SVI - ถือ

Event

เราคาดว่ากำไรสุทธิของ SVI ใน 1Q64 จะอยู่ที่ 90 ล้านบาท (-60% YoY, -12% QoQ) คิดเป็น 17% ของประมาณการกำไรปีนี้ของเรา โดยเราคาดว่ากำไรจะลดลงทั้ง YoY และ QoQ เพราะอัตรากำไรขั้นต้นถูกบีบโดยค่าเงินบาทที่แข็งขึ้น

Impact

ยอดขายถูกกดดันจากปัญหาขาดแคลน chip

เราคาดว่ายอดขายของ SVI ใน 1Q64 จะอยู่ที่ 3.2 พันล้านบาท (+0.2% YoY, -13% QoQ) แต่หากไม่รวมผลจากอัตราแลกเปลี่ยน เราคาดว่ายอดขายใน 1Q64 จะอยู่ที่ 107 ล้านดอลลาร์ฯ (+4% YoY, -11%QoQ) คิดเป็น 20% ของประมาณการยอดขายปีนี้ของเราที่ 548 ล้านดอลลาร์ฯ และ 18% ของเป้าปีนี้ของบริษัทที่ 600 ล้านดอลลาร์ เราคิดว่ายอดขายที่เพิ่มขึ้น YoY จะเป็นเพราะฐานที่ต่ำใน 1Q63 ซึ่งมีการ lockdown ประเทศจีนเพื่อคุม COVID-19 ในขณะที่ยอดขายที่ลดลง QoQ จะเป็นเพราะปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิต

คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะอยู่ที่ 8.1%

เราคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นใน 1Q64 จะอยู่ที่ 8.1% (-0.9ppts YoY, ทรงตัว QoQ) เนื่องจากเงินบาทแข็งค่าขึ้น (เราใช้สมมติฐานปี 2564 ที่ 8.3%) อัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ยใน 1Q64 อยู่ที่ 30.20 บาท/ดอลลาร์ฯ(จาก 31.20 บาท/ดอลลาร์ฯ ใน 1Q63 และ 30.90 บาท/ดอลลาร์ฯ ใน 4Q63) ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าอัตรากำไรขั้นต้นปีนี้ไว้ที่ประมาณ 8% เราคาดว่า SVI จะไม่มีค่าใช้จ่ายพิเศษในไตรมาสนี้ ทำให้สัดส่วน SG&A ต่อยอดขายอยู่ที่ 4.7% (จาก 5.9% ใน 1Q63 ซึ่งมีค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว อย่างเช่น ค่า software และผลประโยชน์พนักงาน)

Valuation & Action

ถึงแม้ว่าสมมติฐานยอดขายปีนี้ของเราจะต่ำกว่าเป้าของบริษัท แต่สมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นของเราสูกว่าเป้าของบริษัท เราเชื่อว่า SVI จะได้อานิสงส์จากวัฏจักรขาขึ้นของอุตสาหกรรม และประเมินมูลค่าหุ้นโดยใช้ PER แบบมี premium ที่ 17.0x (ค่าเฉลี่ยในอดีตของ Hana Microelectronic (HANA.BK/HANA TB) +1.0 S.D.) ทำให้ได้ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2565 ที่ 5.00 บาท ทั้งนี้ เนื่องจากราคาปิดล่าสุดไม่เหลือ upside ถึงราคาเป้าหมายของเราแล้ว ในขณะที่ผลประกอบการในไตรมาสแรกก็ไม่น่าตื่นเต้น ดังนั้น เราจึงยังคงคำแนะนำ "ถือ"

Risks

ภัยธรรมชาติ, มีการปิดโรงงานนอกแผน, ลูกค้าเปลี่ยนไปสั่งสินค้าจาก supplier รายอื่น, ขาดแคลนวัตถุดิบ, เงินบาทแข็งค่าขึ้น (เราใช้สมมติฐานอัตราแลกเปลี่ยนปี 2564-65 ที่ 29.50 บาท/ดอลลาร์ฯ) และความล่าช้าในกระบวนการทดสอบสินค้า