TACC - ซื้อ (7 พ.ค.64)

TACC - ซื้อ (7 พ.ค.64)

รายได้ 1Q64 ถูกกดดันจากโควิด-19 รอบใหม่ แต่คาดกำไรยังคงเติบโต YoY จากมาร์จิ้นที่ดีขึ้น

ประเด็นสำคัญในการลงทุน

·     คาดกำไรงวด 1Q64 เติบโต 17%YoY เป็นผลจาก %GPM ที่ดีขึ้น เราคาดรายได้งวด 1Q64 ยังคงได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 รอบใหม่ ทำให้ Traffic การเข้าร้าน 7-Eleven ชะลอลง ประกอบกับไตรมาส 1 เป็นช่วง Low Season อย่างไรก็ดี รายได้ส่วนหนึ่งที่หายไปได้รับการชดเชยจากธุรกิจ All Café ในการปรับเพิ่มขนาดแก้ว จาก 16 oz เป็น 22 oz  (เพิ่มราคาจาก 35-40 เป็น 45-50 บาทต่อแก้ว) ส่งผลให้เราคาดรายได้งวด 1Q64 ราว 316.1 ลบ. หดตัว 4%YoY และ 1%QoQ อย่างไรก็ตาม เราคาด %GPM ยังคงทรงตัวในระดับสูงที่ 35% +150bps YoY เป็นผลดีต่อเนื่องจากปีก่อนจากการควบคุมประสิทธิภาพต้นทุน และ Product Mix ส่งผลให้เราคาดกำไรสุทธิงวด 1Q64 ราว 49.7 ลบ. เติบโต 17%YoY แต่หดตัว 3%QoQ

·     คงคาดกำไรทั้งปี 64 ราว 225 ลบ. เติบโต 19%YoY ตามเดิม เราคาดรายได้ปี 64 ราว 1,512 ลบ. +15%YoY แม้ถูกกดดันจากสถานการณ์โควิด-19 รอบใหม่ภายในประเทศ แต่คาดรายได้ยังคงเติบโตจาก 3 ส่วนหลัก คือ 1) การขยายสาขาของ 7-Eleven ปีละ 700 สาขา 2) การปรับเพิ่มขนาดไซส์แก้ว 16 oz เป็น 22 oz และ 3) การทยอยเปิดให้บริการใน Lotus’s ผ่าน Food Court และร้านกาแฟ ARABITIA ส่วนธุรกิจ Character Business มีแนวโน้มเติบโตดี มีงานใหญ่หลาย Events ในช่วง 2H64 และทยอยรับรู้งานที่เลื่อนมาจากปีก่อน ส่วน %GPM คาดเติบโตเด่นสู่ระดับ 35% จากปีก่อนอยู่ที่ระดับ 33.9% จากการควบคุมประสิทธิภาพต้นทุน และ Product Mix ส่งผลให้เรายังคงคาดกำไรสุทธิปี 64 ราว 224.7 ลบ. +19%YoY ตามเดิม

·     มีอัพไซต์จากธุรกิจกัญชาและกัญชง แต่ต้องรอความชัดเจนช่วง 2H64 TACC ร่วมลงทุนกับบริษัท ไทยคานาเทค อินโนเวชั่น จำกัด (TCI) ในสัดส่วน 30% หรือมูลค่าราว 30 ลบ. ซึ่ง TCI มีความร่วมมือ (MOA) กับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนครในการทำผลิตภัณฑ์กัญชาทางการแพทย์และกัญชงทั้งต้นน้ำถึงปลายน้ำ ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ Health and Wellness ที่ใช้สาร CBD เป็นส่วนประกอบ อย่างไรก็ดี การขายเชิงพาณิชย์สำหรับผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจะต้องรอความชัดเจนของกฎหมายและการอนุมัติจาก อย. อีกครั้งในช่วง 2H64 ซึ่งจะเป็นอัพไซต์จากประมาณการในปี 64-65

·     คงคำแนะนำ ซื้อ ปรับราคาเหมาะสมขึ้นสู่ 8.60 บาท

เราประเมินราคาเหมาะสม TACC ด้วยวิธี Prospective PER ที่ระดับ 23.2x ณ ระดับค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปี (ปรับเพิ่มจากเดิมที่ระดับ 20.2x) แต่ยังคงต่ำกว่า PE ของอุตสาหกรรมเครื่องดื่มที่ซื้อขายที่ระดับราว 27x เราคงประมาณการกำไรสุทธิต่อหุ้นในปี 64 ราว 0.37 บาทต่อหุ้น คำนวณเป็นราคาเหมาะสมปี 64 ราว 8.60 บาทต่อหุ้น (ปรับราคาเหมาะสมเพิ่มขึ้นจากเดิมที่ 7.50 บาท) ซึ่งมีอัพไซต์จากราคาปัจจุบันจึงคงคำแนะนำซื้อ

ความเสี่ยง

1) การแข่งขันของอุตสาหกรรมเครื่องดื่มที่รุนแรง

2) รายได้กว่า 90% พึ่งพาร้าน 7-Eleven

3) สัญญา San-x (Character Business) สิ้นสุดปี 2567 (เดิมสิ้นสุดปี 2565)