GFPT - ถือ

GFPT - ถือ

แนวโน้มอ่อนแอ

เราคาดกำไร 1Q20F จะลดลง 65% yoy เหลือ 114 ลบ. เนื่องจาก (1) รายได้การขายที่ลดลงตามราคาไก่เนื้อในประเทศที่อ่อนแอลง และปริมาณส่งออกลดลง, (2) อัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลง, (3) สัดส่วนต้นทุนบริหาร (SG&A) ต่อยอดขายที่สูงขึ้น และ (4) ส่วนแบ่งกำไรจากกิจการร่วมค้าลดลง (GFN และ McKey) มองแนวโน้มเชิงลบสำหรับ 2Q21 จากต้นทุนอาหารสัตว์ที่สูงขึ้น เราคงคำแนะนำ ถือ กำหนดราคาเป้าหมายใหม่ 12.0 บาทต่อหุ้น (จาก 13.4 บาท)

 

 

คาดกำไร 1Q21F ลดลง 65% yoy

เราคาดกำไรสุทธิ 1Q ที่ 114 ลบ. (-65% yoy, -75% qoq) เป็นผลมาจาก (1) รายได้การขายลดลง 10% ตามราคาไก่เนื้อในประเทศอ่อนแอลงและปริมาณส่งออกลดลง, (2) อัตรากำไรขั้นต้น, (3) สัดส่วนต้นทุนบริหาร (SG&A) ต่อยอดขายสูงขึ้น รวมถึง (4) ส่วนแบ่งกำไรจาก GFN และ McKey ลดลง เราคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้น 1Q21F ลดลงสู่ 11.5% เทียบกับ 14.7% ใน 1Q20 และ 13.6% ใน 4Q20 เนื่องจากต้นทุนอาหารสัตว์ที่สูงขึ้น โดยเฉพาะกากถั่วเหลือง ขณะที่สัดส่วน SG&A ต่อยอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 10.5% จาก 9.0% ใน 1Q20 และ 9.3% ใน 4Q20 เนื่องจากค่าขนส่งที่สูงขึ้น

 

แนวโน้มเชิงลบใน 2Q21

ใน 1Q21 ต้นทุนกากถั่วเหลืองเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเป็น 18.95บาท/กก. หรือเพิ่มขึ้น 39%yoy และต้นทุนข้าวโพดเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเป็น 9.37 บาท/กก. หรือเพิ่มขึ้น 9%yoy ขณะที่บริษัทมีอาหารสัตว์ในสินค้าคงคลังพอใช้เป็นเวลา 3-4 เดือน ดังนั้นต้นทุนอาหารสัตว์ที่สูงขึ้นใน 1Q21 จะกระทบกำไรใน 2Q21 นอกจากนี้ข้อจำกัดจากการปิดเมืองรอบล่าสุดจะกระทบการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศไทยและเศรษฐกิจของประเทศลูกค้า และลดความต้องการเนื้อไก่ลง

 

คงคำแนะนำ ถือ พร้อมราคาเป้าหมายใหม่ 12.0 บาทต่อหุ้น (จาก 13.4 บาท)

เราปรับลดประมาณการกำไรปี FY21F และ FY22F ลง 11% และ 5% สู่ 1.07 พันลบ. และ 1.23 พันลบ. ตามลำดับ จากการปรับสมมติฐานราคาไก่เนื้อเฉลี่ยและต้นทุนอาหารสัตว์ ส่งผลให้สมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นลดลงจาก 14.5% สู่ 13.5% ใน FY21F และ 14.0% ใน FY22F คงคำแนะนำ ถือ พร้อมราคาเป้าหมายใหม่ 12บาท จาก 13.4 บาท เทียบเท่า 14x FY21F EPS