กังวลเงินเฟ้อสหรัฐ

กังวลเงินเฟ้อสหรัฐ

ตลาดหุ้นวานนี้แกว่งตัวผันผวนในแดนบวกสลับลบตลอดช่วงการซื้อขาย โดยตลาดยังไร้ปัจจัยใหม่เข้าหนุน

ประกอบกับนักลงทุนส่วนใหญ่ชะลอการลงทุนและจับตาผลการประชุมของเฟด โดยดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,564.03 จุด -1.70 จุด -0.11% มูลค่าการซื้อขาย 88,020 ลบ. ต่างชาติ -5,273.02 ลบ. TFEX -2,613 สัญญา ตราสารนี้ +266 ลบ.

ปัจจัยบวก

+ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนม.ค. ทั้งนี้ การเพิ่มขึ้นของสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจ เป็นสิ่งบ่งชี้ถึงความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจที่ว่ายอดขายจะเพิ่มขึ้นในช่วงหลายเดือนข้างหน้า
+ รฟท. ได้เร่งรัดการดำเนินโครงการรถไฟทางคู่เชื่อมฝั่งตะวันออกและตกของไทย (อีสต์-เวสต์ คอริดอร์) เพิ่มอีก 2 เส้นทาง คือ แม่สอดตาก-กำแพงเพชร-นครสวรรค์ และนครสวรรค์-บ้านไผ่ เพื่อให้ครบทั้ง 3 เส้น
+ รมว.คลังเปิดเผยว่า ขณะนี้ประเทศไทยเริ่มทยอยฉีดวัคซีนป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 แล้วทำให้มาตรการต่างๆ เริ่มผ่อนคลาย ประชาชนมีความเชื่อมั่นมีการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศเพิ่มมากขึ้น

ปัจจัยลบ

- ดัชนีดาวโจนส์ ลดลง 127.51 จุด หรือ -0.39% โดยได้รับแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐ ซึ่งอาจส่งผลให้เฟด ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงาน และกลุ่มอุตสาหกรรม
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 59 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 64.80 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า การที่หลายประเทศในยุโรประงับการใช้วัคซีนของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า จะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
- สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างข้อมูลจากแหล่งข่าวว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน มีแผนปรับขึ้นภาษีครั้งใหญ่เพื่อนำเงินไปใช้จ่ายสำหรับโครงการด้านเศรษฐกิจระยะยาว โดยจะพิจารณาปรับขึ้นภาษีเงินได้นิติบุคคลจาก 21% เป็น 28% และปรับขึ้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับผู้ที่มีรายได้มากกว่า 4 แสนดอลลาร์ต่อปีขึ้นไป
- 8 ชาติยุโรประงับฉีดวัคซีนของแอสตราฯ ขณะที่มูดี้ส์เตือนปัญหาวัคซีนแอสตร้าฯ ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจเอเชีย

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยยังคงแกว่งตัวผันผวนระหว่างวัน โดยได้รับแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐ ซึ่งอาจส่งผลให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาด ขณะที่ปัจจัยในประเทศยังขาดปัจจัยใหม่หนุน คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,550-1,570 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

• ดัชนีค่าระวางเรือปรับตัวขึ้น TTA PSL RCL
• วัคซีนพาสปอร์ต AWC MINT CENTEL CPN CRC SPA AOT
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากวัคซีนโควิด-19 THG BDMS BCH RAM PRINC VIH

หุ้นรายงานพิเศษ

         CPN    Bloomberg Consensus 60 บาท

•แจ้งเพิ่มงบลงทุนในโครงการดุสิตเซ็นทรัลพาร์ค (DCP) โครงการร่วมทุนกับกลุ่มดุสิตธานีอีก 3.75 พันล. รวมเป็นวงเงินไม่เกิน 21,144 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์รูปแบบผสมประกอบด้วยโครงการศูนย์การค้า อาคารสำนักงาน โรงแรม และที่พักอาศัย เงินทุนส่วนที่เพิ่มขึ้นจะนำไปพัฒนาโครงสร้างและพื้นที่โดยรวมของโรงแรม อาคารที่พักอาศัย และโครงสร้างศูนย์การค้า เพิ่มจำนวนห้องพัก ออกแบบห้องพักขนาดใหญ่ ปรับตำแหน่งของแบรนด์ให้เป็นระดับ Super Luxury ส่งผลให้พื้นที่ใช้งานโดยรวมเพิ่มขึ้นเกือบ 1 ใน 3 หรือกว่าเจ็ดหมื่นตารางเมตร ทยอยเปิดบริการ ปี 66-67

