พัฒนาคน EEC ด้วยวิธี  การศึกษาฐานสมรรถนะ

ช่วงนี้ต้องยอมรับจริงๆ ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 กระทบคนในวงกว้าง จากที่คิดว่าการระบาดจะลดน้อยลง การควบคุมโรคทำได้มากขึ้น และการฉีดวัคซีนป้องกันเป็นไปอย่างทั่วถึงและรวดเร็ว

ช่วงนี้ต้องยอมรับจริงๆ ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 กระทบคนในวงกว้าง จากที่คิดว่าการระบาดจะลดน้อยลง การควบคุมโรคทำได้มากขึ้น และการฉีดวัคซีนป้องกันเป็นไปอย่างทั่วถึงและรวดเร็ว กลับกลายเป็นว่าเกิดการระบาดระลอก 3 ขึ้นมาอย่างรวดเร็วและกระจายมากขึ้น ทำให้ต้องใช้มาตรการควบคุมการเดินทางและจำกัดกิจกรรมทางสังคมและเศรษฐกิจต่างๆ ผลกระทบของการแพร่ระบาดที่เกิดขึ้นมีหลากหลาย หนึ่งในนั้นคือเรื่องการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ลดน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด

การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้เกิดสภาวการณ์ใหม่ขึ้นมา ตอนแรกเข้าใจว่าชีวิตมีวิถีปกติหรือ normal เมื่อเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสทำให้เกิดวิถีปกติใหม่หรือ new normal ซึ่งผู้คนก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับวิถีชีวิตแบบใหม่นี้ และคิดว่านี่คงเป็นวิถีชีวิตที่จะเป็นไปอย่างเป็นปกติ แต่เมื่อเกิดการแพร่ระบาดระลอกสองระลอกสามทำให้เห็นว่าวิถีชีวิตที่คิดว่าเป็นปกติแบบใดๆ อาจไม่เป็นเช่นนั้น เรียกว่าเป็นวิถีชีวิตที่จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป หรือ never normal พูดง่ายๆ คือถ้าถามว่าอะไรเป็นความปกติในปัจจุบันคงตอบยาก เพราะสิ่งต่างๆ แปรเปลี่ยนพลิกผันได้ตลอดเวลา

Never normal นำมาซึ่งคำถามในการพัฒนาคนว่า สมรรถนะสำคัญอะไรที่กำลังคนพึงมี? และวิธีการแบบไหนที่เหมาะสมในการเตรียมคนให้มีสมรรถนะนั้น?

แน่นอนว่าสำหรับ อีอีซี สมรรถนะที่พึงประสงค์ของความต้องการจ้างงานในอุตสาหกรรมเป้าหมายมีความสำคัญอย่างยิ่ง แต่นอกเหนือจากนั้น สมรรรถนะการปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน เพราะโลกกำลังบังคับและต้องการคนที่สามารถปรับตัว เปลี่ยนแปลง และยืดหยุ่นในการเรียนรู้ การทำงาน และการใช้ชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

วิธีการใดเล่าที่จะช่วยพัฒนาคุณลักษณะเหล่านี้ให้เกิดขึ้นในทรัพยากรมนุษย์ได้ ในมุมมองของผู้เขียน เห็นว่าการศึกษาฐานสมรรถนะ (competency-based education) เป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ จะเห็นว่าคุณลักษณะที่กล่าวไปข้างต้นไม่ได้ต้องการแค่ความรู้เท่านั้น แต่ยังต้องการความเข้าใจ ทัศนคติ และทักษะที่หลากหลาย ที่สามารถนำไปใช้เผชิญกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงได้ การศึกษาฐานสมรรถนะเน้นสร้างสมรรถนะของผู้เรียนให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม กล่าวโดยย่อคือ พัฒนาให้คนเข้าใจ คิดได้ ทำเป็น ใช้เป็น ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการด้านคุณลักษณะของกำลังคนในยุคนี้

ปัจจุบันหน่วยงานที่รับผิดชอบทางด้านการศึกษาของประเทศไทยมีความตื่นตัวอย่างมากในการขับเคลื่อนการศึกษาฐานสมรรถนะ โดยมีการดำเนินงานในการปรับหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานเป็นการศึกษาฐานสมรรถนะ และมีการทดลองใช้การจัดการศึกษาฐานสมรรถนะในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา (Education Sandbox) ที่กำหนดขึ้นตามพระราชบัญญัติพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา พ.ศ. 2562 เพื่อเป้าหมายในการพัฒนาคุณภาพและประสิทธิภาพการจัดการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ซึ่งใน อีอีซี เองก็มีจังหวัดที่เข้าร่วมพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา คือ จ.ระยอง ซึ่งมีการดำเนินการพัฒนาหลักสูตรการศึกษาฐานสมรรถนะเพื่อใช้ในการจัดการศึกษาให้เป็นการศึกษาฐานสมรรถนะ

นอกเหนือจากพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาแล้ว จังหวัดอื่นก็สามารถการจัดการศึกษาฐานสมรรถนะได้เช่นเดียวกัน จังหวัดอื่นใน อีอีซี ทั้งชลบุรีและฉะเชิงเทรา

จริงๆ แล้ว อีอีซี เองก็มีแผนในการดำเนินงานพัฒนาหลักสูตรอาชีวศึกษาฐานสมรรถนะ ซึ่งถือว่าเป็นยุทธวิธีที่ดีในการดำเนินงาน และจะดียิ่งขึ้นหากการศึกษาฐานสมรรถนะขยายครอบคลุมไปยังการศึกษาระดับอื่นอย่างทั่วถึง เชื่อว่าการศึกษาฐานสมรรถนะจะสร้างการเปลี่ยนแปลงในการพัฒนาคนได้เป็นอย่างดี