‘เงินบาท’วันนี้เปิด’อ่อนค่า’ที่30.89บาทต่อดอลลาร์

ตลาดการเงินเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์สหรัฐที่ปรับตัวขึ้นกดดันเงินบาทอ่อนค่าต่อเนื่อง โดยฝั่งนักลงทุนต่างชาติทยอยขายบอนด์ไทยต่อ และในระยะสั้นถ้าตลาดหุ้นเอเชียไม่ฟื้นตัว ยังไม่มีปัจจัยใหม่ทำให้เงินบาทแข็งค่ากลับได้
นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ หัวหน้าทีมกลยุทธ์การลงทุน EASY INVEST บริษัทหลักทรัพย์(บล.) ไทยพาณิชย์ หรือSCBS เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดเช้าวันนี้ที่ 30.89 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าจากช่วงปิดสิ้นวันทำการก่อนที่ 30.82 บาทต่อดอลลาร์ ประเมินกรอบเงินบาทระหว่างวัน 30.75-30.95 บาทต่อดอลลาร์
ตลาดการเงินฝั่งตะวันตกเคลื่อนไหวบวกสลับลบในช่วงคืนที่ผ่านมา ดัชนี S&P 500 ของสหรัฐปรับตัวลง 1.48% นำโดยหุ้นกุลเทคโนโลยีที่ถูกขายทำกำไรต่อเนื่องหลังบอนด์ยีลด์สหรัฐเร่งตัวขึ้น สวนทางกับฝั่งยุโรปที่ดัชนี STOXX 600 ของยุโรปปิดบวก 0.39% จากแรงหนุนของหุ้นเยอรมันและหุ้นกลุ่มธนาคาร ที่คาดว่าน่าจะได้รับประโยชน์มากที่สุดในช่วงที่บอนด์ยีลด์พลิกเป็นขาขึ้น
ขณะเดียวกัน การปรับตัวขึ้นถึง 8.5bps ของบอนด์ยีลด์สหรัฐอายุสิบปีจนมาจบที่ระดับ 1.73% ในตอนนี้ ก็หนุนให้ยีลด์อายุสามสิบปี ซึ่งถือเป็นตัวชี้วัดการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ ปรับตัวขึ้นเหนือระดับ 2.50% เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปี 2019 เงินดอลลาร์จึงแข็งค่า 0.2% เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักโดยมีดอลลาร์นิวซีแลนด์ (NZD) อ่อนค่า 0.7% มากที่สุดในกลุ่ม G10 ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลงมาที่ 59.6 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลหลังตลาดกังวลเรื่องปริมาณการบริโภคเมื่อสต๊อกน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นต่อ
ส่วนฝั่งเงินบาท ระยะสั้นมีแรงซื้อดอลลาร์จากทั้งสถาบันการเงินในประเทศ และผู้นำเข้า เนื่องจากกังวลว่าเงินบาทจะอ่อนไปมากกว่านี้
ขณะที่ผู้ส่งออกไม่รีบร้อนขายดอลลาร์เพราะมองว่าต้องเห็นเงินบาทขึ้นไปทดสอบระดับ 31.0 บาทต่อดอลลาร์ ส่วนในวันนี้ คาดว่าเงินบาทจะโดนกดดันต่อเนื่องจากทิศทางของเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์สหรัฐที่ปรับตัวขึ้น ทำให้นักลงทุนต่างชาติทยอยขายบอนด์ไทยต่อ ในระยะสั้นถ้าตลาดหุ้นเอเชียไม่ฟื้นตัว ก็แทบไม่มีข่าวดีที่จะทำให้เงินบาทแข็งค่ากลับได้
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักวิเคราะห์ประจำห้องค้าเงินธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า แนวโน้มค่าเงินบาท เรามองว่า เงินบาทมีโอกาสผันผวนตามการเคลื่อนไหวของเงินดอลลาร์ โดยต้องจับตาทิศทางเงินทุนเคลื่อนย้าย หรือ ฟันด์โฟลว์ของนักลงทุนต่างชาติในระยะสั้น โดยเฉพาะ ฟันด์โฟลว์ในฝั่งหุ้น ที่อาจจะผันผวนได้ หลังราคาน้ำมันดิบดิ่งลงหนักและอาจกดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน ซึ่งเป็นกลุ่มที่ช่วยหนุนการปรับตัวขึ้นของดัชนีตลาดหุ้นไทยในช่วงที่ผ่านมา
นอกจากนี้ หากยีลด์ 10ปี ไทยปรับตัวขึ้นแรง ก็อาจทำให้มีแรงขายบอนด์จากนักลงทุนต่างชาติ เพิ่มขึ้น กดดันให้ เงินบาทอ่อนค่าลงได้ จากฟันด์โฟลว์ไหลออกจากทั้งฝั่งหุ้นและบอนด์
ทั้งนี้ เรามองว่า เงินบาทอาจชะลอการอ่อนค่าลง หากอ่อนค่าใกล้ระดับ 30.90 บาทต่อดอลลาร์ เพราะฝั่งผู้ส่งออกต่างก็รอขายเงินดอลลาร์ที่ระดับดังกล่าว (แต่เริ่มมีคนขายน้อยลง) ขณะเดียวกัน ธนาคารแห่งประเทศไทยก็อาจเข้ามาช่วยลดความผันผวนของค่าเงินบาทบ้าง ซึ่งอาจจะสะท้อนผ่านการลดลงของเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ (Foreign Reserves)
ส่วนกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 30.85-31.00 บาทต่อดอลลาร์







