'เอเชียกรีน'บริหารท่าเรือ-โกดังเพิ่ม หนุนรายได้โลจิสติกส์ 1 พันล้าน

'เอเชียกรีน'บริหารท่าเรือ-โกดังเพิ่ม หนุนรายได้โลจิสติกส์ 1 พันล้าน

เอเชียกรีน ลุ้นรายได้จากโลจิสติกส์ปีนี้เข้าเป้า 1 พันล้านบาท หลังรับโอนสิทธิ์เช่าศูนย์ธุรกิจการเกษตรบริหารท่าเรือเพิ่ม 3 แห่ง และโกดังสินค้าอีก 5 หลัง

บมจ. เอเชีย กรีน เอนเนอจี (AGE) เดินหน้าขยายอาณาจักรโลจิสติกส์ ล่าสุดบริษัท เอจีอี พอร์ตเซอร์วิส จำกัด (บริษัทร่วมทุน) ทำบันทึกข้อตกลงกับชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด รับโอนสิทธิการเช่าศูนย์ธุรกิจเกษตร ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด จาก บริษัท สุวรรณเกลียวทอง ท่าเรือ คลังสินค้า จำกัด เพื่อเร่งต่อยอดธุรกิจโลจิสติกส์ส่งผลให้มีจำนวนท่าเรือ เพิ่ม 3 ท่า โกดังสินค้าเพิ่มอีก 5 หลัง บนพื้นที่ขนาด 31 ไร่ เดินเกมรุกธุรกิจบริการท่าเรือ โกดังสินค้า แบบครบวงจร ส่อแววปั้มรายได้โลโจติกส์เข้ากระเป๋าตามเป้าปีนี้ที่ 1,000 ล้านบาท

นายพนม ควรสถาพร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอเชีย กรีน เอนเนอจี จำกัด (มหาชน) หรือ AGE ผู้จัดจำหน่ายถ่านหินบิทูมินัส (ถ่านหินสะอาด) และผู้ให้บริการด้าน โลจิสติกส์ (ขนส่งทางน้ำ – ขนส่งทางบก – ท่าเรือ – คลังสินค้า) แบบครบวงจร เปิดเผยว่า บริษัท เอจีอี เทอร์มินอล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ AGE ได้ร่วมทุนกับ บริษัท สุวรรณเกลียวทอง จำกัด จัดตั้งบริษัทร่วมทุนชื่อ บริษัท เอจีอี พอร์ตเซอร์วิส จำกัด โดยมีทุนจดทะเบียน 90 ล้านบาท เพื่อเข้าทำสัญญาเช่าศูนย์ธุรกิจการเกษตรจากชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย ซึ่งประกอบด้วย ท่าเรือ 3 ท่า และโกดังสินค้า 5 หลัง บนพื้นที่ทั้งหมด 31 ไร่ ที่อำเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา แทนบริษัท สุวรรณเกลียวทอง จำกัด โดยมีระยะเวลาการเช่า 3 ปี และดำเนินการต่ออายุการเช่าไปอีก 3 ปี ซึ่งภายหลังการดำเนินการแล้วเสร็จ  บริษัท เอจีอี พอร์ตเซอร์วิส จำกัด จะสามารถรับรู้รายได้เข้ามาทันที

นายพนม  กล่าวเพิ่มเติมว่า “ จากแผนการลงทุนแบบเชิงรุกในครั้งนี้จะทำให้ ธุรกิจโลจิสติกส์ของเอจีอี สามารถรองรับปริมาณการขนส่งผ่านท่าเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 7 ล้านตันต่อปี จากปัจจุบันที่มีการขนส่งผ่านท่าอยู่ที่ประมาณ 3 ล้านตันต่อปี โดยจำนวนท่าเรือของ AGE จะเพิ่มจาก 3 ท่า เป็น 6 ท่า ซึ่งจะสามารถขยายฐานลูกค้าด้านการขนส่งสินค้าได้เพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นประเภทสินค้าเกษตร ปูนซีเมนต์ วัสดุก่อสร้าง ปุ๋ย และแร่เหล็ก และมีพื้นที่ให้บริการเก็บสินค้าในโกดังเพิ่มมาอีกด้วย”

โดยเอจีอีมองว่าแผนการขยายธุรกิจโลจิสติกส์แบบเชิงรุกในปีนี้ จากการขยายท่าเรือ เพิ่ม 3 ท่า และโกดังสินค้า 5 หลัง รวมถึงแผนการลงทุนรถบรรทุกเพิ่มเติมอีก 50 คัน จะส่งผลให้เอจีอีสามารถบรรลุเป้ารายได้จากธุรกิจโลจิสติกส์ที่ตั้งไว้ในปีนี้ที่ระดับ 1,000 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นการขยายตัวอย่างโดดเด่น