้องกับการเพิ่มทุนจดทะเบียน และ อนุมัติให้นำเสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น เพื่อพิจารณาอนุมัติการจัดสรรหุ้นสามัญที่ออกใหม่ 

โดยพิจารณาอนุมัติการจัดสรรหุ้นสามัญที่ออกใหม่จำนวนไม่เกิน 769,230,770 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้
หุ้นละ 10 บาท เพื่อออกและเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นสามัญเดิมของบริษัทฯ ตามสัดส่วนการถือหุ้น
โดยไม่จัดสรรให้ผู้ถือหุ้นที่จะทำให้บริษัทฯ มีหน้าที่ตามกฎหมายต่างประเทศ Preferential Public Offering: P0) และจัดสรรในอัตราส่วนหุ้นสามัญเดิมไม่ต่ำกว่า 1.885 หุ้น ต่อ 1 หุ้นสามัญที่ออกใหม่ ในกรณีที่มีเศษของหุ้นให้ปัดเศษของหุ้นนั้นทิ้ง และผู้ถือหุ้นสามารถจองซื้อหุ้นสามัญที่ออกใหม่เกินกว่าสิทธิได้ โดยให้จัดสรรหุ้นสามัญที่ออกใหม่ที่ไม่ได้รับการจองซื้อในการจัดสรรครั้งแรกที่เหลือให้แก่ผู้ถือหุ้นที่จองซื้อเกินกว่าสิทธิและชำระราคาค่จองซื้อหุ้นครบถ้วนแล้วทุกราย โดยการจัดสรรหุ้นที่เหลือให้เป็นไปตามสัดส่วนการถือหุ้นเดิมของผู้ถือหุ้นที่จองซื้อเกินกว่าสิทธิแต่ละรายนั้นทุกรอบไป ("การเสนอขายหุ้น PPO")

ในกรณีที่มีหุ้นเหลือจากการจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯ ตามสัดส่วนการถือหุ้นในรอบแรกในจำนวนมากกว่าหรือเท่ากับจำนวนหุ้นที่มีผู้ถือหุ้นเดิมจองซื้อเกินกว่าสิทธิ บริษัทฯ จะจัดสรรหุ้นที่เหลือดังกล่าวให้แก่ผู้ถือหุ้นที่จองซื้อหุ้นเกินกว่าสิทธิตามสัดส่วนการถือหุ้นเดิมและได้ชำระค่าจองซื้อหุ้นครบถ้วนตามจำนวนที่แสดงความจำนงจองซื้อเกินกว่าสิทธิทั้งหมดทุกราย

ในกรณีที่มีหุ้นเหลือจากการจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯ ตามสัดส่วนการถือหุ้นในรอบแรกในจำนวนน้อยกว่าจำนวนหุ้นที่มีผู้ถือหุ้นเดิมจองซื้อเกินกว่าสิทธิ บริษัทฯจะจัดสรรหุ้นที่เหลือดังกล่าวตามขั้นตอนดังต่อไปนี้

1. บริษัทฯ จะจัดสรรหุ้นที่เหลือดังกล่าวโดยนำสัดส่วนการถือหุ้นเดิมของผู้ที่จองซื้อเกินกว่าสิทธิแต่ละรายมาคูณด้วยจำนวนหุ้นที่เหลือ ผลลัพธ์จากการคำนวณ
จะเท่ากับจำนวนหุ้นที่ผู้ที่จองซื้อเกินกว่าสิทธิแต่ละรายมีสิทธิที่จะได้รับจัดสรรในกรณีที่มีเศษของหุ้นให้ปัดเศษของหุ้นนั้นทิ้ง

อย่างไรก็ตาม จำนวนหุ้นที่จะได้รับการจัดสรรจะต้องไม่เกินจำนวนหุ้นที่ผู้ถือหุ้นแต่ละรายได้จองซื้อและชำระราคาค่าจองซื้อครบถ้วนแล้ว

2.ในกรณีที่ยังมีหุ้นคงเหลือหลังจากการจัดสรรตามข้อ 2.1) บริษัทฯ จะจัดสรรหุ้นที่เหลือดังกล่าวให้แก่ผู้ที่จองซื้อเกินกว่าสิทธิแต่ละรายซึ่งยังได้รับการจัดสรรไม่ครบตามสัดส่วนการถือหุ้นเดิมของผู้ที่จองซื้อเกินกว่าสิทธิ โดยนำสัดส่วนการถือหุ้นเดิมของผู้ที่จองซื้อเกินกว่าสิทธิแต่ละรายนั้นมาคูณด้วยจำนวนหุ้นที่คงเหลือนั้นผลลัพธ์จากการคำนวณจะเท่ากับจำนวนหุ้นที่ผู้ที่จองซื้อเกินกว่าสิทธิแต่ละรายมีสิทธิที่จะได้รับจัดสรร ในกรณีที่มีเศษของหุ้นให้ปัดเศษของหุ้นนั้นทิ้ง อย่างไรก็ตามจำนวนหุ้นที่จะได้รับการจัดสรรจะต้องไม่เกินจำนวนหุ้นที่ผู้ถือหุ้นแต่ละรายได้จองซื้อและชำระราคาค่จองซื้อครบถ้วนแล้ว

ทั้งนี้ บริษัทฯ จะจัดสรรหุ้นให้แก่ผู้ที่จองซื้อเกินกว่าสิทธิตามวิธีการในข้อนี้จนกว่าไม่มีหุ้นเหลือจากการจัดสรรกรณีการจองซื้อหุ้นสามัญที่ออกใหม่ในการเสนอขายหุ้น PPO นี้ ส่งผลให้ผู้จองซื้อรายใดถือหุ้น
ถึงหรือข้ามจุดที่กฎหมายกำหนดให้ต้องทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของบริษัทฯ ผู้จองซื้อ
มีหน้าที่ต้องดำเนินการตามกฎหมายและกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง

ทั้งนี้ ราคาเสนอขายของหุ้นสามัญที่ออกใหม่ในการเสนอขายหุ้น PO ("ราคาเสนอขายหุ้น PPO") ให้คำนวณจากราคาถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของหุ้นของบริษัท ในช่วงเวลาตั้งแต่ 7 - 15 วันที่มีการซื้อขายติดต่อกันก่อนหน้าวันที่มีการกำหนดราคาเสนอขายหุ้น PPO ("ราคาดลาด") หักด้วยส่วนลดจำนวนไม่เกินร้อยละ 25 ของราคาดลาด ทั้งนี้ การกำหนดจำนวนส่วนลดดังกล่าวขึ้นอยู่กับสภาวะตลาดและปัจจัยอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องตามที่บริษัทฯ พิจารณาเห็นสมควร

โดยจะมีมูลค่าของการเสนอขายหุ้น PPO รวมทั้งสิ้นประมาณ 30,000,000,000 บาท และบริษัทฯ จะประกาศราคาเสนอขายหุ้น PPO ดังกล่าว พร้อมทั้งอัตราส่วนการเสนอขายสำหรับการเสนอขายหุ้น PPO
(กล่าวคือ อัตราส่วนหุ้นสามัญเดิมต่อหุ้นสามัญที่ออกใหม่) ก่อนหน้าวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับการเสนอขายหุ้นสามัญที่ออกใหม่ในการเสนอขายหุ้น PPO (Record Date)