•ปี 64 มีแผนเปิดศูนย์การค้าใหม่ 2 สาขาได้แก่สาขาอยุธยาและศรีราชา พื้นที่เช่าแห่งละ 4 หมื่นตารางเมตร

•ความเห็น โครงการดังกล่าวเป็นโครงการขนาดใหญ่ในทำเลที่ดีมากใจกลางเมือง คาดว่าเมื่อเปิดดำเนินการจะช่วยเสริมศักยภาพในการแข่งขันและสร้างรายได้ให้เติบโตต่อเนื่อง เรามีมุมมองบวกต่อการลงทุนในระยะยาว

หุ้นมีข่าว

(+) GULF (Bloomberg Consensus 39.25 บาท) วางเป้าปี 64 อีบิทด้า-รายได้เติบโต 50% เหตุเตรียม COD โรงไฟฟ้าเพิ่ม 1,494 MW หนุนกำลังผลิตพุ่ง 7,903 MW พร้อมอัดงบลงทุน 3-4 หมื่นล้านบาท เล็งปิดดีล M&A ต่อเนื่องในไทย-ต่างประเทศ เล็งเพิ่มกำลังผลิตแตะ 14,304 MW ในปี 70 ดันอีบิทด้าแตะ 4 หมื่นล้านบาท/ปี (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) PTG (Bloomberg Consensus 24.50 บาท) “พีทีจี” ร่วมมือ “กฟผ.” เปิดตัวสถานีอัดประจุไฟฟ้า EleX by EGAT สถานีแรกในไทย พร้อมบริการแล้ว 5 แห่ง คลุมโคราช-เพชรบุรี-นครสวรรค์-ชลบุรี-กาญจนบุรี เล็งติดตั้งทุกๆ 100 ก.ม. เหนือจรดใต้ ฟาก “กฟผ.” ตั้งเป้าขยายครบ 120 แห่งทั่วไทยภายในปี 65 (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) AH (Bloomberg Consensus 21.00 บาท) ปักธงยอดผลิตปี 2564 เติบโตไม่ต่ำกว่า 10-15% หลังเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ พร้อมปูพรมรับออเดอร์โมเดลรถใหม่กว่า 1-1.5 พันล้านบาท มองการระบาดของโควิด-19 เป็นบวกได้รับออเดอร์เพิ่มจากคู่แข่งที่ย้ายฐานผลิต ชูใช้กำลังการผลิต 70-80% ชี้ยอดขายไตรมาส 1/2564 โตดีกว่าไตรมาสก่อน (ที่มา ทันหุ้น)

(+) EPG (Bloomberg Consensus 11.75 บาท) รับอานิสงส์มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ หนุนออเดอร์พุ่ง บวกเงินบาทอ่อนค่าดันรายได้ส่งออก ระบุราคาน้ำมันพุ่งไม่กระทบธุรกิจ ระบุสต็อกวัตถุดิบไว้ล่วงหน้าแล้วถึงกลางปี ส่วนงวดบัญชีปีนี้คอนเฟิร์มตามฝันรายได้เหนือ 9 พันล้านบาท รับออเดอร์ขยายตัว (ที่มา ทันหุ้น)

ปัจจัยจับตา

ในประเทศ 

16 มี.ค. ประชุมครม.

17-18 มี.ค. นัดประชุมร่วมรัฐสภา

สัปดาห์ที่ 3 ส.อ.ท. แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม ยอดการผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์

สัปดาห์ที่ 4 ก.พาณิชย์แถลงส่งออก-นำเข้า

24 มี.ค. ประชุมกนง. ครั้งที่ 2/2564

สัปดาห์ที่ 5 สศอ. แถลงดัชนีอุตสาหกรรม

สัปดาห์ที่ 5 สศค. รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค

31 มี.ค. ธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย

ต่างประเทศ

16 มี.ค. ญี่ปุ่นเปิดเผยการผลิตภาคอุตสาหกรรม

           สหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีก ราคานำเข้าและส่งออก การผลิตภาคอุตฯ ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัย และสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจ

16-17 มี.ค. ประชุม FED

17 มี.ค. อียูเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเดือนก.พ.

           สหรัฐเปิดเผยตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้าง สต็อกน้ำมัน FOMC แถลงมติอัตราดอกเบี้ย (เช้า 18 มี.ค.)

18 มี.ค. กำหนดประชุม BoE

           อียูเปิดเผยดุลการค้าเดือนม.ค.

           สหรัฐเปิดเผยดัชนีการผลิต จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

19 มี.ค. ธนาคารกลางญี่ปุ่นประชุม