ขึ้นต่อ (19 พ.ค.64)

ขึ้นต่อ (19 พ.ค.64)

เก็งกำไร RBF MINT TTA

คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้

คาดดัชนีฯ ขึ้นต่อ แนวรับ 1555 / 1550 จุด แนวต้าน 1578 / 1585 จุด แนะนำ เก็งกำไร RBF MINT TTA ทางเทคนิคเริ่มมีสัญญาณซื้อ โดยมีแนวต้านที่ 1580 / 1593 จุด ปัจจัยที่ต้องติดตามวันนี้ คือ 1. FOMC Minute คาดส่งผลบวกต่อตลาดหุ้นโลก หากเฟดส่งสัญญาณไม่เร่งคุมเข้มนโยบายการเงิน และไม่วิตกต่อเงินเฟ้อที่เร่งสูงขึ้น 2. การเริ่มเปิดประเทศของกลุ่มอียู จะช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวของการค้าโลกและกลุ่มอิงท่องเที่ยว (+MINT) 3. อย. ส่งใบอนุญาตนำเข้าเมล็ดพันธุ์กัญชงให้บริษัทที่ได้รับอนุญาตแล้ว เป็นโมเมนตัมบวกต่อหุ้นที่เชื่อมโยงกับกัญชง (DOD GUNKUL ICHI JKN FN RBF) 4. NSL เข้าซื้อขายหมวดอาหารและเครื่องดื่ม IPO ที่ราคา 12 บาท

ประเด็นอื่น ๆ ที่ต้องติดตาม

      - รายละเอียด FOMC Minute คืนนี้ คาดส่งสัญญาณว่า เฟดไม่เร่งส่งสัญญาณ ผ่อนคลายการเงิน และเงินเฟ้อที่เร่งขึ้นคาดเป็นชั่วคราว ส่งผลค่าเงิน USD อ่อนค่าต่ำสุดรอบกว่า 4 เดือน (+ตลาดหุ้นโลก)

      - หุ้นกลุ่มกัญชงคาดว่าจะกลับมาคึกคัก หลังอย. เริ่มทยอยส่งใบอนุญาตนำเข้าเมล็ดพันธุ์กัญชงให้กับผู้ได้รับอนุญาตแล้ว คาดเริ่มนำเข้าตั้งแต่เดือน มิ.ย. เป็นต้นไป (+DOD)

      - ประเทศสมาชิกอียู เช่น เยอรมนี อิตาลี เนเธอร์แลนด์ UK ทยอยเปิดประเทศและคาดว่าประเทศที่เหลือจะเปิดเดือน มิ.ย. (+MINT +Reopening Theme)

      - เงินเฟ้อยุโรปเดือน เม.ย. คาดเร่งขึ้น YoY ส่งผลให้ ECB Meeting ประชุมเดือน มิ.ย. มีโอกาสลดปริมาณการทำ QE ลง จากค่าเฉลี่ยปกติ

ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้ USA-FOMC Minute / Japan-Industrial Production เดือน มี.ค. คาด +2.2% MoM (Vs เดือน ก.พ. -1.3% MoM) / UK-Inflation Rate เดือน เม.ย. คาด +1.5% YoY (Vs เดือน มี.ค. 0.7% YoY) / EU-Inflation Rate คาด +1.6% YoY (Vs +1.3% YoY) / Canada-Inflation Rate เดือน เม.ย. คาด 3.2% YoY (Vs เดือน มี.ค. 2.2% YoY) / USA-สุนทรพจน์ไบเดน ที่รัฐคอนเนคติกัต, รัฐนิวยอร์กผ่อนคลายเกณฑ์คุมเข้ม จาก COVID-19 / Earnings-TJX, Lowe

Global Market Summary: วันทำการที่ผ่านมา

+ ตลาดหุ้นไทยกลับมาปิดบวก: ตลาดหุ้นไทยยืนในแดนบวกตลอดการซื้อขายกรอบ 1558.85-1570.37 จุด ก่อนมาปิดตลาดที่ 1566.80 จุด +17.64 จุด วอลุ่ม 9.82 หมื่นล้านบาท นำขึ้นโดยกลุ่มบริการรับเหมาก่อสร้าง +6.08% สื่อและสิ่งพิมพ์ +2.2% ขนส่งและโลจิสติกส์ +1.58% ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ +1.53% หุ้นบวก >4% ITD RCL MINT CK TTA NWR HANA BROOK 7UP JWD SABUY BCP VL-W1 AS JMART JMT PSL NRF DIMET SCI CHO PLE หุ้นลบ >4% TRT WINMED SKE SE PRIN

- ตลาดหุ้นโลกส่วนใหญ่ปิดลบ: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบต่อเนื่อง DJ -0.78% (-267.13 จุด) S&P500 -0.85% Nasdaq -0.56% ผิดหวังตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านใหม่ (เดือน เม.ย. -9.5% MoM เป็น 1.569 ล้านยูนิต Vs คาด 1.71 ล้านยูนิต) จากการพุ่งขึ้นของวัสดุในการสร้างบ้าน และการร่วงลงของหุ้น AT&T -5.8% เพราะปรับลดการจ่าย เงินปันผล ส่วนตลาดหุ้นยุโรปปิดคละ DAX -0.07% CAC40 -0.21% FTSE +0.02% ปัจจัยบวกมาจากการเริ่มทยอยเปิดประเทศ และรายงานกำไรของบจ. ที่ดีขึ้น

+/- ราคาน้ำมันดิบปิดลบ แต่ทองปิดขึ้นเล็กน้อย: ราคาน้ำมันดิบกลับมาปิดลบ WTI -USD0.78 ปิดที่ USD65.49/บาร์เรล Brent -USD0.75 ปิดที่ USD68.71/บาร์เรล กังวลอุปทานน้ำมันดิบโลกเพิ่มขึ้น หากอิหร่านกลับมาส่งออกอีกครั้ง ส่วนราคาทองคำขยับขึ้นเล็กน้อย +USD0.40 ปิดที่ USD1,868/ออนซ์ จากค่าเงิน USD อ่อนค่า

ประเด็นสำคัญ

+ FOMC Minute: เราคาดว่าหลังการประชุม อาจทำให้ค่าเงิน USD อ่อนตัวมากขึ้น (วานนี้แตะระดับต่าสุดรอบ 4 เดือน ที่ระดับ 89.7 ในตะกร้า Dollar Index) เนื่องจากธนาคารกลางยังคงลังเลที่จะปรับแนวทางล่วงหน้าสำหรับนโยบายการเงิน (+ตลาดหุ้นเอเชีย จากแนวโน้ม QE Tapering จะยังคงไม่เกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้)

+ 1Q21 Earnings: Global Earnings Revision อยู่ที่ 1.39 โดยเหนือกว่าระดับ 1 เท่า ต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 32 นาโดยหุ้นกลุ่ม Cyclicals ที่ปรับตัวขึ้นได้ดีในช่วย Upturn ของเศรษฐกิจโลก

+/- ผลประชุมครม.: มีมติเห็นชอบข้อเสนอของกระทรวงแรงงาน ให้ลดอัตราเงินสมทบนายจ้างและผู้ประกันตนมาตรา 33 จากเดิมฝ่ายละ 5% เหลือฝ่ายละ 2.5%

+ EU/US: สหรัฐฯ และอียู เห็นชอบระงับการเก็บภาษีสินค้านำเข้าเหล็กชั่วคราว ทั้งนี้ ประธานาธิบดีไบเดนจะเดินทางไปเยือนอียูช่วงกลางเดือน มิ.ย. เพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์

- USA: Housing Starts เดือน เม.ย. ลดลงและต่ำกว่าคาดเป็น -9.5% MoM (Vs คาด -2.8% MoM และเดือน มี.ค. +19.8% MoM) ส่งผลลบต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯ

+ ธุรกิจเหล็ก: 7 สมาคมเหล็ก ยื่น 5 แนวทางบรรเทาผลกระทบจากราคาสินเหล็กที่มีต่อผู้ใช้ให้นายกฯ พิจารณา

+/- NSL (TP Bt14.40): เข้าซื้อขายวันแรกหมวดอาหารและเครื่องดื่ม ราคาจอง 12 บาท จานวน 75 ล้านหุ้น เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายเบเกอรี่ฯ ในร้านสะดวกซื้อ 7-11 คาดกำไร 3 ปีเติบโตเฉลี่ย 22%

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: AH DOHOME KCE

หุ้นแนะนำเก็งกำไร: RBF MINT TTA

Derivatives: ปิดสถานะ Short ออกไปก่อนและรอประเมินภาพทางเทคนิค (ติดตามรายละเอียดเพิ่มใน KTZ-D Report)